เนื่องจากจิมมี่เดินทางมายังประเทศไทยและพัทยาบ่อยครั้ง จึงตัดสินใจซื้อห้องชุดในโครงการเดอะ ปาล์ม วงศ์อำมาตย์ บีช ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรูติดริมทะเลในพัทยา
“ผมตัดสินได้ไม่ยากเลย เพราะผมเลือกจากทำเลที่ดีที่สุด หลังจากที่ได้ศึกษา และดูมาหลายโครงการ สำหรับเป็นบ้านพักตากอากาศ โครงการเดอะ ปาล์ม ตรงกับความต้องการของผมทุกอย่าง หาดวงศ์อำมาตย์เป็นหนึ่งในหาดที่ผมชอบมากที่สุดในพัทยา และทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ติดริมทะเลก็เป็นแบบที่ผมต้องการ ผมสามารถมองเห็นวิวทะเลที่สวยงามน่าประทับใจได้จากห้องของผมเอง มีสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการมากมาย รวมทั้งราคาก็สมเห็นสมผล” นายจิมมี่กล่าว
โครงการเดอะ ปาล์ม วงศ์อำมาตย์ บีช ตั้งอยู่บนที่ดินบริเวณปลายแหลมขนาด 5 ไร่ ของหาดวงศ์อำมาตย์ พัฒนาโดยโนว่ากรุ๊ป ประกอบด้วยห้องชุดจำนวน 544 ยูนิตในอาคารสูง 2 อาคาร โครงการมูลค่า 3.2 พันล้านบาทแห่งนี้มีความโดดเด่นในด้านทำเลที่ตั้งและวิวทะเลที่สามารถมองเห็นได้จากทุกยูนิต
ปัจจุบัน โครงการเดอะ ปาล์ม วงศ์อำมาตย์ บีช มียอดขายแล้วเกือบ 70% แม้เพิ่งจะเริ่มเปิดขายได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น จากห้องชุดทั้งหมดที่ปิดการขายไปแล้วนั้น พบว่า 65% เป็นลูกค้าชาวต่างชาติ และอีก 35% เป็นลูกค้าชาวไทยที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อการลงทุน ยอดขายดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นว่า ความต้องการซื้อจากชาวต่างชาติยังคงมีอยู่มากในพัทยา ซึ่งมาจากชาวยุโรปที่ไม่ได้พำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นหลัก โดยเฉพาะชาวรัสเซียซึ่งกำลังหาซื้อบ้านพักตากอากาศระดับหรูในราคาที่เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก
กำลังซื้ออีกส่วนหนึ่งที่สำคัญมาจากลูกค้าชาวไทยที่ต้องการซื้อเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศ และเพื่อการลงทุน มีลูกค้าหลายรายที่ซื้อหลายห้องเพราะรู้สึกว่าเป็นโครงการที่มีราคาคุ้มค่า และเมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งปิดการขายแบบยกล็อตจำนวน 80 ห้องให้กับนักลงทุนชาวฮ่องกง
ห้องชุดขนาด 2 ห้องนอนซึ่งเป็นแบบที่กลุ่มลูกค้าครอบครัวให้ความสนใจ และห้องชุดขนาด 1 ห้องนอนได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเหลืออีกเพียงไม่กี่ห้องนับตั้งแต่เปิดการขายอย่างไม่เป็นทางการไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
ความสำเร็จของโครงการเกิดจากการมีทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดริมทะเล บนชายหาดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของพัทยา และเป็นย่านตลาดระดับบน รวมทั้งเสนอขายในระดับราคาที่เหมาะสม นอกเหนือไปจากการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงและการเอาใจใส่ในรายละเอียดแล้ว โครงการเดอะ ปาล์ม วงศ์อำมาตย์ บีช ยังมีความยืดหยุ่นในแง่ของการจัดวางผังห้อง โดยเสนอทางเลือกเพิ่มเติมในการรวมห้องสำหรับลูกค้าที่ต้องการห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น การซื้อหลายห้องแล้วนำมารวมเป็นห้องเดียวได้รับความนิยมอย่างมากจากลูกค้าที่ซื้อไป โดยสามารถจัดผังห้องแบบใหม่เป็นการเฉพาะได้ เพราะโครงการได้รับการออกแบบมาอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถรวมห้องเข้าด้วยกันได้ โดยห้องชุดแบบปกติมีขนาดระหว่าง 32 — 96 ตารางเมตร
ปัจจุบัน ทางโครงการกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้างห้องตัวอย่างจำนวน 3 ห้องและคาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยพร้อมเปิดให้เข้าชมได้ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2554 นี้ อย่างไรก็ตามแม้ที่ผ่านมาจะไม่มีห้องตัวอย่างให้ลูกค้าได้เข้าชม แต่ก็สามารถสร้างความสำเร็จในด้านยอดขายได้เป็นอย่างดี ด้วยงบประมาณในการสร้างห้องตัวอย่างในครั้งนี้กว่า 30 ล้านบาท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ซึ่งเป็นตัวแทนในการบริหารงานขายแต่เพียงผู้เดียวคาดว่า จะสามารถปิดการขายห้องชุดที่เหลือได้ทั้งหมด และสำหรับลูกค้าที่ซื้อห้องชุดจากโครงการไปแล้วจะสามารถสัมผัสกับคุณภาพของวัสดุที่เลือกใช้ในห้องจริงได้เห็นได้ชัดว่า ตลาดพัทยามีการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ประกอบกับสัญญาณที่ชัดเจนที่ตลาดกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ซีบี ริชาร์ด เอลลิสเห็นว่า ทำเลซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของพัทยาจะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนให้เกิดความเจริญเติบโตในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและตลาดอสังหาริมทรัพย์ พัทยาเป็นเมืองริมทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุดและใช้เวลาขับรถเพียงชั่วโมงเศษ มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง อาหารชั้นดี โรงแรมและอสังหาริมทรัพย์คุณภาพระดับ 5 ดาว สนามกอล์ฟ และชายหาดที่สวยงาม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้พัทยาอยู่ในจุดที่ยังเติบโตต่อไปได้
เกี่ยวกับ ซีบี ริชาร์ด เอลลิสซีบี ริชาร์ด เอลลิส (NYSE:CBG) เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (พิจารณาจากผลประกอบการในปี 2553) ที่ให้บริการแบบครบวงจร มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในนครลอสแองเจลลิส พร้อมด้วยบุคลากรราว 31,000 คนในสำนักงานมากกว่า 300 สาขาที่ให้บริการแก่เจ้าของโครงการ นักลงทุน และผู้ซื้อรายย่อยทั่วโลก ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 500 บริษัทมีผลประกอบการที่ดีที่สุดในโลกโดยนิตยสารฟอร์จูน และได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 500 บริษัทที่มีความน่าเชื่อถือโดยสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์
ซีบี ริชาร์ด เอลลิส เริ่มเปิดดำเนินการครั้งแรกในกรุงเทพมหานครเมื่อปีพ.ศ.2531 และขยายไปสู่สาขาภูเก็ตในปีพ.ศ. 2547 โดยให้บริการด้านการเป็นตัวแทนในการซื้อขาย และให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้าน คอนโดมิเนียม วิลล่า อพาร์ตเมนต์ เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงาน ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจอุตสาหกรรม โรงแรม ที่ดิน และให้บริการด้านการให้คำปรึกษา ซึ่งรวมถึง การให้บริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน การวิจัยตลาด และการประเมินราคาทรัพย์สิน นอกจากนี้ ยังให้บริการในด้านการบริหารอสังหาริมทรัพย์ด้วยมาตรฐานระดับสากล หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้บริการ สามารถเข้าชมได้ที่ www.cbre.co.th