ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างมาก ส่งผลให้ธุรกิจของประเทศมีปัจจัยบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และผู้ประกอบการ อุตสาหกรรมเครื่องมือ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมการก่อสร้าง ภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ อิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม รวมถึงภาคอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งอุตสาหกรรมทั้งหมดนี้ มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่มีโอกาสทางการตลาดสูงสำหรับผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายของอุตสาหกรรมเครื่องยึดและส่วนประกอบต่างๆ
อัตราการเติบโตที่สูงขึ้นในภาคอุตสาหกรรม*
ค่าจีดีพี (GDP) ของประเทศไทยในปี 2553 มีอัตราการเติบโตที่สูงสุดในรอบ 15 ปี และคาดการณ์ว่าในปี 2554 และ 2555 จะยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4-5% ต่อปี การเพิ่มขึ้น 37% ของข้อมูลปีที่ผ่านมาเกี่ยวข้องกับการนำเข้าและเป็นตัวเลขที่สามารถเดินหน้าต่อไป และ วางแผนการลงทุนในประเทศทีมีโอกาสมากขึ้นสำหรับผู้ประกอบการและผู้จัดจำหน่ายต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางพื้นที่การค้าเสรีของอาเซียน ซึ่งประเทศไทยยังสามารถแสดงให้เห็นถึงอัตราการส่งออก อาทิ การเพิ่มขึ้น 28% ในไตรมาสแรกของปี 2554 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
การคาดการณ์ในปี 2554 นี้ คาดว่าอัตราเติบโตจะเพิ่มขึ้น 10% สำหรับประเทศที่มีการผลิตรถยนต์ โดยปีที่แล้ว ประเทศไทยมีการผลิตรถยนต์ถึง 1.7 ล้านหน่วย ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นยังคงมีนักลงทุนรายใหญ่ในอุตสาหกรรมของประเทศไทย ซึ่งประเทศอเมริกาและเยอรมันเริ่มเล็งเห็นและให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นสำหรับประเทศที่มีการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์
โครงสร้างหลักพื้นฐานที่สำคัญในโครงการที่เกิดขึ้น เช่น ความทันสมัย และการพัฒนาเครือข่ายการจราจรในกรุงเทพฯ รวมถึงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ ที่ทำให้อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมการก่อสร้างสูงขึ้น โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ที่มีการลงทุนอย่างกว้างขวางในกลุ่มโรงแรมจากในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในด้านอุปกรณ์สุขภัณฑ์ที่เหมาะสม
สำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยยังเติบโตขึ้น ซึ่งผู้สำคัญของภาคส่วนนี้ ได้แก่ เดลต้า อิเล็กทรอนิกส์ (Delta Electronics) ที่ได้รับยอดขายเพิ่มขึ้น 38% ในขณะที่ 85% มาจากสินค้าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยที่มีมูลค่าการส่งออกที่สูง โดยประเทศที่เติบโตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และพลังงานทดแทนนั้นมีผลในเชิงบวกสำหรับประเทศทีมีความต้องการผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
โอกาสที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องยึดและส่วนประกอบต่างๆ ในระดับนานาชาติ
“งานแสดงสินค้าระดับคุณภาพแบบธุรกิจต่อธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยีเครื่องยึดและส่วนประกอบต่างๆ ที่มีความสำคัญและมีภาพลักษณ์ที่ดีในประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตของประเทศเศรษฐกิจและจำนวนตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงการต่างๆ โดยในงาน Fastener Fair ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย ปี 2555 เราสามารถแสดงให้เห็นถึงอุตสาหกรรมสำหรับผู้ผลิต ตัวแทนจำหน่าย และผู้ประกอบการสำหรับเทคโนโลยีเครื่องยึดและส่วนประกอบต่างๆ งานแสดงสินค้าอันใหม่ครั้งนี้ ผู้จัดแสดงต่างชาติสามารถนำเสนอโอกาสที่ดีในการเติบโตทางการตลาด และเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจทั้งกับลูกค้าและตัวแทนหรือพันธมิตรที่มีศักยภาพในประเทศ” สตีเฟน บรู๊ค ประธานกรรมการ แม็ค บรู๊ค เอ็กซิบิชั่น กล่าวอธิบาย
งาน Fastener Fair ที่จัดขึ้นในประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานชุด Fastener Fair ที่มีเป้าหมายเป็นงานธุรกิจต่อธุรกิจเพื่ออุตสาหกรรมเครื่องยึดและส่วนประกอบต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วยงาน Fastener Fair ฮันโนเวอร์ (อังกฤษ) งาน Fastener Fair ในอินเดีย งาน Fastener Fair บราซิล และ งานที่โดดเด่น Fastener Fair สตุตการ์ต (เยอรมัน) ที่เป็นงานแสดงสินค้านานาชาติชั้นนำของทวีปยุโรปสำหรับภาคอุตสาหกรรมนี้
โดยในปีนี้ แม็ค บรู๊ค เอ็กซิบิชั่น ได้ริเริ่มที่จะนำแบรนด์ที่มีคุณภาพสูงและเป็นที่รู้จักในงาน Fastener Fair เพื่อกระตุ้นการเติบโตในเอเชียและอเมริกาใต้ ซึ่งงาน Fastener Fair อินเดียที่จัดขึ้นที่มุมไบในเดือนเมษายนปีนี้ ได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งมีการจองพื้นที่เต็มก่อนการเปิดตัวงาน Fastener Fair บราซิล ที่จะจัดขึ้นที่เซาเปาโล ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ สำหรับงาน Fastener Fair ประเทศไทย ปี 2555 ทางแม็ค บรู๊ค เอ็กซิบิชั่น ได้นำเสนอเวทีธุรกิจสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องยึดและส่วนประกอบต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดขนาดใหญ่ที่เกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
งานแสดงสินค้า Fastener Fair ในประเทศไทย ครอบคลุมหลากหลายผลิตภัณฑ์และบริการในด้านอุตสาหกรรมเครื่องยึดและส่วนประกอบต่างๆ อาทิ ระบบการก่อสร้างประกอบและติดตั้ง เทคโนโลยีการผลิตเครื่องยึด การจัดเก็บข้อมูล การกระจายสินค้าและอุปกรณ์ในโรงงาน ข้อมูล การสื่อสารและการบริการ
นอกจากนี้ ยังมีแพ็คเกจต่างๆ ที่หลากหลาย และนำมาจัดแสดงสินค้าในงาน Fastener Fair ประเทศไทย ที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้า รวมถึงบริการต่างๆ จากผู้จัดงาน
สอบถามข้อมูลและดูรายละเอียดของงาน Fastener Fair ประเทศไทย เพิ่มเติมได้ที่ www.fastenerfair.com
*ข้อมูลอ้างอิง: NESDB (National Economic and Social Development Board) and EIU (Economist Intelligence Unit)
ติดต่อแผนกสื่อสารองค์กร ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
พิมพ์พนิต เพียรวณิช Corporate Communications Manager
ดวงพร บุพพัณชาติ Corporate Communications Executive
ภคมน ภาสวัสดิ์ Corporate Communications Executive
โทร 02-749-3939 ต่อ 3142, 3146, 2189
แฟกซ์ 02-749-3949 ต่อ 3142, 3146, 2189
อีเมล์ [email protected]
เว็บไซด์ www.bitec.co.th
Facebook: www.facebook.com/BITEC.Bsquares
Twitter: www.twitter.com/BITEC_Bsquare
Youtube: www.youtube.com/BITECBTV