ครม.อนุมัติแนวทางแก้ปัญหาบัตรสมาร์ทการ์ดแล้ว

พฤหัส ๐๙ ธันวาคม ๒๐๑๐ ๑๓:๓๑
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยถึงแนวทางแก้ไขปัญหาบัตรสมาร์ทการ์ดว่า คณะรัฐมนตรี (ค.ร.ม.)มีมติเมื่อวันนี้ (7 ธ.ค.53) ตามแนวทางที่กระทรวงไอซีทีเสนอ โดยให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขกฎกระทรวงฉบับที่ 22 (พ.ศ.2550) เพื่อรองรับบัตร 26 ล้านใบที่กรมการปกครองได้ออกให้ประชาชนไปแล้วและรายการอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อรองรับบัตรสมาร์ทการ์ดที่ กระทรวงไอซีที ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนคู่สัญญา (บจ.วีสมาร์ท) ผลิตไปแล้วจำนวน 9 ล้านใบให้สามารถนำออกมาใช้งานได้

“การที่ ค.ร.ม. มีมติเลือกแนวทางการแก้กฎกระทรวงมหาดไทยนั้น มีเหตุผลสำคัญ 3 ประการ คือ 1.พิจารณาถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักเพราะแนวทางนี้จะทำให้ประชาชนได้ใช้บัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดเร็วที่สุด โดยคาดว่าจะสามารถนำส่งให้กับอำเภอ หรือเขตต่างๆ ได้ภายในเดือนมกราคม 2554 ภายหลังจากที่กระทรวงมหาดไทยกลับไปแก้ไขกฎกระทรวงฯ ภายใน 2 สัปดาห์ และนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง 2.การเลือกแนวทางนี้แทนการเปิดประมูลใหม่จะทำให้ภาครัฐลดความเสี่ยงจากการถูกฟ้องร้องจากเอกชน กรณีที่ไม่รับบัตรซึ่งผลิตออกมาอย่างถูกต้องตามทีโออาร์และบัตรที่ค้างสต็อกอยู่เพื่อรอการผลิตของบริษัท 3.บัตรสมาร์ทการ์ดรุ่นนี้ถือว่ามีคุณสมบัติที่สูงกว่าข้อกำหนดที่ระบุไว้ คือ มีความสลับซับซ้อนมากกว่าทำให้ปลอมแปลงได้ยากขึ้น จากเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้ ค.ร.ม.เลือกการแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทยแทนการเปิดประมูลใหม่ที่จะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการนานกว่าและเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องมากกว่า” นายจุติ กล่าว

นอกจากนี้ ค.ร.ม.ยังมีมติอนุมัติโครงการธนาคารไปรษณีย์เพื่อรายย่อย โดยให้มีการตั้งบริษัทจำกัดขึ้นเพื่อให้บริการสินเชื่อรายย่อย อันเป็นโครงการที่ต่อยอดจากนโยบายการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาล ซึ่งจะมุ่งเน้นกลุ่มประชาชนที่มีฐานะยากจนไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ จำนวนกว่า 4 ล้านคน และกลุ่มที่ประสบปัญหาเงินกู้นอกระบบ จำนวน 18 ล้านคน โดยจะมีการดำเนินการจัดตั้งให้เร็วที่สุด

ส่วนประเด็นการแก้ไขสัญญาสัมปทานระหว่าง บมจ.ทีโอที กับ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการสรุปแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจนออกมาตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด มีเพียงการส่งจดหมายจากกระทรวงไอซีทีเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก บมจ.ทีโอที และบมจ.กสท โทรคมนาคม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเท่านั้น โดยมีกำหนดให้ส่งรายละเอียดเพิ่มเติมมาให้กระทรวงฯ ภายในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ซึ่งกระทรวงฯ จะได้ประมวลความเห็นจากคณะกรรมการมาตรา 22 ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมการงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 และความเห็นกระทรวงไอซีที เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป

สำหรับข้อมูลที่ทางกระทรวงฯ ได้ขอเพิ่มเติมนั้น คือ 1.ความคืบหน้าในการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2.ความคืบหน้าในการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูองค์กรในระยะยาว 3.ความคืบหน้าเรื่องการดำเนินการเปิดประมูลโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 3จีของทีโอที 4.รายงานการเตรียมการส่งมอบทรัพย์สินของบมจ.ทีโอที และบมจ.กสท โทรคมนาคมกับคู่สัญญา และ 5.รายงานฉบับสมบูรณ์ผลสรุปการพิจารณาของคณะกรรมการมาตรา 22 ฯ

?

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 021416747 MICT

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน