ศาสตร์แห่งการชะลอวัย คืนความหนุ่มสาว ห่างไกลความชรา กับครั้งแรกของนวัตกรรมโปรไบโอเทคโนโลยี

ศ.ดร.นพ.ปิติ พลังวชิรา คณบดีคณะเวชศาสตร์ชะลอวัยมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นายกสมาคมเวชศาสตร์ชะลอวัยแห่งประเทศไทย เผยว่า ภาวะร่างกายที่อักเสบนั้น หากเปรียบเทียบง่าย ๆ ภาวะอักเสบในร่างกายนั้น ทำหน้าที่เปรียบเหมือนตำรวจที่ปราบปรามเหล่าร้าย ให้ออกไปจากสังคมหรือร่างกายของเรา หากแต่เมื่อเกิดการอักเสบเรื้อรังหรือมากเกิน ย่อมกระตุ้นให้ตำรวจทำงานมาก ก่อให้เกิดความเสียหายเพราะมีการทำลายทั้งเชื้อโรคและเซลปกติในร่างกายไป ด้วย ผลก็คือ ความเสียหายที่สะสมมากขึ้น จนก่อให้เกิดความชราได้อย่างรวดเร็ว ภาวะอักเสบเรื้อรัง ที่แอบแฝงในร่างกายของคนเรา ส่วนใหญ่ เกิดจากการอักเสบในทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเกิดจากอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน อาหารไม่สะอาด รวมทั้งยาปฏิชีวนะ ที่ใช้รักษาการติดเชื้อ ที่เฝ้าทำลายเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ทุกชนิด ผลก็คือ ร่างกายจะเสียสมดุลของแบคทีเรียในทางเดินอาหาร แบคทีเรียชนิดที่มีประโยชน์ในร่างกายลดลง ทำให้เกิดแบคทีเรียก่อโรคมากขึ้น เกิดการติดเชื้อเรื้อรังในทางเดินอาหาร และก่อให้เกิดการอักเสบ คุกคามอย่างเรื้อรังในร่างกายไม่หยุดหย่อน ซึ่งสัญญานเตือนภาวะอักเสบในร่างกายก็คือ มีอาการปวด เรื้อรัง ในร่างกาย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ข้ออักเสบ, อ่อนเพลีย ไม่มีแรง , ท้องเสีย หรือท้องผูก ไม่ทราบสาเหตุ ,ผิวพรรณหมองคล้ำ เป็นสิว เป็นริ้วรอย ,ความดันโลหิตสูง และภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ“การชะลอวัยหรืออายุรวัฒน์จึงมีความจำเป็นต้องทำให้ร่างการสมดุลทุกส่วน เริ่มตั้งแต่การกินอยู่ รวมไปถึงการดูแลรักษา เรื่องของสาเหตุมาจากการที่ภาวะร่างกายอักเสบ หลายๆท่านไม่ทราบว่าอาการเหล่านี้เรียกว่าร่างกายกำลังอักเสบ และเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้สมดุลต่าง ๆ ในร่างกายเสีย และเป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้ร่างกายเสื่อมถอยกว่าวัยนั่นเอง” ศ.ดร.นพ.ปิติ กล่าว

จากการศึกษาของแพทย์พบว่า คนที่ทานโปรไบโอติกเสริมอาหารอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสูตรซินไบโอติกที่มีจุลินทรีย์หลายๆชนิดรวมกับพรีไบโอติกหรือใยอาหาร จะช่วยให้ร่างกายกำจัดการอักเสบเรื้อรังในลำไส้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผลก็คือทำให้ไม่แก่เร็ว อีกต่อไป ที่สำคัญโปรไบโอติก เป็นสารอาหารธรรมชาติ จึงไม่มีผลข้างเคียง หรือเกิดผลเสียกับร่างกาย มีฤทธิ์ในการเสริมภูมิแก่ร่างกาย ทำให้แข็งแรง และอ่อนเยาว์ ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม

ด้านพญ. อรพินท์ สุขวงษ์ แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังและAnti-Aging จาก Royallife Wellness Center โรงพยาบาลกรุงเทพ เผยว่า การที่ภาวะร่างกายอักเสบนั้นมีวีธีป้องกัน แต่ทุกคนต้องเรียนรู้ก่อนว่าร่างกายของคนเราต้องการจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ เพื่อทำหน้าที่กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ,ปรับสมดุลแก้ปัญหาท้องผูกและท้องเสีย, แก้ปัญหาภาวะไม่ทนต่อแลคโตสในนมวัว ,ปกป้องเยื่อบุทางเดินอาหาร, ขจัดสารพิษโดยการขับออก ,ยับยั้งเชื้อ E.coli ,ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ,ผลิตเอนไซม์ที่จำเป็นต่อรางกาย ,ป้องกันมดลูกจากเชื้อรา ,ลดระดับคอเลสเตอรอล, ยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรคและเชื้อรา ,ผลิตสาร Bacteriosin หรือสารยับยั้งเชื้อโรค ช่วยรักษาภูมิแพ้ และชะลอวัย

พญ. พัฒศรี เชื้อพูล (พงษ์สถิตย์) แพทย์เฉพาะทางเวชศาตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า โปรไบโอติกหรือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งปัจจุบันเป็นที่รู้กันว่า มีอยู่ 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่ม Bifidobacterium กลุ่ม Lactobacillus และกลุ่ม Lactococcus เป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในทางเดินอาหารของเรา ซึ่งไม่ก่อให้เกิดโรค แต่กลับมีประโยชน์ในการปรับสมดุลย์การทำงานในทางเดินอาหาร ช่วยย่อยสารอาหาร และคอยกำจัดแบคทีเรียร้ายออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความเสื่อมในร่างกาย ปัจจุบันพบว่า ยาที่ใช้รักษาโรคหลายชนิด การกินอาหารจานด่วน สารเคมีปนเปื้อนในอาหาร ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในลำไส้ได้ทั้งสิ้น

คุณดวงสมร ทิวะทรัพย์ ผู้อำนวยการ การตลาด บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด กล่าวว่า บริษัทอินเตอร์ ฟาร์มา ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ไบโอเทคโนโลยี อย่างเช่น Probiotic Mixture รวมไปถึงการที่บริษัทเป็น Exclusive Distributor ของ บริษัท Antigenics จากประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมุ่งเน้นนำนวัตกรรมทางด้านสุขภาพที่ดีที่สุดมาสู่คนไทย เพื่อการมีสุขภาพที่ดีทั้งภายในและภายนอกอย่างยั่งยืน ซึ่งโปรไบโอติก (Probiotic) ถูกจำกัดความโดยองค์การอนามัยโลกว่า คือ จุลชีพมีชีวิตที่ให้เสริมเข้าไปจากภายนอกร่างกาย ในปริมาณที่เพียงพอจะก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพร่างกาย การใช้ โปรไบโอติก (Probiotic) ในการป้องกันและรักษาโรคกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียง และเป็นการรักษาที่ต้นเหตุของโรค ซึ่งเกิดจากความไม่สมดุลระหว่างร่างกายมนุษย์และจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่อาศัยอยู่ในร่างกาย ปัจจุบันมีหลักฐานการศึกษาชัดเจนว่า โปรไบโอติก มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันและลดอาการของโรคติดเชื้อในทางเดินอาหารได้ และมีบทบาทสำคัญ ในการรักษาภาวะภูมิแพ้ เสริมสร้างการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันตลอดจนการรักษาและป้องกันโรคต่างๆอีกหลาย โรค

สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่ม โปรไบโอเทคโนโลยี ซึ่งทางบริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา เป็นเจ้าตลาดอยู่นั้น จะมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักอยู่ 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม TS 6 , และ กลุ่ม Probac โดยตัวล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัว ก็คือ Probac 10 Plus (โปรแบคเท็นพลัส) สำหรับรับประทาน ซึ่งเป็นสูตร Total Synbiotic ประกอบไปด้วย Probiotic bacteria ถึง 10 ชนิดที่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่ามีประโยชน์ต่อระบบต่างๆของร่างกาย และยังมี Prebiotic อีก 2 ชนิด และ Fibersol-2 ไฟเบอร์สิทธิบัตร ตัวล่าสุด ที่กำลังได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสูตรดังกล่าวเป็นสูตรที่ปราศจากส่วนประกอบของนม และพวก เวย์ โปรตีน ซึ่งทำให้ผู้บริโภคกลุ่มที่มีปัญหาดังกล่าวสามารถใช้ได้ Probac 10 Plus ถือได้ว่าเป็น New Generation ของ Probiotic ซึ่งจะมีจำหน่ายเฉพาะโรงพยาบาลและคลินิคสุขภาพชั้นนำบางแห่งเท่านั้น เนื่องจากมีกระบวนการผลิตที่ใช้เวลา และเทคโนโลยีชั้นสูง จึงมีขายจำนวนจำกัด

สำหรับกลุ่มผู้หญิง บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่เป็น Skin care ที่เรียกว่า TS 6 SKIN SET ซึ่งแตกต่างจากเวชสำอางในท้องตลาด ตรงที่มีส่วนประกอบของ Probiotic เป็นการสกัดเอาสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์ที่สร้างโดยเชื้อโปรไบโอติกแบคทีเรีย โดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพ โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Skincare Set จะประกอบไปด้วย TS 6 Mousse ใช้สำหรับอาบน้ำ , TS 6 Spray ใช้ฉีดบริเวณผิวหนังที่มีปัญหาของการอักเสบหรือมีกลิ่น , TS6 Serum ใช้ทาตอนเช้าและก่อนนอน เพื่อช่วยบำรุงผิว แก้ปัญหาการอักเสบและหมองคล้ำของผิวหนัง กลุ่มผลิตภัณฑ์ Skin Set จึงเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ที่ต้องการให้ผิวพรรณได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งการรับประทาน Probac 10 Plusร่วมกับการใช้ TS6 Skin Set จะเป็นการดูแลตนเองแบบครอบคลุม ทั้งภายในและภายนอก เพื่อการมีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรคต่างๆ คงความหนุ่มสาวและมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ