ปภ.เตือนใช้รถเติมก๊าซถูกวิธี ........ป้องกันระเบิด - เพลิงไหม้รถ

ศุกร์ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๑ ๑๐:๓๓
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนผู้ใช้รถติดตั้งระบบก๊าซ ให้เติมก๊าซจากสถานีบริการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ในขณะเติมก๊าซให้ดับเครื่องยนต์ ห้ามใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ทุกชนิด รวมถึงไม่ก่อประกายไฟ ไม่สูบบุหรี่ในบริเวณที่เติมก๊าซ หมั่นนำรถเข้าตรวจสอบระบบก๊าซจากศูนย์ติดตั้งตามระยะเวลาที่กำหนด หรือตรวจสอบ ในเบื้องต้นด้วยตนเองอย่างน้อย 3 เดือนครั้ง เพื่อป้องกันก๊าซรั่วไหล ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดระเบิดหรือเพลิงไหม้สูง

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนรถติดตั้งก๊าซเพิ่มมากขึ้น แต่เนื่องจากก๊าซมีคุณสมบัติติดไฟง่าย จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยสูง เพื่อความปลอดภัย ขอแนะวิธีปฏิบัติสำหรับผู้ใช้รถเติมก๊าซ ดังนี้ การเติมก๊าซ ไม่เติมก๊าซโดยวิธีถ่ายเทก๊าซจากถังหนึ่งไปสู่อีกถังหนึ่ง ให้เติมก๊าซจากสถานีบริการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มีหัวจ่ายที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย พร้อมตรวจตราการปฏิบัติงานของพนักงานในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเปิดฝาถังก๊าซ ระหว่างเติมไม่มีก๊าซรั่วไหล สายท่อก๊าซ ไม่บิดงอ หรือเป็นเกลียว พร้อมปิดฝาถังก๊าซให้สนิททุกครั้ง ไม่เติมก๊าซเกินแรงดันที่กำหนดไว้ของถังก๊าซแต่ละประเภท หรือเขย่ารถให้สามารถเติมก๊าซได้มากขึ้น เพราะจะทำให้ถังเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และเสี่ยงต่อการเกิดระเบิด ในขณะเติมก๊าซ ให้ดับเครื่องยนต์ และห้ามใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ทุกชนิด เช่น เครื่องมือสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ รวมถึงไม่ก่อประกายไฟ ในบริเวณที่มีการเติมก๊าซ เช่น สูบบุหรี่ การดูแลรถที่ใช้ก๊าซ หมั่นนำรถเข้าตรวจสอบระบบก๊าซจากศูนย์ติดตั้งตามระยะเวลาที่กำหนด หรือตรวจสอบในเบื้องต้นด้วยตนเองอย่างน้อย 3 เดือนครั้ง โดยใช้น้ำสบู่หยอดตามข้อต่อท่อส่งก๊าซ พร้อมสังเกตรอยฉีกขาดของท่อที่อยู่ใต้ท้องรถและบริเวณที่เติมก๊าซ หากพบรอยรั่วซึมหรือได้กลิ่นก๊าซรั่วไหลให้รีบนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขในทันที กรณีจอดรถยนต์ที่ติดตั้งระบบก๊าซไว้เป็นเวลานาน ให้ปิดวาล์วมือหมุน ที่ถังก๊าซ เพื่อป้องกันระบบไฟฟ้าขัดข้อง จนเกิดการระเบิดและเพลิงไหม้รถ กรณีเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ที่ติดตั้งระบบก๊าซ ให้รีบดับเครื่องยนต์และปิดวาล์วถังก๊าซทันที เพื่อป้องกันก๊าซรั่วไหล พร้อมรีบออกห่างจากตัวรถ และห้ามกระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดประกายไฟในบริเวณดังกล่าว หากยังได้กลิ่นก๊าซรั่วไหล ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์อย่างเด็ดขาด ให้แจ้งหน่วยฉุกเฉิน เพื่อเตรียมระงับเหตุ เพราะอาจเกิดการระเบิดหรือเพลิงไหม้รถ กรณีไม่มีกลิ่นก๊าซ ให้เปลี่ยนมาใช้ระบบน้ำมันแทน และ รีบนำรถไปตรวจสอบสภาพจากศูนย์บริการโดยด่วน

?

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2243-2200 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๖ กทม. ประเมินผล Lane Block จัดระเบียบจราจรหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ พบรถแท็กซี่-สามล้อเครื่องจอดแช่ลดลง
๑๗:๐๓ สมาคมประกันวินาศภัยไทย Kickoff การใช้ข้อมูล Non-Life IBS พร้อมส่งมอบรายงานข้อมูลสถิติในการพัฒนาธุรกิจประกันภัยของประเทศ
๑๗:๓๖ 3 โบรกฯ ประสานเสียงเชียร์ ซื้อ SAV เคาะราคาเป้า 24-25 บาท/หุ้น คาดกำไร Q1/67 ทุบสถิติออลไทม์ไฮ รับปริมาณเที่ยวบินเพิ่ม เก็งผลงานทั้งปีโตเด่น
๑๗:๐๓ Minto Thailand คว้ารางวัล Best Official Account จาก LINE Thailand Award 2023
๑๗:๒๔ กทม. ตรวจสอบความปลอดภัยอาคาร ป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ เตรียมพร้อมหน่วยเบสท์รองรับพายุฤดูร้อน
๑๗:๓๒ ไขข้อสงสัย.เมื่อซื้อแผงโซล่าเซลล์แล้วจะขนย้ายกลับอย่างไรให้ปลอดภัย โดย เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย)
๑๖:๔๕ ไทเชฟ ออกบูธงาน FHA Food Beverage 2024 ที่สิงคโปร์
๑๖:๕๓ เนื่องในวันธาลัสซีเมียโลก มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคธาลัสซีเมียในประเทศไทย
๑๖:๓๕ EGCO Group จัดพิธีเปิดโรงไฟฟ้า EGCO Cogeneration (ส่วนขยาย) อย่างเป็นทางการ
๑๖:๒๖ เพลิดเพลินไปกับเมนูพิเศษประจำฤดูกาล: อาหารจากแคว้นซิซิลี ประเทศอิตาลี ที่ โวลติ ทัสคาน กริลล์ แอนด์ บาร์ โรงแรมแชงกรี-ลา