“ภาคีเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น” ลั่นกลองรบพร้อมต่อต้านคอร์รัปชั่น จัดสัมมนาใหญ่

พุธ ๐๑ มิถุนายน ๒๐๑๑ ๑๖:๓๑
“ภาคีเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น” ลั่นกลองรบพร้อมต่อต้านคอร์รัปชั่น จัดสัมมนาใหญ่ระดมความคิดเห็นทุกภาคส่วนเพื่ออนาคตประเทศไทยไร้คอร์รัปชั่น

ภาคีเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น 20 องค์กร เดินหน้าประกาศสงครามต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น จัดงานสัมมนา “ต่อต้านคอร์รัปชั่น จุดเปลี่ยนประเทศไทย” ระดมความคิดเห็นทุกภาคส่วนดันให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และมีส่วนร่วมต่อต้านการโกงกิน ชูฮ่องกงเป็นตัวอย่างประเทศที่ประสบความสำเร็จในการกวาดล้างคอร์รัปชั่น เชื่อมั่นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงได้หากทุกฝ่ายร่วมมือ

คุณดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า “คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยตระหนักถึงภัยของการทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งยังมองว่าเป็นเรื่องปกติ และ “ยอมให้โกงได้ถ้ามีผลงาน” หากปล่อยทิ้งไว้ก็เหมือนกับมะเร็งร้ายที่จะกัดกร่อนประเทศไทย จนอาจถึงขั้นล่มสลายในที่สุด เราต้องเริ่มต้นแสดงพลังให้ทุกภาคส่วนเห็นว่าภาคีเครือข่ายฯ ของเราเอาจริงเอาจัง และพร้อมที่จะร่วมมือกันอย่างแข็งขัน เพื่อให้การต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการหยุดให้หรือหยุดจ่าย เพื่อยุติข้ออ้างที่ว่าการทุจริตคอร์รัปชั่น เกิดจากมีผู้ให้จึงมีผู้รับ ถ้าเรายุติการให้หรือการจ่ายที่ไม่ถูกต้อง ก็ถือเป็นการตัดวงจรอุบาทว์นี้ไปโดยปริยาย”

“ผมเชื่อมั่นว่าการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น จะสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปในทางที่ดีขึ้นได้ เพราะได้เห็นตัวอย่างการต่อต้านของประเทศฮ่องกงที่ทำสำเร็จมาแล้ว ฮ่องกงเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว สถานการณ์ทุจริตคอร์รัปชั่นเลวร้ายกว่าบ้านเรา แต่วันนี้ฮ่องกงสามารถพลิกฟื้นจากที่เคยมีภาพลักษณ์ของการโกงกินแทบทุกขั้นตอนในการทำธุรกิจ กลายเป็นมีความโปร่งใสเป็นอันดับที่ 13 ของโลก ซึ่งนับว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ในเมื่อฮ่องกงยังทำได้สำเร็จ ประเทศไทยก็ต้องทำได้เช่นกัน หากทุกคนร่วมมือร่วมใจกันมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหานี้ ผมเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะสามารถหยุดการทุจริตคอร์รัปชั่น และเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน” คุณดุสิตกล่าว

Mr.Ferdinand (Nandor) Gyula von der Luehe รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะทำงานป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชั่น หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทยนานถึง 23 ปี เปรียบเหมือนคนไทยคนหนึ่งที่ได้เห็นถึงสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึกและกัดกร่อนทำลายประเทศไทยมายาวนาน กล่าวว่า “ปัจจุบัน การทุจริตคอร์รัปชั่นนับเป็นปัญหาสำคัญระดับโลก ที่หลายประเทศพยายามหามาตราการป้องกันและปราบปราม ทั้งการออกกฎหมายควบคุมพฤติกรรม การส่งเสริมให้มีระบบการตรวจสอบซึ่งกันและกัน โดยยังคงส่งเสริมการดำเนินธุรกิจและรักษาความสัมพันธ์อันดีกับหน่วยงานภาครัฐ การทุจริตคอร์รัปชั่นไม่เพียงแต่จะเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของเศรษฐกิจ แต่ยังเพิ่มต้นทุนทางธุรกิจและความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทั้งยังส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และความสามารถในการแข่งขันของประเทศอีกด้วย”

“การดำเนินการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของประเทศฮ่องกง ล้วนเป็นแนวทางที่น่าสนใจ และน่าจะนำมาเป็นกรณีศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบตรวจสอบและคานอำนาจ หรือการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีกับประชาชน เพื่อกำหนดแนวทางปรับใช้กับประเทศไทยต่อไป” คุณนันดอร์กล่าวเสริม

ผลการวิจัยสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเมื่อปลายปี 2553 ระบุว่า ข้าราชการ นักธุรกิจ และประชาชนกลุ่มตัวอย่าง 1220 คน เห็นตรงกันว่าสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยมีแนวโน้มมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยร้อยละ 83.3เห็นด้วยมากที่สุดว่าปัญหาการคอร์รัปชั่นสมควรได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ผู้ประกอบการกว่าร้อยละ 71 รู้ว่าจะต้องจ่ายอย่างไร และเท่าใด เพื่อความสะดวกในการทำงาน แม้เจ้าหน้าที่รัฐไม่เรียกร้องก็ตาม และอีกร้อยละ 29 จ่ายเมื่อเจ้าที่รัฐเรียกร้อง และเกือบร้อยละ 80 ของผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจกับภาครัฐต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้จากรัฐ โดย 1 ใน 3 ต้องจ่ายเงินมากกว่าร้อยละ 25 นอกจากนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 77.6 ยินดีมีส่วนร่วมต่อต้านคอร์รัปชั่น และผู้ประกอบการกว่าร้อยละ 20.7 อยากมีส่วนร่วมแต่ทำไม่ได้ เพราะมีความจำเป็นทางธุรกิจ และร้อยละ 1.7 เท่านั้นที่ไม่อยากมีส่วนร่วม

การสัมมนาในครั้งนี้ ได้กำหนดหัวข้อหลัก เรื่อง “ต่อต้านคอร์รัปชั่น จุดเปลี่ยนประเทศไทย” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงาน องค์กร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนสื่อมวลชนได้รับทราบสถานการณ์และผลกระทบของปัญหาคอร์รัปชั่นของประเทศไทย และเรียนรู้ประสบการณ์ ในการป้องกัน และปราบปรามคอร์รัปชั่นของต่างประเทศ ที่ดำเนินการจนประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะผู้นำรัฐบาลที่มึความมุ่งมั่นจะแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ของประเทศไทยให้ลุล่วง เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนาและปาฐกถาพิเศษเรื่อง ต่อต้านคอร์รัปชั่น จุดเปลี่ยนประเทศไทย และได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูง ICAC ประเทศฮ่องกง 2 ท่านคือ Mr.Timothy TONG กรรมาธิการ และ Ms.Julie MU ผู้อำนวยการด้านชุมชนสัมพันธ์ มาถ่ายทอดประสบการณ์ในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น ของ ICAC และสำหรับในช่วงบ่ายเป็นการสัมมนากลุ่มย่อย เพื่อระดมความคิดเห็นเรื่อง แนวทางความร่วมมือในการต่อต้านการคอร์รัปชั่น ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเด็กและเยาวชน ครู ประชาชน, กลุ่มภาคเอกชน, กลุ่มสื่อมวลชน และกลุ่มภาครัฐ เพื่อให้คนไทยทุกคนจะได้ร่วมกันรณรงค์สร้างเครือข่ายต่อต้านการคอร์รัปชั่น ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อประเทศไทยจะเจริญอย่างยั่งยืนสืบต่อไป

ฝ่ายสื่อสารองค์กร หอการค้าไทย โทร. 02-6221860-76 ต่อ 402-7

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง