ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารกรุงเทพที่ BBB+ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

อังคาร ๑๔ มิถุนายน ๒๐๑๑ ๐๙:๐๑
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารกรุงเทพ (BBL) ที่ ‘BBB+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ รายละเอียดอันดับเครดิตแสดงอยู่ด้านล่าง

อันดับเครดิตของ BBL สะท้อนถึงผลการดำเนินงาน คุณภาพสินทรัพย์ และระดับของสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความสามารถของธนาคารในการที่จะรักษาสถานะเงินกองทุนและสภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้อันดับเครดิตของธนาคารยังคำนึงถึงฐานเงินฝากและเครือข่ายในการดำเนินธุรกิจที่มั่นคงและฟิทช์เชื่อว่าสถานะทางการเงินของ BBL มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสามารถรองรับผลกระทบจากการปรับตัวลงอย่างรุนแรงของคุณภาพสินเชื่อ

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว ปัจจุบันอยู่ในอันดับเดียวกันกับเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย และสูงกว่าอันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศของประเทศไทยอยู่ 1 อันดับ เนื่องจากความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินของตัวธนาคาร รวมถึงการถือครองพันธบัตรรัฐบาลไทยที่ยังอยู่ในระดับไม่สูงนัก และการที่มีการถือหุ้นโดยรัฐบาลไทยในจำนวนที่จำกัด โอกาสที่อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวจะได้รับการปรับขึ้นมีจำกัด นอกจากจะมีการปรับตัวของผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญ และระดับของเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทยได้รับการปรับขึ้น ขณะเดียวกันผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตอาจเกิดจากการที่สินเชื่อมีการกระจุกตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่คุณภาพสินทรัพย์หรือสภาพคล่องจะมีการปรับตัวอ่อนแอลง หรือหากมีการถือครองพันธบัตรรัฐบาลไทยในระดับที่สูงเกินไป อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดสถานการณ์ดังกล่าวในระยะสั้นถึงปานกลางมีไม่มากนัก ซึ่งสะท้อนโดยแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

เนื่องจากขนาดและความสำคัญของ BBL ต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจ ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล หากมีความจำเป็น

ธนาคารมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2553 และในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่ออยู่ในระดับสูง ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง และประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น ในปี 2554 ฟิทช์คาดว่าผลประกอบการของธนาคารจะยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความสามารถในการปล่อยสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่และการเติบโตของเศรษฐกิจ และการที่ธนาคารมีการขยายธุรกิจไปในภูมิภาคเอเชียมากกว่าธนาคารคู่แข่ง ทำให้ BBL ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในภูมิภาค

คุณภาพสินทรัพย์มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และสินเชื่อที่จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษมีการปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 3.3% และ 1.5% ของสินเชื่อรวม เนื่องจากการบริหารสินเชื่อที่ดีของ BBL ขณะเดียวกันระดับของสำรองหนี้สงสัยจะสูญยังคงแข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรม และรวมทั้งเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นในภูมิภาค อยู่ที่ระดับ 170% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 โดยมีสำรองทั่วไปในระดับที่สูงซึ่งสามารถรองรับความเสี่ยงทางด้านเครดิตในอนาคตได้ ฟิทช์คาดว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ BBL จะยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนได้แก่ การที่ธนาคารมีระบบการบริหารความเสี่ยงทางด้านเครดิตที่ดี มีการบริหารสินเชื่ออย่างรัดกุม และเศรษฐกิจในประเทศมีการเติบโตมากขึ้น

นอกจากนี้ BBL ยังมีฐานเงินฝากที่มั่นคงและสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง โดยมีการพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากตลาดทุนในระดับที่ไม่สูง แม้จะนับรวมการออกตราสารหนี้จำนวน 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2553 เพื่อรองรับความต้องการใช้เงินทุนที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ สถานะเงินกองทุนของ BBL ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 12.3% และอัตราส่วนส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์อยู่ที่ 11.9% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 นอกจากนี้เงินกองทุนยังมีคุณภาพสูงเนื่องจากไม่มีการออกตราสารหนี้กึ่งทุน ฟิทช์คาดว่าธนาคารจะสามารถรักษาระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งได้ต่อไป เนื่องจากกลยุทธ์ในการเติบโตของสินทรัพย์ในระดับพอประมาณ และมีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ไม่สูงนัก

BBL เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่ง 18% ของตลาดสินเชื่อ และ 20% ของตลาดเงินฝาก ของธนาคารที่จดทะเบียนในประเทศไทย ณ สิ้นปี 2553 ธนาคารถูกก่อตั้งในปี 2487 โดยตระกูลโสภณพนิช ซึ่งสัดส่วนการถือหุ้นได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจปี 2540 ธนาคารมีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ และลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และมีการขยายไปในกลุ่มลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง

อันดับเครดิตของ BBL มีดังต่อไปนี้:

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘BBB+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘F2’

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ ‘C’

อันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘2’

อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำที่ ‘BBB-’

อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA(tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ

อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่ ‘BBB+’

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ ‘BBB’

อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ ‘AA-(tha)’

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๒ สมศักดิ์ ชูต้นแบบ NCDs Prevention Center 12 เขตสุขภาพ และโรงเรียนรักษ์ไต ล้านนา R1 พร้อมหนุน ผู้บริหารสาธารณสุขอำเภอระดับสูง รุ่นที่ 3 สานต่อนโยบายคนไทย ห่างไกล
๑๘:๒๘ ยามาฮ่า เปิดฉาก Yamaha Thailand Music Festival 2025 เดินหน้าปลุกพลังนักดนตรีรุ่นใหม่กว่า 5,000 คน ชิงถ้วยพระราชทานฯ และเงินรางวัลรวมกว่า 1.7
๑๘:๔๒ มหาดไทย ขับเคลื่อนจัดรูปที่ดินนราธิวาส สุไหงโก-ลก พลิกโฉมเมืองชายแดน สู่การเติบโตที่ยั่งยืน
๑๘:๑๐ ร้านอาหารเวฬาภิรมย์ ณ โรงแรม วิลล่า เทวา รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล กรุงเทพฯ เปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารอันยอดเยี่ยม
๑๗:๑๑ สวทช. จับมือมูลนิธิ SOS และ จ.ปทุมธานี สร้างชุมชนรักษ์อาหาร ดัน ปทุมธานีฟูดแบงก์โมเดล ต้นแบบการจัดการอาหารส่วนเกินระดับท้องถิ่น
๑๘:๑๓ บัตรเครดิต ทีทีบี ส่งโปรโมชัน ช้อปซูเปอร์คุ้ม รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,000 บาท
๑๗:๔๗ สุขภาพดีเริ่มต้นที่การป้องกัน! ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี สำหรับผู้ประกันตนโรงพยาบาลหัวเฉียว อายุ 50 ปีขึ้นไป
๑๗:๐๐ กลุ่มบริษัทยูนิไทย ร่วมฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายเลน เนื่องในวันคุ้มครองโลก เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
๑๗:๔๑ ผลิตภัณฑ์ Ax Tile EcoSoft(R) จาก Royal Thai แบรนด์ในเครือ TCM Corporation ได้รับรางวัล ASA Platform Selected Materials
๑๗:๔๐ ฉลองครบรอบ 87 ปี มอบสุขภาพดีด้วย. ชุดตรวจสุขภาพและวัคซีนป้องกันโรค