ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัทเสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่าปีนี้ บริษัทฯ กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ซึ่งถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะ“เสนา” จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่น่าสนใจ โดยเริ่มจากการปรับโฉมของ “เสนา” ให้ทันสมัย ด้วยการปรับโลโก้ใหม่ พร้อมสโลแกน “เสนาคือความภูมิใจ” และแนวทางการดำเนินงานใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเติบโตให้กับบริษัทอย่างยั่งยืน
“ระยะเวลาที่ผ่านมา “เสนา” มีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง เติบโตขึ้นเป็นลำดับและมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการทำงานที่มีความช่ำชองและการโฟกัสในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว ทำให้ชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจจากลูกค้า แต่ “เสนา” จะไม่หยุดนิ่งเพียงเท่านี้ เรามีเป้าหมายที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ และพร้อมเปิดรับต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อพัฒนาตัวเองให้ทันสมัยอยู่ตลอดและก้าวทันกับโลกและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทุกนาที”
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กล่าวต่อว่า Key Success Factors ที่ “เสนา” ใช้ยึดเป็นหลักในการทำธุรกิจเพื่อให้เติบโตไปได้อย่างยั่งยืนและสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับที่ คือ 1.Trust 2.Customer Centric 3.Knowledge Sharing และ 4.CSR โดยทั้ง 4 ปัจจัยถูกหลอมรวมให้เป็นหนึ่งเดียวและถูกนำมาปรับใช้อย่างลงตัวจนทำให้ชื่อของ “เสนา” เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและได้รับการยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
อันดับแรกคือ Trust ความน่าเชื่อถือ “เสนา” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว มีชื่อย่อในการซื้อขายคือ SENA และทำธุรกิจนี้มา 30 ปี และนับตั้งแต่เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนผลประกอบการมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องทุกปีและมีการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นเป็นประจำ สำหรับผลการดำเนินงานครั้งล่าสุดสิ้นสุดปี 2553 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 316 ล้านบาท เท่ากับ 25.4% ของรายได้รวม และคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของปีที่ผ่านมา ส่วนกำไ รขั้นต้นบริษัทก็ยังคงรักษาสัดส่วน Gross Profit ไว้ได้ที่ 41.3% ซึ่งถือว่าแข็งแกร่งมาก และสำหรับเงินปันผลจากผลประกอบการปี 2553 จะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ตามนโนบาย 40% ของกำไรสุทธิ ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ 0.1877 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 8.77% ซึ่งจัดว่าเป็นบริษัทที่จ่ายเงินปันผลสูงเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่มธุรกิจเดียวกัน
อันดับสอง คือ Customer Centric ทั้งนี้เพราะนอกเหนือจากความคิดที่ว่าความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทแล้ว ต้องมีการนำเอาความต้องการของลูกค้ามาเป็นตัวตั้งหรือ Customer Centric ซึ่งการทำ Consumer Centric คือการวิจัยและหาข้อมูลว่าลูกค้าต้องการอะไร ชอบอะไร แล้วก็ไปหาตรงนั้น ดังนั้นการทำ Customer Centric ซึ่งไม่ได้หมายความว่าถ้าลูกค้าชอบอะไรก็ทำแบบนั้น แต่ “เสนา” คิดเผื่อให้ด้วย
อันดับสามคือ Knowledge Sharing สำหรับ “เสนา” ถือเป็นองค์กรที่มีความรู้สั่งสมประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์ 30 ปี ในทุกๆโครงการที่ทำ ได้ใช้องค์ความรู้ขับเคลื่อน ทั้งยังมีการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง และมีการแชร์ความรู้ให้กับวงการเสมอๆ ทำให้ได้รับรู้สิ่งใหม่และนำมาถ่ายทอดแบ่งปันประสบการณ์หรือความรู้ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและมั่นใจ
สุดท้ายคือ CSR การแบ่งปันเพื่อสังคมที่ดีขึ้น สำหรับ “เสนา” การทำ CSR เป็นมากกว่าการนำเงินไปให้เพื่อการกุศล CSR แต่คือการทำงานโปร่งใสในการทำงาน และการคิดถึง Partners ทุกคน ซึ่งถือว่าตรงนี้คือหัวใจที่ดีมากในการทำธุรกิจ ทั้งนี้ “เสนา”มีโครงการที่ทำมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 3 ปีแล้วนั่นคือโครงการบ้านร่วมทางฝันซึ่งได้ตั้ง Concept ของโครงการบ้านร่วมทางฝัน ว่า “ปันเวลาส่วนเหลือเพื่อสังคม” โดยกลุ่มผู้บริหารของ “เสนา” ร่วมมือ ร่วมแรง และร่วมใจกัน ใช้เวลาว่างในช่วงวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มาทำโครงการ บ้านร่วมทางฝัน ด้วยการทำด้วยใจ โดยกำไรทั้งหมดจากการทำโครงการนี้ จะนำไปมอบให้กับการกุศล
"กับสุดยอดกับความภาคภูมิใจครั้งยิ่งใหญ่เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของ "เสนา" ที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้งกับการปรับโฉมใหม่ให้ทันสมัย และแนวทางการดำเนินงานใหม่ สร้างความเติบโตให้กับบริษัทอย่างยั่งยืน ด้วยการเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการบ้านและคอนโด และอีก 2 โครงการธุรกิจเช่า พร้อมขยายฐานธุรกิจ เปิดบริการด้านนิติบุคคลและบริการ Resale Agent และที่ขาดไม่ได้คือโครงการบ้านร่วมทางฝัน 3 ที่ยังยึดมั่นในการทำโครงการ CSR แบ่งปันเวลาส่วนเหลือเพื่อสังคม พร้อมกันนี้ยังได้จัดแคมเปญพิเศษเพื่อฉลองให้กับการก้าวสู่ปีที่ 30 และเป็นการตอบแทนลูกค้าอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการจับมือกับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย คิดอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุดถึง 30 เดือน โดยจะเริ่มในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 24 ระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคมนี้” ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กล่าวในที่สุด