กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--รี้ดเทรดเด็กซ์
นายชัยณรงค์ ลิมป์กิตติสิน ผู้อำนวยการสายอุตสาหกรรม บริษัท รี้ดเทรดเด็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่า จากการจัดงานเอเชียแพ็คเอเชียพริ้นท์ 2005 และอินเตอร์พลาสไทยแลนด์ 2005 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม นักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติตื่นตัวเข้าร่วมงานคับคั่ง โดยมีผู้เข้าร่วมงานตลอด 4 วัน 75,830คนจากที่คาดการณ์ไว้45,000 คน โดยแบ่งเป็นผู้เข้าร่วมงาน เอเชียแพ็คเอเชียพริ้นท์ จำนวน 45,673 คนและอินเตอร์พลาส จำนวน 30,157 คนและมีการซื้อขายเครื่องจักรเพื่อการผลิตสิ่งพิมพ์ บรรจุภัณฑ์ และพลาสติกภายในงานมากกว่า 50 เครื่อง คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 5 ร้อยล้านบาท คาดว่าจะเกิดการลงทุนซื้อขายเครื่องจักรหลังจากจัดงานภายใน 6 เดือน คิดเป็นมูลค่าเงินสะพัดมากกว่า 3 พันล้านบาท
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล นายกสมาคมการพิมพ์ไทย กล่าวว่า ประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะ ประกาศตัวเป็นศูนย์กลางทางด้านการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนหรือ ASEAN PRINTING HUB และได้ตั้งเป้าการส่งออกสิ่งพิมพ์และการบรรจุภัณฑ์ทางตรงไว้ ที่ 750 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อปีและสิ่งนี้จะเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการพิมพ์และการบรรจุภัณฑ์ไปสู่ความเป็นสากลรวมทั้งเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ซื้อสิ่งพิมพ์ในตลาดโลก ขณะนี้บรรดาผู้ประกอบการพิมพ์ในประเทศไทยได้มีการตื่นตัวและเตรียมพร้อม เพื่อรองรับการที่ประเทศไทยจะเป็นตลาดแห่งการซื้อขายและให้บริการทางด้านการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์อีกแห่งหนึ่งของโลก สามารถให้บริการแก่บรรดาลูกค้ารายใหญ่จากทั่วโลกอาทิเช่น สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน อินโดนีเซีย จีน และอังกฤษโดยในปีนี้คาดว่าการส่งออกในตลาดเหล่านี้ ทำรายได้เข้าประเทศได้ถึง 250 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 10,000 ล้านบาท และในปีหน้าจะคาดว่าตัวเลขการส่งออกสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์จะโตขึ้นกว่า 20
เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้อุตสาหกรรมการพิมพ์ไทยก็เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้มีการจัดกลุ่มรวมตวเป็นคลัสเตอร์ โดยได้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม
การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ครบวงจรแห่งแรกของโลก ที่จังหวัดสมุทรสาคร ในนามนิคมอุตสาหกรรมการพิมพ์สินสาครในนิคมแห่งนี้จะเป็นแหล่งรวมธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านก่อนพิมพ์ งานพิมพ์ หรืองานหลังพิมพ์ รวมถึงผู้จำหน่ายวัตถุดิบให้เข้ามารวมอยู่ในสถานที่เดียวกันเพื่อลดต้นทุนในการผลิตและแข่งขันกับต่างประเทศได้ รวมทั้งจะเป็นตลาดแห่งใหม่ที่ให้บริการทางการพิมพ์ครบวงจรสำหรับผู้ต้องการสั่งซื้อสิ่งพิมพ์จากทั่วโลกและเป็นที่น่ายินดีที่สำนักพิมพ์ใหญ่จากทั่วโลก อาทิเช่นสำนักพิมพ์ของแม็กมิลลัน แม็กกรอฮิลล์และสำนักพิมพ์ของ ไทม์ วอร์เนอร์มีแผนการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับภูมิภาคนี้นิคมสินสาคร มีมูลค่าการลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาทคาดว่าจะเปิดดำเนินการเฟสแรกได้สิ้นปี พ.ศ. 2548 นี้ และจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีพ.ศ. 2550 (จบ)
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ ประชาสัมพันธ์ เกศินี 01-9893416, นวพร05-9079490--จบ--