“ปัจจุบันเกษตรกรหลายรายในพื้นที่น้ำท่วมต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น จากการขนย้ายหมูหนีน้ำ และน้ำที่เข้าท่วมก็สร้างความเสียหายแก่โรงเรือน ต้องทำการซ่อมแซม นอกจากนี้ ยังมีภาวะโรคเข้ามาซ้ำเติม เกษตรกรจึงต้องเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมเรื่องยาและวัคซีนป้องกันโรค ซึ่งปัญหาเหล่านี้คือต้นทุนที่เกษตรกรต้องแบกรับ ทำให้ผู้เลี้ยงหมูหลายรายทนรับภาระไม่ไหวจำเป็นต้องเลิกเลี้ยงไป หรือบางรายที่วิตกและไม่มั่นใจในสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นก็ระงับการนำหมูเข้าเลี้ยง ที่สำคัญผู้เลี้ยงบางรายต้องขายลูกหมูเป็นหมูหัน จึงเป็นไปได้ว่าในช่วงสิ้นปีนี้ปริมาณหมูที่จะออกสู่ตลาดจะขาดแคลนอย่างแน่นอน” นายพิสิษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ ปัญหาเรื่องโรคสุกรได้แก่ โรค PRRS หรือโรคเพิร์ท ที่ระบาดอย่างหนักมาตั้งแต่ปี 2553 โดยก่อความเสียหายต่อระบบสืบพันธุ์และเกิดปัญหาในระบบทางเดินหายใจในสุกร ซึ่งเป็นโรคที่เกิดในสุกรทุกช่วงอายุ ที่จัดว่ามีความรุนแรง ทำให้หมูเสียหายไม่ต่ำกว่า 20% สำหรับบางฟาร์มที่ระบบป้องกันโรคไม่ดีจะเสียหายสูงถึง 50%ที่สำคัญ ปัจจุบัน พบว่ายังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ล่าสุดเกิดการระบาดอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดพะเยา ที่อำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง และอำเภอเชียงม่วน ซึ่งภาวะโรคที่เกิดขึ้นนี้ยิ่งจะซ้ำเติมให้ปริมาณสุกรลดลงอีก