สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี และฮ่องกง
จากผลการทำสำรวจ วีซ่า โกลบอล อินเทนชั่น ประจำปี 2554[1] (Visa Global Travel Intentions Survey 2011) พบว่า สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่นคือ 3 ประเทศยอดนิยมที่ได้รับการลงคะแนนจาก 11,620 ผู้ตอบแบบสอบถามจาก 23 ประเทศและเขตปกครองต่างๆทั่วโลก
หนึ่งในห้า (20 เปอร์เซ็นต์) ของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาชื่นชอบที่จะท่องเที่ยวไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อการพักผ่อนภายในสองปีข้างหน้านี้ ส่วนทางด้านสหราชอาณาจักรอย่างประเทศอังกฤษที่ได้รับเลือกให้เป็นอันดับสองหรือประมาณ 19 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถาม สนใจจะไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุด ตามด้วยญึ่ปุ่น 16 เปอร์เซ็นต์ ฝรั่งเศสและอิตาลีรวมกันอีก 15 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ประเทศยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชาวไทยสนใจจะไปท่องเที่ยวในอีกสองปีข้างหน้า ได้แก่ ญี่ปุ่น 50 เปอร์เซ็นต์ เกาหลี 30 เปอร์เซ็นต์ และ ฮ่องกง 21 เปอร์เซ็นต์
คุณสมบูรณ์ ครบธีรนนท์, ผู้จัดการบริษัท วีซ่า ประจำประเทศไทย, กล่าวว่า “ด้วยความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม ทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจและสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งสำหรับนักท่องเที่ยว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า 1ใน 5 ของนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะเดินทางกลับไปเยี่ยมเยียนประเทศอเมริกาอีกครั้ง จากการสำรวจพบว่าอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราที่ปรับตัวก่อนหน้านี้ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ประเทศอเมริกาเป็นสถานที่ปลายทางที่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ตามด้วยประเทศอังกฤษที่ได้รับความนิยมรองลงมา บรรดานักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเยือนประเทศอังกฤษกว่า 27 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่าพวกเขาสนใจและชื่นชอบที่จะเข้าชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ปี 2012 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน ถือเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าการแข่งขันมหกรรมกีฬาโลกเป็นปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดให้ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในทุกวันนี้”
“ขณะที่ญึ่ปุ่นยังคงเป็นประเทศยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวแถบเอเชียแปซิฟิก ซึ่งได้รับการยืนยันจากผลการสำรวจในปีนี้และปีที่แล้ว เราได้ทำการสำรวจใน 2 ตลาดหลักๆของญี่ปุ่น คืนจีนแผ่นดินใหญ่ และเกาหลีใต้ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับทัศนคติของนักท่องเที่ยวต่อเหตุการณ์สึนามิที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม ผลจากการสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่ามากกว่าหนึ่งในสาม (34เปอร์เซ็นต์) ของผู้ทำแบบสอบถามจากจีนแผ่นดินใหญ่ และหนึ่งในสี่ (24 เปอร์เซ็นต์)จากเกาหลีใต้ มีความประสงค์ที่จะไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นในสองปีข้างหน้า เนื่องจากคนจีนและคนเกาหลีใต้ยังคงคิดว่าญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยม[2] ของพวกเขา ซึ่งมีผลตรงกับสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหรือพาต้า (PATA) เกี่ยวกับเทรนด์ของประเทศจุดหมายปลายทาง[3] ที่ชาวต่างชาติเดินทางไปญี่ปุ่นหลังจากเหตุการณ์สึนามิมีจำนวนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ผลสำรวจของเราได้แสดงให้เห็นถึงโอกาสอันดีหลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศญึ่ปุ่นอีกด้วย” คุณสมบูรณ์กล่าวเพิ่มเติม
ผลสำรวจได้แสดงให้เห็นถึงค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยทั่วโลกสำหรับการท่องเที่ยวครั้งล่าสุดของผู้ทำแบบสอบถามในสองปีที่ผ่านมาคือ 44,430 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 56,850 บาทในอีกสองปีข้างหน้า นอกจากนี้ผลสำรวจได้แสดงให้เห็นว่ายอดใช้จ่ายมากที่สุดคือผู้ตอบแบบสอบถามจากประเทศออสเตรเลีย โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 109,080 บาท โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามจากประเทศซาอุดิอาระเบียที่มียอดเฉลี่ยค่าใช้จ่ายตามมาที่ 93,870 บาทจากทริปที่ผ่านมา สำหรับโปรเจคยอดใช้จ่ายในอีกสองปีข้างหน้า คาดว่าผู้ตอบแบบสอบถามจากประเทศออสเตรเลียจะยังคงเป็นประเทศที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 107,460 บาท
นักท่องเที่ยวชาวไทยใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 40,710 บาทในแต่ละทริปซึ่งเป็นตัวเลขจากผู้ตอบบบสอบถามสองปีที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าจะใช้เงินประมาณ 48,420 บาทสำหรับการไปทริปในสองปีข้างหน้า
จากผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่า ข้อเสนอที่คุ้มค่า (70 เปอร์เซ็นต์) ความเป็นธรรมชาติ (69 เปอร์เซ็นต์) ความมั่นคงทางการเมืองและสภาวะอากาศ (66 เปอร์เซ็นต์) และเส้นทางท่องเที่ยวแห่งใหม่ (65 เปอร์เซ็นต์) คือปัจจัยหลักๆที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางไปยังประเทศนั้นๆ
โดยเฉลี่ยแล้วผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกมีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวอย่างน้อยสี่ครั้งถายในสองปีหน้านี้ ซึ่งมีจำนวนมากขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับสองปีทีผ่านมา นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกส่วนมากมีความประสงค์ที่จะใช้เวลาประมาณ 10 คืนสำหรับการท่องเที่ยวครั้งต่อไป
3 ประเทศยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุดในช่วงสองปีข้างหน้า
ลำดับที่ 1(%) ลำดับที่ 2(%) ลำดับที่ 3(%)
อัตราค่าเฉลี่ยระดับโลก สหรัฐอเมริกา(20) สหราชอาณาจักร ประเทศอังกฤษ(19) ญี่ปุ่น(16)
อัตราค่าเฉลี่ยของ ญี่ปุ่น(50) เกาหลี(30) ฮ่องกง(21)
ประเทศไทย
[1] วีซ่าโกลบอล อินเทนชั่น ประจำปี 2554 (The Visa Global Travel Intentions Survey 2011) ได้จัดทำขี้นทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์โดยเนลสัน ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2554 โดยมีผู้ทำแบบสอบถามทั้งหมด 11,620 คนจาก 23 ประเทศและเขตปกครองต่างๆทั่วโลก (ออสเตรเลีย บลาซิล แคนนาดา จีน ไทเป โครเอเชีย อียิปต์ เยอรมัน ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น จีนแผ่นดินใหญ่ มาเลเซีย เม็กซิโก โมรอคโค รัสเซีย ซาอุดิ อาราเบีย สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ไทย สหราชอาณาจักรอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์) เกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวทั้งในอดีตและอนาคต ในแต่ละประเทศที่ตอบแบบสอบถาม ผู้ทำแบบสำรวจส่วนมากใช้อินเตอร์เนตในการหาข้อมูล อายุตั้งแต่ 18 ปีเป็นต้นไปและเคยท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆในช่วงวันหยุดภายใน 2 ปีที่ผ่านมาหรือสนใจที่จะท่องเที่ยวภายใน 2 ปีข้างหน้านี้
[2] การวิจัยในหัวข้อเกี่ยวกับการประเมิณความเสียหายหลังเหตุการณ์สึนามิในปี พ.ศ 2554 (The Post-Tsunami Assessment Survey 2011) ได้จัดทำขี้นทั้งแบบออนไลน์ โดยเนลสันในเดือนสิงหาคม 2554 เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจและ พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวหลังเหตุการณ์สึนามิ การสำรวจในครั้งนี้ มีผู้ทำแบบสอบถามทั้งหมด 1,518 คนจาก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีนแผ่นดินใหญ่ในหัวข้อเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวทั้งในอดีตและในอนาคต
[3] สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหรือพาต้า (PATA) ได้มีการแก้ไขข้อมูลครั้งล่าสุดในวันที่ 10 สิงหาคม 2554 - http://www.pata.org/destination-trends-2011?utm_source=NEWS%40PATA+HTMLSubscriber&utm_campaign=cdf89162c2-News_PATA_July_137_14_2011&utm_medium=email
แหล่งที่มา: วีซ่า โกลบอล อินเทนชั่น ประจำปี 2554 (Visa Global Travel Intentions Survey 2011)
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมด้านข่าวประชาสัมพันธ์กรุณาติดต่อ
วรัชญ์อร มโนมัยรัตน์
บริษัท สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
อีเมล์ [email protected]
โทร. 02 653-2717-9