ก.ล.ต. เปิดเผยการเปรียบเทียบปรับอดีตผู้บริหาร และผู้บริหารบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) (“UMS”) กรณีใช้ข้อมูลภายในขายหุ้น UMS และ UMS-W1

จันทร์ ๑๕ สิงหาคม ๒๐๑๑ ๑๗:๔๖
ก.ล.ต. เปิดเผยการเปรียบเทียบปรับอดีตผู้บริหาร และผู้บริหารบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) (“UMS”) กรณีใช้ข้อมูลภายในขายหุ้น UMS และ UMS-W1

คณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายไพบูลย์ เฉลิมทรัพยากร นายพงศเฉลิม เฉลิมทรัพยากร นายชัยวัฒน์ เครือชะเอม กรณีขายหุ้นบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) (“UMS”) และใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ (“UMS-W1”) โดยอาศัยข้อมูลที่ได้จากการเป็นผู้บริหารของ UMSก่อนที่ข้อมูลนั้นจะเปิดเผยต่อประชาชน และนางสาวภัทรา เฉลิมทรัพยากร ในฐานะผู้ให้ความช่วยเหลือโดยมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายไพบูลย์ เป็นจำนวนเงิน 5,363,120.64 บาท นายพงศเฉลิม เป็นจำนวนเงิน 1,296,010.44 บาท นายชัยวัฒน์ เป็นจำนวนเงิน 3,723,416.40 บาท และนางสาวภัทรา เป็นจำนวนเงิน333,333.33 บาท

สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับเรื่องจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและได้ตรวจสอบพบว่า นายไพบูลย์ในขณะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการบริหาร นายพงศเฉลิมในขณะดำรงตำแหน่งกรรมการและกรรมการบริหาร และนายชัยวัฒน์ในฐานะกรรมการผู้จัดการและกรรมการบริหารของ UMS ได้ล่วงรู้เรื่องผลการดำเนินงานของบริษัท ไตรมาส 4 ปี 2551 ที่มีกำไรสุทธิลดลงจำนวนมากเนื่องจากการตั้งค่าเผื่อการลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ และได้ขายหุ้น UMS และ UMS-W1 ก่อนที่ข้อมูลดังกล่าวจะเปิดเผยต่อประชาชนในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552 โดยนางสาวภัทราให้ความช่วยเหลือนายไพบูลย์และนายพงศเฉลิมในการขายหลักทรัพย์ดังกล่าวผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง ดังนี้

- นายไพบูลย์ขายหุ้น UMS ระหว่างวันที่ 16-29 มกราคม 2552 และระหว่างวันที่ 13-23 กุมภาพันธ์ 2552 และขาย UMS-W1 ระหว่างวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์ 2552

- นายพงศเฉลิมขาย UMS-W1 เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเองและขายหุ้น UMS และ UMS-W1 ระหว่างวันที่ 13-23 กุมภาพันธ์ 2552 ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางสาวภัทรา

- นายชัยวัฒน์ขายหุ้น UMS ระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 19 กุมภาพันธ์ 2552 ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง

การกระทำของนายไพบูลย์ นายพงศเฉลิม และนายชัยวัฒน์เข้าข่ายเป็นการขายหลักทรัพย์โดยอาศัยข้อมูลภายในที่เป็นการเอาเปรียบบุคคลอื่น ฝ่าฝืนมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน สำหรับนางสาวภัทรา ในฐานะผู้สนับสนุน มีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

นายไพบูลย์ นายพงศเฉลิม นายชัยวัฒน์ และนางสาวภัทรา ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับบุคคลทั้งสี่ราย เป็นจำนวนเงิน 5,363,120.64 บาท 1,296,010.44 บาท 3,723,416.40 บาท และ 333,333.33 บาท ตามลำดับ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว