สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย ตั้ง บล.ยูไนเต็ด เป็นผู้ประกันและจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุน

กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย
กระจายทั้งสิ้น 92.52 ล้านหุ้นแก่ประชาชน
เปิดขาย 10-11 มีนาคม และเทรดวันแรก 22 มีนาคม
บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) (SMM) แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำการขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ ทั้งสิ้น 92.52 ล้านหุ้นให้กับประชาชน และยังมีโบรกเกอร์อีก 4 รายเข้าร่วมขายหุ้นครั้งนี้ประกอบด้วยบริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน)
นายสุทธิศักดิ์ โล่ห์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ SMM เปิดเผยว่าในจำนวนหุ้นที่นำออกมากระจาย 92.52 ล้านหุ้นครั้งนี้ แบ่งออกเป็นการออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่จำนวน 70 ล้านหุ้น และ 22.52 ล้านหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม โดยกำหนดราคาขายไว้ที่ราคาหุ้นละ 2.65 บาท โดยเริ่มเปิดขายหุ้นตั้งแต่วันที่ 10 ถึง 11 มีนาคม 2548 และคาดว่าจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 22 มีนาคมนี้
ด้านนายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า นัก ลงทุนสามารถจองซื้อหุ้นของบริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย ได้ที่บริษัทฯและโบรกเกอร์ที่ร่วมขายหุ้นครั้งนี้ได้เป็นระยะเวลา 2 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจหุ้นบริษัทดังกล่าวได้มีโอกาสเข้าลงทุนกับบริษัท
“คาดหมายว่าหุ้นจำนวน 92.52 ล้านหุ้นนี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม เนื่องจาก บมจ. สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย ซึ่งประกอบธุรกิจทั้งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายหนังสือการ์ตูนที่มีลิขสิทธิ์รายใหญ่ของตลาดหนังสือการ์ตูน อีกทั้งยังมีหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คส์และนิตยสาร พร้อมกับมีร้านจำหน่ายหนังสือกว่า 20 สาขา อีกทั้งผลการดำเนินงานยังเป็นที่น่าพอใจ โดยมีกำไร 59.47 ล้านบาทในปี 2547” นายจิรายุทธกล่าว
บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด มหาชน ก่อตั้งเมื่อปี 2533 ภายใต้ชื่อบริษัท สยามคอมิคส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายหนังสือการ์ตูนรายใหญ่ ต่อมาบริษัทมีวิวัฒนาการในการขยายไปผลิตหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คส์และนิตยสาร รวมถึงการเปิดร้านหนังสือของตัวเอง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังขยายไปสู่ธุรกิจด้านวิทยุ
รายได้หลักของบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ รายได้จากการจำหน่ายหนังสือและ รายได้จากสื่อวิทยุ โดยในปี 2546 สัดส่วน 70% มาจากการจำหน่ายหนังสือและ 25% มาจากสื่อวิทยุ ส่วนอีก 5% เป็นรายได้จากการเช่าและรายได้อื่นๆ โดยมีรายได้ทั้งสิ้น 492.72 ล้านบาทใน ปี 2547 เพิ่มขึ้น 40.2% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2546 ซึ่งมีรายได้ 351.5 ล้านบาท กำไรสุทธิ 59.47 ล้านบาทในปี 2547
นายสุทธิศักดิ์กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการระดมทุนจากประชาชนผ่าน ตลท. ครั้งนี้ว่าเพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปขยายสาขาร้าน Siam Inter Book Friend การพัฒนาธุรกิจอื่นๆ เป็นต้น “เรามีเป้าหมายที่จะเป็นผู้ให้ความรู้ สาระบันเทิงสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสถาบันครอบครัวและสังคมไทย”
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ วิรัตน์ ตรีรานุรัตน์
โทรศัพท์ 0-1682-2575
โทรสาร 0-2815-8158--จบ--