เปิดสายการผลิต รถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ คันแรกของโลก ในประเทศไทย

พนักงานในศูนย์การผลิตฯ กว่า 3,500 คน พร้อมผู้แทนพันธมิตรทางการค้าของจีเอ็ม ร่วมยินดีในโอกาสการเปิดสายการผลิตรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่น Extended Cab LTZ ปิกอัพ 2 ประตูตอนครึ่ง ใหม่ล่าสุด อย่างเป็นทางการ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ดูราแม็กซ์ ขนาด 2.8 ลิตร

มร. แบรด เมอร์เคล ผู้บริหารสายผลิตภัณฑ์ยานยนต์สำหรับรถกระบะขนาดกลาง จีเอ็ม โกลบอล และมร.โรเบอร์โต แรมเพล หัวหน้าทีมวิศวกรรมยานยนต์ จีเอ็ม โกลบอล ได้ร่วมกันติดแผ่นป้ายทะเบียน “โคโรลาโด คันที่ 1” บนรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ คันแรก เพื่อตอกย้ำความสำเร็จของทีมงานฝ่ายการผลิตอีกด้วย ซึ่งศูนย์การผลิตยานยนต์จีเอ็ม จังหวัดระยองนี้ถือว่าเป็นศูนย์การผลิตยานยนต์ของจีเอ็มแห่งแรกในโลกที่ได้ผลิตรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อออกจำหน่ายในประเทศไทยและยังเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกทั่วโลกอีกด้วย

โครงการพัฒนารถกระบะโคโลราโด ใหม่ ใช้เงินลงทุนมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท (2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในระยะเวลา 5 ปี โดยได้รับการพัฒนาใน 5 ทวีปเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้ามากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ซึ่งภายในศูนย์การผลิตยานยนต์จีเอ็ม จังหวัดระยอง ได้ทุ่มเงินลงทุนมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท ในการเตรียมการเปิดสายการผลิตของรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ นอกจากนั้น จีเอ็ม ประเทศไทย ยังได้เปิดศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซล จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ในจังหวัดระยอง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการผลิตเครื่องยนต์ดีเซล ดูราแมกซ์ สำหรับการผลิต โคโลราโด รุ่นใหม่นี้อีกด้วย

“ความมุ่งมั่น ความทุ่มเท และความตั้งใจเพื่อเป็นบริษัทผลิตยานยนต์ที่ดีเยี่ยมของทีมงานของเราทุกคนได้ถูกถ่ายทอดมาในการผลิตเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ล่าสุดให้กลายมาเป็นความจริง ผมขอชื่นชมกับความสำเร็จครั้งนี้ของทุกคน” มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “ทุกวันนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเท่านั้นที่จะได้ครองตลาด ดังนั้นจีเอ็มจึงมุ่งมันเพื่อออกแบบ พัฒนา และผลิตกระบะสายพันธุ์ใหม่ที่มีคุณภาพเพื่อมาแข่งขันในตลาดต่างๆ ทั่วโลกและเอาชนะคู่แข่งได้ในที่สุด”

รถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่นี้ ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้เป็นกระบะสายพันธุ์ที่แกร่ง และมีสมรรถนะเยี่ยมที่สุดในกระบะขนาดกลางทั้งหมดของเชฟโรเลต เชฟโรเลต โคโลราโด มีให้เลือกหลายรุ่น และหลายแรงม้าเพื่อตอบสนองกับความต้องการทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบห้องโดยสาร ขนาดเครื่องยนต์ ระดับความสูง และรูปแบบของตัวกระบะเอง นอกจากนั้น ยังมาพร้อมขุมพลังดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ รุ่นใหม่ล่าสุด มีให้เลือก 2 ขนาด ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับรุ่น (LS, LT และ LTZ) ในรูปแบบที่แตกต่างกัน

โคโลราโด ใหม่ มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ทั้งหมด ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งแต่ก็ยังดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยในขณะเดียวกัน

ส่วนภายในของเชฟโรเลต โคโลราโด ประกอบด้วยที่นั่งคนขับแบบดูอัล ค็อกพิต ซึ่งรวมเอาความสะดวกสบายแบบที่นั่งคนขับของรถยนต์รวมเข้ากับความแข็งแกร่งในแบบรถกระบะ เบาะที่นั่งปรับกระชับรับไหล่และศีรษะคนขับและยกระดับสูงเพื่อเพิ่มความสบายในการขับขี่ และยังมาพร้อมกับช่องเก็บของเอนกประสงค์มากมาย เบาะที่นั่งแบบใหม่ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อาทิ การเชื่อมต่อ AUX และพอร์ต USB

นอกจากนั้นแล้ว รถกระบะจากเชฟโรเลตครั้งนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นรถกระบะที่มีความปลอดภัยสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบในรุ่นเดียวกัน เพราะได้รับการออกแบบและพ้ฒนาอย่างละเอียดพิถีพิถันทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยของทุกประเทศที่ออกจำหน่าย

เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่น LS รุ่น LT ขนาดกลาง และรุ่น LTZ พร้อมออกวางจำหน่ายที่โชว์รูมรถยนต์ เชฟโรเลต ทั้ง 93 สาขา ทั่วประเทศไทย

จากภาพ (ซ้าย — ขวา)

1. มร.โรเบอร์โต แรมเพล หัวหน้าทีมวิศวกรรมยานยนต์ จีเอ็ม โกลบอล

2. มร. แบรด เมอร์เคล ผู้บริหารสายผลิตภัณฑ์ยานยนต์สำหรับรถกระบะขนาดกลาง จีเอ็ม โกลบอล

3. มร. คาเฮอร์ คาเซม รองประธานฝ่ายปฏิบัติการการผลิต ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัลมอเตอร์ส (ประเทศไทย)

4. มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

5. มร. อลาสแตร์ ไอรอนไซด์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย)