โม อมีนา พินิจ จากบทร้ายบนจอแก้ว พลิกบทบาทครั้งแรกบนจอเงิน

พุธ ๐๒ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๑ ๑๓:๓๗
โม อมีนา พินิจ จากบทร้ายบนจอแก้ว พลิกบทบาทครั้งแรกบนจอเงินสู่บทเลขาสาวพราวเสน่ห์ นางเอกสาวสุดเซ็กซี่ ผู้กุมความลับเสี่ยโหน่งในภาพยนตร์มหาฮารับตรุษจีน “เท่งโหน่งจีวรบิน”

Q. ก่อนอื่นทำความรู้จักกันก่อน อยากให้โมช่วยแนะนำตัวเองกับผลงานที่ผ่านมา

M. สวัสดีค่ะ โม อมีนา พินิจค่ะ โมเริ่มเข้าวงการตั้งแต่อายุ15 ค่ะ แล้วโมได้เข้ามาอยู่ใน บ.อาร์เอสโปรโมชั่นก่อน โมก็เล่นละครเรื่องแรกเรื่องวัยร้าย เฟรชชี่ แล้วก็จะไล่ไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ละครที่โมเล่นจะเป็นละครช่วงบ่าย โมก็จะเล่นอยู่อย่างนี้ประมาณ 5-6 เรื่อง ก็ได้มีโอกาสเซ็นต์สัญญาอยู่กับช่อง 7 พอโมเข้ามาอยู่ช่อง 7 โมก็ได้มีโอกาสเล่นละครดีๆ บทดีๆ อย่างโมได้เล่นละครเรื่องคุณหนูเทวดา, สะใภ้ใจเด็ด, ปอบอพาร์ทเมนท์, สูตรรักกับดักหัวใจ, มนต์รักแม่น้ำมูล, เพลิงพรหม จนมาเท่งโหน่งจีวรบินนี่แหละค่ะ ที่เป็นภาพยตร์เรื่องแรกในชีวิตโมที่ได้รับบทนางเอกต็มๆ ตัว ดีใจค่ะที่ได้มาร่วมงานกับพี่เท่งพี่โหน่ง กับหลายๆ คนได้ร่วมงานกับเวิร์คพอยท์ และสหมงคลฟิล์มฯ ที่เปิดโอกาสให้โมได้เข้ามาเล่นตรงนี้ ส่วนใหญ่โมจะเล่นละครเป็นหลัก อย่างหนังเต็มตัวก็เรื่องนี้เรื่องแรกนะ ตอนอายุ 15 โมเคยเล่นหนังอยู่เรื่องหนึ่งคือเรื่อง คลับซ่าส์ปิดตำราแสบ แล้วก็กระโดดมาเรื่องนี้เลย ถามว่าชอบหนังไหม ส่วนตัวแล้วโมชอบหนังมาก โมชอบภาพ ชอบแสง ชอบภาพของหนังเพราะดูสวย เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีโอกาสมั้งค่ะ เราไม่ได้เลือก คงคิดว่ายังไม่ถึงเวลาของเรามั้งค่ะ เคยจะได้เล่นอยู่หลายเรื่อง แต่ด้วยความที่โมติดสัญญาทำให้โมไปเล่นกับเขาไม่ได้บ้าง

Q. แล้วมีบทบาทไหนที่อยากเล่นเป็นพิเศษไหม

M. ก็คอมิดี้นี่แหละที่โมอยากเล่น โมอยากเล่นหนังผีด้วยนะ เพราะโมเป็นคนชอบดูหนังผี โมก็อยากรู้เหมือนกันว่าในกระบวนการทำหนังผี ในการสร้างหนังผี มันจะน่ากลัวเหมือนกับที่เราได้เห็นรึเปล่า แล้วก็หนังพีเรียดหนังอะไรก็อยากเล่นค่ะ ส่วนตัวชอบหนังผีกับหนังตลกค่ะ แต่ตอนนี้ได้เล่นหนังตลกแล้ว (หัวเราะ)

Q. มาถึง “โท่งโหน่งจีวรบิน” ถือว่าเป็นการขึ้นจอใหญ่แบบเต็มๆ ตัวในฐานะนางเอกกับภาพยนตร์ตลกแบบเต็มๆ ตัวเป็นครั้งแรก

M. โมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องได้มาเล่นเป็นนางเอก เพราะโดยส่วนตัวโมเองก็ไม่ได้ชอบเล่นเป็นนางเอกซะทีดียว คืออย่างโมชอบคาแรคเตอร์ หรือคุ้นเคย รักที่จะเล่นในบทร้ายมากกว่า หมายถึงที่ผ่านมานะค่ะ เพราะว่าเรามีโอกาสได้เล่นหลายอย่าง ทั้งหน้าตาทั้งท่าทาง คือตัวโมไม่ใช่คนเรียบร้อยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นท่าทางที่โมจะแสดงออกไป มันก็จะ...ชอบ เป็นคนอยู่ไม่นิ่ง เพราะฉะนั้นถ้าจะให้เล่นเป็นนางเอกเจ้าน้ำตา โอเคโมเล่นได้ แต่ถ้าถามถึงความถนัดความชอบ ก็คงชอบบทร้ายมากกว่า

Q. แสดงว่าในเท่งโหน่งจีวรบินเรื่องนี้ถือว่าเป็นการพลิกบทบาทจากที่ผ่านมา

M. ต่างจากตัวจริงไหม ต่างค่ะ เพราะโมเป็นคนที่แทบจะไม่มีศิลปะป้องกันตัว แต่ว่าในคาแรคเตอร์ของตัวแพรเขาจะป้องกันตัวเองได้ เขาจะเหมือนกับว่าเรียนเทควันโด้เรียนอะไรมาก่อนค่ะ เราก็ต้องฝึกให้มันดูสมจริง เราก็ต้องใช้แรงฝึกจากพี่นักแสดงหลายๆ คนช่วยเรา ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ หนูก็จะเจอ พี่เท่ง พี่เต๋า เจออาสมเล็ก เจอแก๊งค์สามช่า เจอพี่โหน่ง เจอพี่ตุ๊กกี้ เจอหลายคนมาก เจอพี่ส้ม พี่ท๊อฟฟี่ แล้วก็เจอ ซึ่งแต่ละคน คือโมยังไม่เคยร่วมงาน แล้วแต่ละคนเซียน เซียนหมดทุกคนเลย แล้วเราก็มาคิดว่าจะทำอย่างไรดีนะที่จะไม่ให้เราเป็นตัวถ่วงของพี่ๆ เขา ซึ่งโมก็จะตั้งใจที่จะทำออกมาให้ดีที่สุด ให้เป็นแพรสมกับที่พี่เท่งตั้งใจเลือกเรามาเป็นแพรนั้นแหละค่ะ

Q. คงต้องให้อธิบายถึงบทบาทและคาแรคเตอร์ รวมไปถึงเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องเท่งโหน่งจีวรบินให้ฟัง

M. ก็สำหรับคาแรคเตอร์ในหนังเรื่องนี้ก็จะเป็นคนนิ่งๆ ขรึมๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นคนฉลาด มีศิลปะป้องกันตัว เป็นคนสู้คนเหมือนกัน แล้วก็รับหน้าที่เป็นเลขาของ เสี่ยโหน่ง ที่ชื่อว่า แพร ส่วนเรื่องราวของภาพยนตร์ก็จะเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับเสี่ยโหน่ง มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากๆ ต้องการจะเดินทางกลับประเทศไทย โดยที่มีพระเท่งเข้ามามีส่วนร่วม คือร่วมเดินทางไปกับเครื่องบินส่วนตัวของเสี่ยโหน่งด้วย โดยในระหว่างเดินทางกลับ ก็มีเหตุการณ์ มีการปล้นบนเครื่องบินขึ้น มีการยิงกัน และมีเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก จากกลุ่มโจรที่จะเอาความลับจากเสี่ยโหน่งซึ่งแพรเป็นคนกุมความลับจากเสี่ยโหน่งไว้ จึงทำให้แพรและพระเท่งต้องไปเผชิญวิบากกรรมด้วยกัน ซึ่งในวิบากกรรมครั้งนี้ก็จะมีทั้งรอยยิ้ม มีทั้งสนุกสนานเฮฮา มีทั้งมุกตลกๆ และอีกหลากหลายรูปแบบมากมาย

Q. พอรู้ว่าเท่ง เถิดเทิงตั้งใจเลือกให้เรามารับบทนี้ เรามีการคิดหรือเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

M. คิดค่ะ คิดเหมือนกัน จำได้ว่าวันแรกเลยของโมที่มาแคสท์ติ้ง คือพี่เท่งเห็นรูปโม ซึ่งพี่เท่งเขาก็จะมีลิสต์นางเอก 4-5 คนในสต็อคของเขาที่เรียกมา แล้วคือพอโมมาถึง เขาก็จะมีบทให้โมดูแผ่นหนึ่ง แล้วให้โมแสดงออกมาเองเลยว่า ถ้าโมเป็นแพรควรจะแสดงบทออกมาอย่างไร แล้วสีหน้าของแพรเวลาที่อยู่ต่อหน้าโจรจะแสดงออกมาอย่างไร แพรเก่งนะ แพรฉลาด แพรรู้ทันคน แพรมีศิลปะป้องกันตัว มีป้องกันตัวเองได้ แต่การที่เราเป็นผู้หญิงคนเดียวในกองโจร เราก็ต้องกลัว คุณจะแสดงออกมาอย่างไร มันยากนะ โมพยายามทำหน้าแบบว่าเออโอเค เราพยายาม ทำลักษณะท่าทางว่าเราหลบตาคุณนะแต่ว่า เราก็ต้องกลัว แต่ถามว่าให้ฉันบอกรหัสคุณมั้ย ฉันก็ไม่บอก เพราะนั้นคือความลับของเจ้านายเรา ซึ่งเจ้านายเราสั่งมา เราก็ต้องพยายามเล่นให้ดูแข็งให้ดูอ่อนในเวลาเดียวกันค่ะ เราก็พยายามทำเต็มที่แล้ว แต่พอรู้ผลว่าเราได้ ก็ดีใจมาก เพราะโมไม่เคยรับบทบาทแบบนี้มาก่อน พอเราทำได้ก็อึ้มมมม มันก็ท้าทายเราดีเหมือนกัน

Q. ได้ข่าวว่าโดยส่วนตัวเป็นแฟนตัวจริงของแก๊งค์สามช่าอยู่แล้ว

M. ใช่ เราปลื้ม คือโดยส่วนตัวโมเป็นคนปลื้มพี่เท่ง เถิดเทิงอยู่แล้ว คือโมเคยร่วมงานกับ พี่ส้มเช้ง สามช่ามาก่อน โมเองก็ต้องขอบคุณพี่ส้มเช้ง สามช่าเหมือนกันที่แนะนำโมให้รู้จักกับพี่เท่ง เพราะว่าโมได้ร่วมงานและได้เล่นละครกับพี่ส้ม แล้วเราสนิทกันค่ะ (หัวเราะ) พี่ส้มก็เลยบอกว่าเท่งหานางเอกอยู่ลองไปแคสท์ดูไหม แล้วเขาก็แนะนำให้รู้จัก ซึ่งถ้าไม่มีพี่ส้มหนูก็คงไม่ได้เล่นเป็นตัวแพร ณ ทุกวันนี้ค่ะ แล้วอย่างที่ผ่านมาหนูเล่นแต่คาแรคเตอร์ร้ายๆ ใช่มั้ยค่ะ ใครที่เคยดูละครหรือเคยติดตามผลงานที่ผ่านมาจะเห็นส่วนใหญ่โมจะเล่นบทร้ายๆ แต่พอได้มาเล่นแบบนี้ มันก็แปลกไปอีกอย่างนะ ก็อยากให้ทุกคนติดตามดูค่ะ เพราะโมเองก็ทำเต็มที่ (หัวเราะ) แล้วก็ไม่เคยเล่นบทอะไรแบบนี้มาก่อน

Q. เสน่ห์ของคาแรคเตอร์นี้น่าสนใจอย่างไร

M. คือถ้าถามว่าตัวแพรมีเสน่ห์อย่างไร คือมีเสน่ห์ตรงคำพูด เวลาแพรพูดอะไรออกไป เป็นผู้หญิงที่จะฉลาดพูดออกมาว่า เนี่ยะฉันให้คุณได้แค่นี้ แล้วเราก็เหมือนกับว่าเราเป็นผู้หญิง พระเท่งก็ช่วยเราอยู่ใกล้ๆ โยมมันอาจจะเป็นแบบนี้ คือเฉไฉให้เราไปเรื่อยๆ แต่ซีนที่โมคิดว่าหินที่สุดคือซีนที่เข้ากับพี่เต๋า คือโมกับพี่เต๋าจะฉะกันบ่อยมาก คือพี่เต๋าพยายามที่จะเอารหัสลับจากเรา พยายามเร่งๆๆๆ กดดันๆๆๆ จนมีอยู่ครั้งหนึ่งจับเราไปขังและพยายามทำร้ายเรา โมว่ายากนะ เราเป็นผู้หญิงที่มีศิลปะป้องกันตัว แต่ก็ต้องเล่นยังไงให้ดูเข้มแข็งไปพร้อมกับกลัวในเวลาเดียวกัน อันนี้ยาก แล้วอย่างในหนังเรื่องนี้เหมือนต้องแบ่งสองพาร์ทคือต้องเล่นดราม่าเข้มข้นเน้นการแสดงในทุกครั้งที่เข้ากับพี่เต๋าเป็นตัวเดียวเลยที่ไม่มีรอยยิ้ม ขณะที่เข้ากับทุกคนที่เหลือทุกคนเป็นตัวละครที่มีรอยยิ้มหมดเลย เพราะคาแรคเตอร์พี่เต๋านี่จะออกมาโหดโหดเลย แต่อย่างคาแรคเตอร์พี่สมเล็กเขาจะโหดแต่บวกกับฮา คือโหดแต่หน้าที่เหี้ยม โมยอมรับว่าโมเป็นคนขำง่ายมาก เพราะฉะนั้นโมต้องมีสมาธิอย่างสูงเพื่อที่จะไม่ขำ เวลาที่เขาเล่นอะไรกัน เพราะท่ามกลางสถานการณ์ต่างๆ มันบีบบังคับให้แพรขำไม่ได้นะ เพราะคุณอยู่ท่ามกลางกองโจร แล้วโจรเล่นมุกจะมาขำมันก็ไม่ใช้ ใช่มั้ยค่ะ แล้วเหตุการณ์ทุกอย่างมันบีบบังคับมาที่ตัวแพรหมด แล้วตัวพี่เท่งเองสั่งโมไว้อย่างหนึ่งว่าสายตาต้องรู้สึกกลัวตลอดเวลานะ แต่เข้มแข็ง เราไม่ได้เป็นคนตาแข็ง เราเป็นผู้หญิง เรากลัวได้นะ แต่เราก็ต้องมีความแข็งในรูปแบบของเราอยู่บ้าง ซึ่งต้องถูกแสดงออกผ่านมาทางสายตาค่อนข้างเยอะนิดนึงว่าเราต้องแสดงสายตาอย่างไรออกไปให้ผู้ชมเขาเชื่อว่าเป็นอย่างนี้ค่ะ

Q. เป็นหนังคอมิดี้ที่มีอะไรมากกว่าแค่ความเป็นคอมิดี้

M. คืออย่างโมหรือหลายๆ คนที่ติดตามผลงานพี่เท่งมา ก็จะออกแนวตลกบวกดราม่าหน่อยๆ นิดๆ มีกลิ่นของดราม่าเข้ามาบ้าง แต่สำหรับเรื่องนี้ที่พี่เท่งกำกับจะมีทั้งแอ็คชั่น มันมีทั้งพื้นฐานของความเป็นตลก คอมิดี้ แล้วก็ดราม่า 3 อย่างรวมกัน มันตื่นเต้น แล้วทำอย่างไรก็ได้ทำให้คนดูไม่รู้สึกเครียดไปกับหนังเพราะปัจจุบันนี้บนพื้นฐานของคนที่เขาเข้าไปดูหนังที่พี่เท่งพูดกับโม คือเขาอยากดูหนังสบายใจบันเทิง แต่เราจะใส่อะไรให้กับคนดูรู้ว่า อ๋อหนังเป็นแบบนี้เรื่องราวออกมาเป็นแบบนี้ ให้คนดูคิด ให้คนดู GET ได้เอง ซึ่งโมว่ามันไม่ไร้สาระอยู่แล้วค่ะ หนังของพี่เท่งเรื่องนี้ โมจะบอกว่าทุกอย่างมีที่มาที่ไป มันมีเหตุผลของมันในการดำเนินเรื่องค่ะ มันมีทั้งหมดทุกอย่างอยู่ในนั้นอยู่แล้ว ถ้าเกิดว่าเราลองดูดีๆ เราลองใส่ใจ เราลองคิดตามในสิ่งที่เราถ่ายทอดใส่ลงไปให้คุณดูก็จะเข้าใจเอง

Q. โชคดีมากได้มีโอกาสร่วมงานกับนักแสดงที่เราปลื้ม

M. โชคดีมากคือโมได้ร่วมงานกับพี่เท่ง พี่โหน่ง คือสามช่า ใครไม่ชอบบ้างละ คือเราปลื้มอยู่แล้ว แล้วพอเราได้มาร่วมงานกับพี่ๆ ทุกคนที่ช่วยให้เราได้เก่ง ให้เราได้กล้าขึ้น รู้จักว่าวิธีการเล่นในแต่ละบทบาท ในแต่ละซีนแต่ละฉากเป็นอย่างไร ยิ่งเวลาที่พี่ๆ เขาเล่นออกมาได้ดีมาก ถ้าเราจะมาเอื่อยอยู่คนเดียวมันก็คงไม่ได้ มันก็เป็นแรงกระตุ้นให้โมเหมือนกันนะ เพราะแต่ละคนผ่านกันมาเยอะมาก โมถือว่าเป็นน้องใหม่ แรกๆ โมก็อาจจะมีเกร็งเหมือนกัน อย่างกรณีพี่เท่ง เราอยู่กับพระ เราต้องเข้าฉากกับพระบ่อย เพราะฉะนั้นโมต้องเรียนรู้อะไรจากพี่เท่งเยอะ บวกกับพี่โหน่ง อาสมเล็กก็เหมือนกัน อย่างอาสมเล็กต้องพูดก่อนว่าตอนโมอายุ 15 โมก็เคยร่วมงานกับอาเขานะ แล้วอาเขาก็จำโมได้ (หัวเราะ) แต่ว่าพอมาเจอกันอีกที ด้วยความที่กาลเวลามันก็เปลี่ยนไปนะ การแสดงเราก็ไม่ได้แบบว่า อย่างโมก็มีการพัฒนาของโมบ้าง แต่อาเขาเก่งอยู่แล้วก็ยิ่งเก่งขึ้นไปเรื่อยๆ เราก็ต้องขวนขวายมากขึ้น ทีแรกโมก็ปรึกษากับทุกคนนะแพรเป็นแบบนี้จะต้องทำอย่างไร พี่ๆทุกคนให้ความร่วมมือหมด ทุกคนน่ารักมาก มันเป็นแฟมิลี่ อย่างพี่เต๋า เป็นคนเล่นทุกฉากทุกซีนได้อย่างจริงจัง คือเขาจะมีการทำอารมณ์ของเขาก่อน ด้วยความที่เขาเล่นเป็นนักเลง เขาเล่นเป็นโจร โหด โหดไปเลย ก่อนนับ 5 เขาจะสูดลมหายใจเขาลึกๆ สูดเข้าไปแล้วผ่อนออก ๆ โมเคยถามเขา โมเคยสงสัยมาก โมเลยถามเขาว่า พี่เต๋า พี่เต๋าทำอะไรค่ะ เขาบอกว่าพี่เรียกอารมณ์พี่อยากให้ทุกอย่างออกมาสมจริง เราก็อุ๊ย เราก็ต้องทำบ้างละ ไม่ได้ เพราะพี่เขาทุ่มเทขนาดนี้ เขาจะเป็นคนที่จริงจังมากสำหรับการแสดง ถ้าอันไหนเขาเล่นออกไปแล้ว เขารู้สึกว่ายังไม่ดี ทั้งที่ทุกคนบอกเล่นดีแล้วนะ แต่ถ้าพี่เต๋าบอกว่าไม่ดีปุ๊บ เล่นใหม่ อย่างนี้เลยค่ะ แล้วเวลามากองแต่ละทีมันเหมือนพี่เท่งกางบทปุ๊บ อย่างนี้ดีไหมดีไหม พี่เต๋าเขาจะดูไดอาล็อคของเขา พี่ผมพูดแบบนี้ได้เปล่า ผมว่าผมพูดแบบนี้ดีเปล่า คือมันเป็นการแชร์ความคิดว่า อันนี้เราไม่ได้เถียงว่ามันไม่ดี คือมันดีมันดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเราเติมแบบนี้เข้าไป มันโอเคกว่าเปล่า หรือในประโยคของโม ที่บอกว่า ประโยคนี้โมไม่จำเป็น พี่เท่งเห็นว่ามันไม่จำเป็นต้องพูดออกมาก็ได้ คุณก็แสดงออกทางสีหน้าซิ ทางสายตาซิ แล้วมันก็ออกมาเวิร์คจริงๆ แล้วทุกคนเป็นอย่างนี้หมดค่ะ คืออย่างพี่ตุ๊กกี้หรือว่าพี่ส้ม คือนั่นเขามืออาชีพ เวลาเขาเล่น เหมือนเขาเล่นไปโดยธรรมชาติ เล่นโดยเป็นตัวของเขาเองอยู่แล้ว เหมือนมุกสดอย่างนี้ แค่พี่เท่งเล่าให้ฟังว่าโอเคตุ๊กกี้บทของยูเป็นอย่างนี้ละนะ ยูเป็นผู้หญิงไทย รักนวลสงวนตัว ยูปิดข้างหน้าแต่เปิดข้างหลัง ยูอย่างนั้นอย่างนี้ คือทุกคนครีเอทความคิดของตัวเองออกมาได้อย่าง ....ตอนแรกโมฟังโมไม่ค่อยเข้าใจนะ ว่ามันจะไหวไหม แต่แบบพอแสดงออกมา พอได้เห็นการเล่นการแสดงหลายๆ อย่างคือมันออกมาลงตัวค่ะ

Q. จับตาดูการแสดงที่เข้าขากันของคู่หูเท่งโหน่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักแต่ทุกคนรอคอย

M. โมว่ายังไงมันสมกับที่ทุกคนรออยู่แล้ว 2 คนนี้เขาเหมือน ถ้าให้เทียบ เขากลายเป็นคู่หูดูโอ้ไปแล้ว เวลาจะทำอะไรก็ต้องทำด้วยกัน เท่งโหน่งๆๆๆ คือแทบจะพ่วงด้วยกันได้อยู่แล้ว แล้วเวลามาเล่นด้วยกันไม่ต้องห่วงเลย เพราะเขาทั้งสองคนเป็นคู่ขากันอยู่แล้ว ไม่ต้องมีบทก็เล่นด้วยกันได้ ตัวโมเองค่อนข้างชื่นชมในความตั้งใจของพี่ทั้งสองคนนะ คือไม่ว่าเขาจะทำงานดึก ทำงานหนักอะไรมาจากไหน พอเขามาเข้าฉากหนังปั๊บ โอ้โหไม่รู้ว่าเขาเอาแบตเตอรี่ของเขามาจากไหน เขาอัดรายการต่างๆ ของเขา มาทั้งวันทั้งคืนๆๆ เขาแทบจะไม่ได้นอนเลยนะ ก่อนจะเข้าฉาก พี่โหน่งผงกแล้ว แต่พอนับ 5 ปุ๊บ ปิ๊ง อันนี้โมเห็นแล้วแบบอึ้งเหมือนกันค่ะ เจ๋งดีค่ะ เพราะฉะนั้นคือก่อนที่โมจะมาเล่นหนังเรื่องนี้ คือโมก็ดูพี่เขามาทุกเรื่อง ตั้งแต่โหน่งเท่งนักเลงภูเขาทอง เท่งโหน่งคนมาหาเฮีย เราก็ติดตามว่า 2 คนนี้มาอีกแล้วเหรอ จะเล่นยังไงเนี่ยะ บทบาทคุณจะเป็นอย่างไรต่อ คือเราก็พยายามติดตาม และก็โมเชื่อว่าทุกคนก็ติดตามเหมือนๆ กับที่โมติดตามนั่นแหละค่ะ คือยังไงโมว่าภาคนี้สนุกแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นภาคนี้หรือภาคหน้าๆ ภาคอะไรต่อไป ซึ่งโมเชื่อว่าพี่เท่งกับพี่โหน่งเขาทำต็มที่อยู่แล้วค่ะ อยากให้คนดูดูเขา ปลื้มในผลงานของเขา รักในผลงานของเขามากกว่าที่จะแบบว่า มาอีกแล้วเหรอ คู่นี่มาอีกแล้วเหรอ ไม่ใช่ไง คือทุกครั้งที่คู่นี้มาทุกคนจะตื่นเต้น ทุกคนจะเอ๊ะจะมาอย่างไรอีก ดีค่ะ

Q. อุปสรรคสำคัญของการทำงานใน “เท่งโหน่งจีวรบิน” ที่ต้องรับให้ได้

M. ความยากของโมคือ โมพูดจริงๆ นะ คือโมต้องอั้นขำ แล้วอย่างบางซีนที่เขาซีเรียสกันแต่พอไปดูในจอมอนิเตอร์ โมยิ้มนะพี่ อายมาก ด้วยความที่โมไม่เคยเล่นคอมิดี้มาก่อน แล้วโมเป็นผู้หญิงที่ขำง่ายมากโมเป็นคนที่หน้ายิ้มอยู่แล้ว เวลาเล่นละคร เล่นหนังหรือเล่นอะไรก็ตาม หน้าโมเวลาอยู่ในกล้องเหมือนยิ้มไงเพราะฉะนั้นพี่เท่งก็จะสอนทริคโม สมมติเวลาคุณโมโหนะ ห้ามเห็นฟันมันจะดูว่าคุณไม่ยิ้ม หลายอย่างอุปสรรค แล้วการแสดงออกทางสีหน้าของโม บางทีมันยังไม่ชัดเจนพอ เราก็ต้องเพิ่มๆๆ ไปเรื่อยๆ มีเทคนิคที่จะไม่ขำ อย่างสมมติอาสมเล็กเขาฮาอยู่ โมก็จะหันหน้าไปมองพี่เต๋า เพราะพี่เต๋า หน้าเขาจะ (สีหน้าฟุดฟิดโมโห) แล้วคือพี่เท่งเขาจะขำไม่ได้ เพราะเขาเป็นพระ แล้วทุกอย่างต้องสำรวม แล้วพี่เท่งเองก็หลุดเยอะ ก้มหน้าขำ เทค (หัวเราะ) คือบางอย่างเขาเล่นกันสดตรงนั้นแล้วเราตามไม่ทัน เราก็อ้าวพี่ๆ เขาเล่นกันเนียน แต่เราก็ไม่เนียนเท่านั้นเอง ก็พี่เท่งเองเขาก็เหมือนกันค่ะ เขาก็หลุดขำบ่อยอยู่เหมือนกัน ด้วยการที่เขาเล่นเป็นพระ ทุกอย่างก็ต้องสำรวม พระอยู่ดีๆ โจรเล่นมุกจะมานั่งขำก็ไม่ใช่ ใช้มั้ยค่ะ พี่เท่งก็เลยต้องมีการทำสมาธิเหมือนที่โมมีเหมือนกัน โมกับพี่เท่งก็ต้องมีสมาธิ เพราะโมต้องเล่นกลัวตลอดเวลา ส่วนพี่เท่งก็ต้องมีสมาธิหลุดขำไม่ได้ ถ้าหลุดขำก็ต้องมีเทค

Q. สารภาพมาเลยดีกว่าหลุดมากสุดกี่เทค

M. คือไม่เกิน 4 จริงๆ เพราะว่าโมร่วมงานกับพี่ๆ ครั้งแรกคือตั้งใจ ครั้งแต่ไปไม่แน่ (หัวเราะ) 4 เทคเนี่ยะเล่นได้แต่หลุดขำบางกรณี บางมุมคืออย่างเช่นมีอยู่ฉากหนึ่งที่พี่สมเล็กโดนยิงหมอผ่าตัดอยู่ หมอผ่าตัด พี่เท่งกับโมคืออุดปากช่วยกันจับแขน แล้วพี่สมเล็กเขาก็ดิ้นๆๆ แล้วเขาก็ด่าๆๆ หมอ เขาจะด่าแต่คำด่าของเขาก็จะไม่เชิงคำหยาบ แต่คำด่าของเขาแต่ละคำทำให้เราต้องนั่งอุดปากขับรถนั่งก้มหน้าแล้วก็หลุดก็ต้องเอาใหม่ อันนั้นก็จะนานที่สุด เอาผ้าอุดปากเวลาเขาจะพูดอะไรออกมาเป็นคำหยาบมันก็จะพูดไม่รู้เรื่องเลยนะ แล้วพี่สมเล็กพูดทุกสิ่งอย่าง คือเราขำมากๆ แล้วยิ่งเวลา 2 สมเขาเจอกันเข้าฉากด้วยกัน (เต๋าสมชายกับสมเล็ก) เขาจะสนิทกัน แซวโน่น แซวนี่กันตลอด คือจะสนิทกันทั้งในจอและนอกจอ แต่พอเวลาเข้าฉาก อย่างที่โมบอกคือทุกคนจริงจังกันหมด พอเข้าฉากปุ๊บ ปังปังปังปัง จบ รู้เรื่องเลยคือคาแรคเตอร์ทุกคนต้องชัด คือทุกคนต้องรู้เลยว่าคาแรคเตอร์ตรงนี้เป็นอย่างไร

Q. ได้ข่าวว่าตัวพี่เท่งเปิดโอกาสให้เราได้ยิงมุกด้วย

M. ใช่แต่เขาให้โมเล่นมุกตลกแบบหน้าซีเรียสนะ คือให้เล่นมุกตลก พูดหน้าตาย แต่ตลก (หัวเราะ) แต่โมก็ตลกตัวเองเหมือนกัน ชอบนะโมไม่เคยเล่นหนัง แล้วก็มาเล่นมุกอะไรแบบนี้มาก่อน แล้วโมก็ไม่มั่นใจว่าตายแล้วคนจะขำเหรอ (หัวเราะ) แล้วหน้าโมก็ไม่ใช่หน้าที่คุณจะสามารถมาเล่นตลกได้ แต่ไหนๆ โอกาสก็มาเนาะ เล่นก็เล่นค่ะ

Q. ร่วมงานกับ โหน่งชะชะช่า กันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง

M. เหมือนเขาเล่นโดยธรรมชาติของเขาเอง พี่โหน่งเขาดีไซน์คาแรคเตอร์ของเขาเอง เป็นเสี่ยใช่ไหม ได้ มาเลยจัดเต็มทุกอย่าง เขาเล่นคาแรคเตอร์เป็นเสี่ยใช่มั้ย คาแรคเตอร์เขาเป็นเสี่ยทั่วไป ใครๆ ก็เล่นได้แต่นี่พี่โหน่งเล่นแล้วทำให้คาแรคเตอร์นี้ดูมีอะไร คือน่าสนใจนะ พี่โหน่งเล่น ใช่มั้ย แหมใครๆ เขาก็อยากดูเสี่ยโหน่ง สำหรับโมเอง โมรู้สึกว่าการทำงานในกองนี้ โมรู้สึกว่ามันผ่อนคลายนะพี่ มาทำงานกองนี่มาถึงก็อ้าวกินข้าวกินข้าวกินข้าวก่อนแล้วค่อยแต่งหน้า กินข้าวเสร็จ แต่งหน้าเสร็จ รอเข้าฉาก แล้วพอเข้าฉากเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าเรามาทำงาน พอเข้าฉากเราก็มานั่งขำ เราก็นั่ง เออคนนั้นเป็นอย่างนี้ ก็มาพูดๆๆๆ กันเป็นเหมือน เหมือนที่โมบอกคือเป็นแฟมิลี่ เป็นเหมือนครอบครัวแล้วมาอยู่ด้วยกัน

Q. มุมมองความเป็นอัจฉริยะและการแท็คทีมกำกับของเท่ง เถิดเทิง และโอ๋ สมิทธิ์ ทิมสวัสดิ์

M. พี่โอ๋นี่โมนับถือเขานะ พี่โอ๋เป็นคนละเอียดในทุกๆฉ าก ในมุมกล้อง ในภาพที่ออกมาพี่โอ๋เป็นคนละเอียดมาก ถึงโมไม่ได้เข้าไปอยู่ในห้องตัดต่อด้วยตัวของโมเอง แต่ว่าเวลาโมทำงานกับพี่โอ๋กับพี่เท่ง พี่เท่งจะละเอียดในเรื่องคาแรคเตอร์ของตัวนักแสดง แต่ละตัวว่าคุณต้องเป็นแบบนี้ๆๆ ที่เหลือคุณต้องเล่นเป็นธรรมชาติ แต่พี่โอ๋เขาจะเน้นเรื่องภาพเสียงแสงความสมจริง และภาพที่พี่โอ๋ถ่ายออกมาคือสวย โมนับถือคือเขาเป็นคนละเอียดมากๆๆ ในขณะที่พี่เท่งเอง มันเหมือนกับว่าหัวของพี่เท่ง สมองเขาแล่นอยู่ตลอดเวลา พอเจอนั่นโน่นนี่ เขาเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์อยู่ในตัวอยู่แล้ว เขาคิดตลอดเวลา เป็นฉากๆ นี้ใช่มั้ย แพรเป็นแบบนี้ใช่มั้ย เขาจะคิดเขาจะบ่นของเขาตลอดเวลา แล้วเขาก็จะปิ๊งปุ๊บเขาก็จะขายว่าโอเคเปล่า โอเคเปล่า เหมือนตอนที่มาถ่ายฉากจบ กว่าฉากจบจะลงตัวนานนะค่ะ เพราะเขาคิดได้ปุ๊บเขาก็มาเขียน พอคิดได้ปุ๊บเขาก็มาเขียน แล้วก็มาเลือกๆๆๆๆ อีกทีแล้วทุกอย่างก็จะลงตัวมาเป็นก้อนเดียว อย่างนี้เลยค่ะ

Q. เป็นหนังคอมิดี้ที่คละคลุ้งไปด้วยเสียงหัวเราะแต่สอดแทรกเรื่องราวธรรมและความดี

M. สิ่งที่พี่เท่งพูดตลอดเวลาคือหนังเรื่องนี้เป็นหนังครอบครัว เพราะฉะนั้นสิ่งที่พี่เท่งทำออกมาเป็นกลางค่ะไม่มีมากไปไม่มีน้อยไป ไม่มีการเอนเอียงไปให้ใครหลายคนเข้าใจผิด ไม่มีการล้อเลียนสิ่งนั้นเราจะไม่แตะ แต่เราจะแตะเรื่องธรรมเป็นหลัก แล้วก็คอมิดี้ใส่เข้าไปแอ็คชั่นเติมดราม่าบวกเท่านั้น ถ้าหากทุกคนได้ดู โมกล้าการันตีว่าทุกคนจะพูดว่าไม่ไร้สาระหรอกค่ะ อย่างเวลาเขาเล่นมุกออกไปมุกหนึ่ง ธรรมะเข้าแทรกแล้วนะ แล้วทุกช็อตเลยนะนะ พูดได้ว่าเป็นธรรมชาติพี่เท่งเลยนะในการกำกับหนังเรื่องนี้ อย่างซีนที่ถ่ายทำแต่ละซีนลองดูดีๆ ว่าจะต้องมีสาระ พี่เท่งจะต้องมีธรรมะเข้าแทรกเข้าไปบวกกับมุกตลก แกจะเป็นอย่างนี้ตลอด เหมือนกับตอนที่เข้าฉากกับพี่สมเล็กพูดเรื่องน้ำนมแม่ พูดถึงเรื่องบุญคุณของแม่ แต่ตบด้วยมุกตลกอีกทีหนึ่ง มันก็จะดูไม่เครียด และก็ไม่ใช่หนังที่จะสอนธรรมะ เป็นหนังคอมิดี้ โมว่าโมพูดไปเดี๋ยวจะหาว่าโมเว่อร์รึเปล่า โมมาโปรโมท แต่โมคิดว่าถ้าทุกคนไปดูจะพูดเหมือนโมนะ ว่าเขาเอาธรรมะกับคอมิดี้ เขาเอาหลายๆอย่างมาผสมผสานกันอย่างลงตัวนะ หรือแม้แต่ซีนพี่เท่งสอนธรรมะให้กับชาวบ้าน ให้กับคน แต่ก็แอบมีมุกฮา หยอด คือมันก็แบบ เป็นมุกธรรมะที่แบบ มันเป็นเรื่องจริงนะ ในแต่ละอย่างที่พระเท่งสอน มันเป็นสัจธรรมจริงๆ มันเป็นเรื่องจริง มันเป็นสิ่งที่เราเห็นได้ด้วยในชีวิตประจำวันของมนุษย์เราเอง แต่เขาสามารถที่จะทำออกมาให้ขำ ออกมาให้ตลก คือเก่งค่ะ เชื่อว่าทุกคนดูได้ดูได้ทุกวัยแน่นนอนไม่ต้องห่วง

Q. ไม่ใช่หนังศาสนาที่จะนั่งมาสอนๆๆๆคนดู

M. ถามว่าหนังเรื่องนี้เขาสอนไหม เขาสอนนะ แต่สอนในแง่ของความเป็นจริงไง บวกกับความเป็นจริงที่เป็นอยู่ แล้วเขาก็เอาอันเนี้ยะมาเทียบให้กับผู้ชมดูว่า มันเรื่องจริงนะ มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เขาจะออกมาในแนวนี้มากว่าที่จะสอนปุ๊บโดยไม่ให้คนดูเห็นภาพ ไม่ใช่ เขาทำให้คนดูเห็นภาพด้วยว่าที่เขาสอนแบบนี้เพราะอะไร เขามีเหตุผล ทุกอย่างมีเหตุผลของเขา

Q. ทำไม เท่งโหน่งจีวรบินถึงเป็นหนังที่คนดูห้ามพลาด

M. ที่ห้ามพลาด เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างในหนังสามารถเกิดขึ้นจริงๆ ได้ เราไม่ได้จำลองเหตุการณ์หรือมานั่งสอนคนดูในเรื่องของธรรมะหรือสอนคนดูหลายๆ แง่นะ เพราะโมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้ถ้าทุกคนดูดีๆ จะเข้าใจเอง โมเล่นเองยังเข้าใจเลยว่า อ๋อมันก็เป็นเรื่องจริงเลยนะที่เขาถ่ายทอดออกมาให้เราเห็น ให้เราได้ดู มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะมันไม่ใช่เรื่องไกลตัว มันเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถรู้ได้ วันหนึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นกับคุณก็ได้ ใครจะไปรู้ วันหนึ่งมันอาจจะ เมื่อคุณได้ยินคำสอนของพระเท่งคำนี้ มันเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว ลองฟังลองคิดตามดู แล้วจะรู้เลยว่าอืม มันไม่ใช่อะไรที่ไม่เป็นความจริง ทุกอย่างมันเป็นความจริงหมด

Q. นอกจากผลงานหนังเท่งโหน่งจีวรบินแล้ว มีผลงานอะไรอีก

M. ตอนนี้กำลังถ่ายละครของเวิร์คพอยท์อีกเรื่องหนึ่งของ พี่ธง (ธงชัย ประสงค์สันติ) ก็เป็นละครในแนวอีสานๆ หน่อยเรื่อง “มนต์รักแม่น้ำมูล” แล้วก็มี “เพลิงพรหม” ของพี่ต้อ มารุต เป็นละครออกผู้หญิงๆ หน่อย ออกดราม่าหนักๆ แล้วก็มีเท่งโหน่งจีวรบิน ก็คิว 7 วันเต็มนะ อย่างมนต์รักแม่น้ำมูลก็จะถ่าย จ-อ-พ และเพลิงพรหมก็พฤหัส- อาทิตย์ อย่างในคิวละครเรื่องหนึ่งโมอาจจะไม่มีพฤหัสถึงอาทิตย์ก็ได้ โมอาจจะมีพฤหัส ศุกร์ เสาร์ แล้วอาทิตย์ว่างก็ได้ มันแล้วแต่

Q. ทำงานหนักอย่างนี้แล้วแบ่งเวลาพักผ่อนอย่างไร

M. ชีวิตมีความสุขดีค่ะ ทุกอย่าง ทำเงินเสร็จโมก็จะพยายามนอน เอาร่างกาย เอาสภาพจิตใจให้ เต็มที่แล้วเราจะเที่ยวเมื่อไหร่จะทำอะไรเมื่อไหร่ก็ได้ โมคิดว่าพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนดีกว่าแค่นั้นพอแล้ว

Q. มีข้อแนะนำอย่างไรจะบอกน้องๆ ที่เข้ามาทำงานในวงการอย่างไรบ้าง

M. โมคิดว่าทุกคนควรจะมีเป้าหมายของตัวเองว่าเข้ามาแบบนี้ไม่ได้เข้ามาเรื่อยๆ เฉื่อยๆ นะ เข้ามาคุณต้องพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เข้ามาการแข่งขันสูงนะ เพราะมันไม่ได้มีแค่ไม่กี่คน สิ่งที่เราจะทำได้ก็คืออะไรที่เขาหยิบยื่นให้โอกาสคุณมาควรจะคว้าไว้และทุกบทบาทที่เล่นไม่ว่าจะเป็นตัวอะไรก็ตาม ทุกตัวสำคัญหมด ไม่จำเป็นต้องเป็นพระเอกหรือนางเอก ถ้าในเรื่องๆ หนึ่งขาดตัวใดตัวหนึ่งไปก็ไม่อาจเป็นละครเป็นหนังเรื่อหนึ่งได้หรอกค่ะ ก็พยายามตั้งใจและมีสมาธิเยอะๆ ในการทำงาน ขอบคุณค่ะ

Q. ฝากแฟนๆ ติดตามผลงาน

M. ฝากบอกแฟนๆ ค่ะก็ทุกผลงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม โมตั้งใจทุกอย่างไม่ว่าจะออกมาดีหรือไม่ดี โมก็จะพยายามที่จะพัฒนาไปเรื่อยๆ และก็ทำผลงานให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง