แพทย์ชี้ผลกระทบจากโรคตับอักเสบในเอเชียแปซิฟิกจะสูงขึ้น หากไม่ร่วมกันแก้ปัญหา องค์การอนามัยโลกรณรงค์ “วันตับอักเสบโลก”

พฤหัส ๒๘ กรกฎาคม ๒๐๑๑ ๐๘:๔๗
แพทย์ชี้ผลกระทบจากโรคตับอักเสบในเอเชียแปซิฟิกจะสูงขึ้น หากไม่ร่วมกันแก้ปัญหาองค์การอนามัยโลกรณรงค์ “วันตับอักเสบโลก”เน้นให้เห็นว่าไวรัสตับอักเสบเป็นปัญหาสุขภาพทั่วโลกสมาคมโรคตับแห่งประเทศไทยร่วมรณรงค์ ให้คนไทยเห็นภัยร้ายผู้ป่วยไทยมากกว่าร้อยละ 80 ยังละเลยไม่เข้ารับการรักษาที่ถูกต้อง

องค์การอนามัยโลกเริ่มกำหนดให้ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เป็น “วันตับอักเสบโลก” กลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไวรัสตับอักเสบจึงได้เริ่มกระตุ้นให้รัฐบาลและประชาชนตลอดภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกให้ตระหนักมากขึ้นถึงภัยร้ายของภาวะตับอักเสบต่อทุกๆคน ต่อครอบครัวและชุมชน โดยได้ร่วมก่อตั้งกลุ่มเฉพาะขึ้นมาเรียกว่า “พันธมิตรเพื่อกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก” หรือ CEVHAP (Coalition to Eradicate Viral Hepatitis in Asia Pacific) เพื่อนำเสนอปัญหาที่องค์กรต่างๆขาดการรับรู้และความตั้งใจด้านนโยบายที่จะจัดการแก้ปัญหาโรคไวรัสตับอักเสบ

ปีนี้เป็นปีแรกที่วันที่ 28 กรกฎาคม จะได้รับการรับรู้กันทั่วโลกว่าเป็น “วันตับอักเสบโลก” อันเป็นผลมาจากมติขององค์การอนามัยโลกต่อโรคไวรัสตับอักเสบ (WHA63.R18) ณ วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 มตินี้ยังแสดงความกังวลถึงการขาดความก้าวหน้าในเรื่องของการป้องกัน ควบคุม และรักษาโรคไวรัสตับอักเสบทั่วโลก

ไวรัสตับอักเสบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวรัสตับอักเสบ B และ C มีผลกระทบต่อประชากรโลก 1 ใน 12 คน และคร่าชีวิตคนเหล่านี้ไปราว 1 ล้านคนทุกปี 1 เอเชียแปซิฟิกเป็นแหล่งที่มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบส่วนใหญ่ของโลก

ศาตราจารย์เกียรติยศ ดิง ชิน เชน แห่งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน และผู้ร่วมก่อตั้ง CEVHAP กล่าวว่า “ขณะที่ตับอักเสบเรื้อรังเป็นภัยเงียบโดยไม่มีอาการหรือมีน้อยมากเป็นเวลาหลายปี ยังเป็นโรคเงียบที่ขาดการรับรู้จากภาครัฐและประชาชน สิ่งเหล่านี้นำไปสู่สถานการณ์ที่แพทย์เราต้องเผชิญในปัจจุบัน คือสถานการณ์ที่ประชากรจำนวนมากซึ่งเป็นโรคไวรัสตับอักเสบไม่ไปปรึกษาแพทย์หรือรับการรักษา และสถานการณ์นี้ก็ยังเกิดขึ้นจริงในหลายประเทศซึ่งแม้ว่ารัฐยังให้เบิกค่ารักษาพยาบาลได้”

จำนวนประชากรที่ติดเชื้อแบบเรื้อรังและเสียชีวิตต่อปีจากผลของไวรัสตับอักเสบอยู่ในอัตราเดียวกันกับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย แม้จะมีผลกระทบทางสังคมที่คล้ายคลึงกัน แต่ความตระหนักรับรู้สถานการณ์ และกำลังการเคลื่อนไหวในทางการเมืองเกี่ยวกับไวรัสตับอักเสบกลับไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับโรคอื่นๆ ดังกล่าว

CEVHAP มีเป้าหมายที่จะมีบทบาทเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างมติใหม่ขององค์การอนามัยโลกกับภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โดยตอนต้นจะให้ความสนใจกับตับอักเสบ B และ C ซึ่งเป็นไวรัสตับอักเสบ 2 ชนิดที่มีผลกระทบมากที่สุดในภูมิภาคนี้ก่อน

“องค์การอนามัยโลกกำลังเรียกร้องให้มีแนวทางดำเนินการระดับโลกที่จะจัดการแก้ปัญหาโรคไวรัสตับอักเสบ และเราตระหนักดีว่าเป็นหน้าที่ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ที่จะทำให้มั่นใจว่า ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกจะเป็นส่วนหนึ่ง ของแนวทางดำเนินการระดับโลก” ศาตราจารย์สตีเฟน โลคาร์นีนี หัวหน้าภาคห้องปฏิบัติการอ้างอิงของโรคติดเชื้อ รัฐวิคตอเรีย (Victorian Infectious Diseases Reference Laboratory) ในกรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียและผู้ร่วมก่อตั้ง CEVHAP กล่าว

ประมาณการว่าประเทศจีนและประเทศอินเดียรวมกันมีประชากร 123 ล้านคนที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B เรื้อรัง และมีประชากร 59 ล้านคนที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ C เรื้อรัง นับเป็นเกือบ 50% ของการติดเชื้อทั้งหมดทั่วโลก 2,3

รศ.นพ.ธีระ พิรัชวิสุทธิ์ นายกสมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย และผู้อำนวยการสถาบันโรคทางเดินอาหารและตับ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคตับ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการ CEVHAP กล่าวว่า “โรคไวรัสตับอักเสบยังคุกคามคนไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งไวรัส B และไวรัส C ในเมืองไทยยังมีความชุกในการติดเชื้อไวรัสทั้งสองชนิดนี้สูง และยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยติดอันดับ 1 ใน 9 เป็นภัยเงียบเพราะไม่แสดงอาการ กว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไปพบแพทย์เมื่อมีระยะโรครุนแรง”

ในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B ประมาณ 3 - 5 คนต่อประชากร 100 คน หรือประมาณ 3.5 ล้านคนทั่วประเทศไทย และมีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ C ประมาณ 1 - 3 คนต่อประชากร 100 คน โดยพบผู้ป่วยไวรัส C มากถึงร้อยละ 4-6 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ หรือ 1ล้านคนทั่วประเทศ วงการแพทย์พบว่ามีผู้ป่วยไทยเพียงร้อยละ 15 ที่เข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง อีกร้อยละ 85 ยังไม่รับการรักษาที่หมาะสม หากสามารถลดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบในประชาชนได้ ก็จะสามารถลดการเป็นโรคมะเร็งตับ และตับแข็ง

จึงนับเป็นความเร่งด่วนภายในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกที่จะต้องดำเนินการให้มีนโยบายซึ่งจัดให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการตรวจคัดกรองและการรักษาให้เป็นไปตามแผน เพราะว่าขณะนี้มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยโรคตับอักเสบเรื้อรังอาศัยในประเทศต่างๆ ซึ่งผู้ป่วยไม่มีสวัสดิการรับการตรวจเลือด และร้อยละ 41 ของผู้ป่วยอาศัยในประเทศต่างๆ ซึ่งไม่มีกองทุนรัฐสำหรับการรักษาโรคตับอักเสบ B หรือ C 4

“ภาระของตับอักเสบ B ต่อระบบสาธารณสุขยังจะเพิ่มขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นรัฐบาลทั่วทั้งภูมิภาคจะนำนโยบายรัฐอย่างมีประสิทธิภาพไปปฏิบัติให้เป็นไปตามแผน เพื่อดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อ” ศาตราจารย์ สตีเฟน โลคาร์นีนี กล่าว “เราไม่ได้พูดว่าไม่ได้มีการทำอะไรเลย มีความก้าวหน้าในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่มีการฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลาย เพียงแต่ว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่สามารถและจำเป็นต้องกระทำเพื่อที่จะจัดการแก้ปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

บริษัท พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส จำกัด

คุณรัชนีย์ อุ่นจิตต์

โทร. (66) 2 651-8989 ต่อ 335

E-mail: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ พ.ค. สุรีย์พร คลินิก เปิดตัวตึกสูงที่สุดแห่งวงการคลินิกสถาบันเสริมความงาม ฉลอง 20 ปีความสำเร็จพร้อมยกระดับชูเทคโนโลยีล้ำสมัย Volformer
๑๗ พ.ค. ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน
๑๗ พ.ค. บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) แนะนำ ชุดล็อคประตูกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า จากแบรนด์ HIP
๑๗ พ.ค. ซัมซุง อัปเกรดประสบการณ์การชมทุกมหรรมกีฬา ด้วยนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ชัดทุกแมตซ์เหมือนเชียร์ติดขอบสนาม
๑๗ พ.ค. ไทยพาณิชย์ปักหมุดผู้นำดิจิทัลแบงก์ นำ AI เสริมแกร่ง 360 องศา เปิด 3 นวัตกรรม AI ครั้งแรก! สร้างปรากฏการณ์ใหม่กลุ่มสินเชื่อรายย่อย และ Digital
๑๗ พ.ค. หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม
๑๗ พ.ค. DDD โชว์งบ Q1/67 กวาดกำไรทะยาน 317% YoY พร้อมลุยขยายตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ อัพผลงานปีนี้โตสวย
๑๗ พ.ค. PCC เปิดงบ Q1/67 รายได้โต 14.25% ยอดขายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า - อุปกรณ์ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10%
๑๗ พ.ค. บางจากฯ สานต่อพันธกิจสนับสนุนด้านกีฬาอย่างเป็นมิตรต่อโลก ร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง Olympic Day 2024 Together, For A Better
๑๗ พ.ค. บัตรเครดิต ttb ช้อปคุ้ม อิ่มครบ ได้มากกว่า รับ Magic Gift Voucher รวมมูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 5