นายสมบัติ คุรุพันธ์ ป.กก. กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีพันธสัญญากับกลุ่มประเทศอาเซียน ในปี 2015 ในหลายกรณีโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ที่จะต้องมีการพัฒนาสมรรถนะด้านวิชาชีพด้านการท่องเที่ยว ตามหลักสูตรอาเซียน ในหลายหลักสูตรไม่ว่า หลักสูตรพนักงานต้อนรับส่วนหน้า(Front Office) หลักสูตรแม่บ้าน(House Keeping) หลักสูตรไกด์ทัวร์(Tour Operation) หลักสูตรผู้ประกอบการอาหาร(Food Production) หลักสูตรโอเปอเรเตอร์(Telephone Operator) เป็นต้น ตั้งแต่ระดับปฏิบัติการ จนถึงระดับผู้จัดการ ทั้งนี้ได้มีการจ้างมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เป็นที่ปรึกษา ในการวิเคราะห์ การจัดทำหลักสูตร การฝึกอบรม และการประเมินผลในเบื้องต้น ตลอดจนจะเตรียมการขยายการผลิตบุคคลากรด้านการท่องเที่ยว ในลักษณะร่วมกันผลิตบุคลากร(MOU)ตามมาตรฐานของอาเซียน ร่วมกับสถาบันการศึกษาในประเทศ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ที่เปิดสอนด้านการท่องเที่ยว ในระดับต้นถึงระดับกลาง ส่วนในระดับสูงจะมีการให้ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสหรัฐอเมริกาหรือทางยุโรป ที่มีมาตรฐานที่ดีกว่า มาช่วยพัฒนาบุคลากรในระดับสูง โดยจะทำการเซ็นเอ็มโอยู(MOU)ร่วมกับสถาบันการศึกษา หรือองค์กรผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศในช่วงเวลาที่เหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีการออกในรับรอง หรือประกาศนียบัตร โดยรัฐบาล ในนามของสถาบันพัฒนาบุคลากรการท่องเที่ยวแห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ของประเทศไทย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าภาครัฐ ภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลังจากจบการฝึกอบรมตามมาตรฐานของอาเซียน ก่อนการเข้าสู่ตลาดแรงงานเสรีในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งจำเป็นอย่างบุคลากรชาวไทย จะต้องได้รับการพัฒนาการใช้ภาษาที่ 2 โดยเฉพาะภาษาอังกฤษควบคู่กันไป เพื่อไม่ให้เสียเปรียบประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน
นายสมบัติ กล่าวปิดท้ายว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการอาเซียนยูนิต(Asian Unit Committee)ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขึ้นมา โดยมีคณะกรรมการ ประกอบด้วยปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน มีกรรมการ จากสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมท่องเที่ยวภาคเอกชนต่างๆที่เกี่ยวข้อง และมีผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นเลขานุการคณะกรรมการ มีสำนักงานตั้งที่สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยจะใช้งบประมาณสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ประมาณ 15-30 ล้านบาทในเบื้องต้น ซึ่งจะมีการดำเนินงานเชิงรุกในช่วง 4 ปีที่เหลืออยู่อย่างเต็มที่ และมีการติดตามการดำเนินอย่างต่อเนื่อง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและกีฬา ในส่วนของในการเปิดเสรีการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศอาเซียน ในปี 2015 หรือ พ.ศ. 2558 ต่อไป