ไตรมาส 3/2554 ธนาคารกรุงไทยมีกำไรสุทธิ 5,492 ล้านบาท

พฤหัส ๒๐ ตุลาคม ๒๐๑๑ ๑๔:๑๐
ผลประกอบการธนาคารกรุงไทยในไตรมาส 3/2554 มีกำไรจากการดำเนินงาน 10,419 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 หลังหักสำรองหนี้สูญฯ ซึ่งธนาคารได้ตั้งสำรองเพิ่มพิเศษจำนวน 1,500 ล้านบาท เพื่อรองรับความผันผวน และหลังหักภาษีเงินได้ ธนาคารมีกำไรสุทธิ 5,492 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากไตรมาส 3/2553 ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ธนาคารมีกำไรสุทธิ 16,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 42

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงผลประกอบการของธนาคารในไตรมาสที่ 3/2554 เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3/2553 ว่าธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหนี้สูญฯ และภาษีเงินได้ 10,419 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,371 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 หลังหักสำรองฯและภาษีรวม 4,927 ล้านบาท ธนาคารมีกำไรสุทธิ 5,492 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นมีสาเหตุหลักจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 3,064 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 และมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 2,929 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 290 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือน สิ้นสุดกันยายน 2554 ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนสำรองฯและภาษีจำนวน 28,168 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 43 และสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกำหนดไว้ค่อนข้างมาก ธนาคารจึงเห็นควรเพิ่มเงินสำรองฯพิเศษอีก 1,500 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2554 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ระมัดระวังเพื่อรองรับความผันผวนจากภาวะเศรษฐกิจในปีหน้า ส่งผลให้งวด 9 เดือน ธนาคารยังมีกำไรสุทธิรวม 16,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,782 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะสามารถบริหารจัดการผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกได้ อีกทั้งได้เตรียมมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าด้วย

ณ 30 กันยายน 2554 ธนาคารกรุงไทยมีเงินให้สินเชื่อ (หักรายได้รอตัดบัญชี) 1,317,298 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69,457 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากสิ้นปี 2553 มีเงินฝาก 1,269,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20,957 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากสิ้นปี 2553 มีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) จำนวน 67,090 ล้านบาท ลดลง 9,252 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 12 จากสิ้นปี 2553 โดย NPLs Ratio (gross) ลดลงจากร้อยละ 5.31 เหลือร้อยละ 4.36 และ NPLs Ratio (net) ลดลงจากร้อยละ 3.03 เหลือร้อยละ 2.75

เงินกองทุนรวมเท่ากับ 187,166 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.12 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 119,631 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.02 ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง สามารถขยายธุรกิจได้ตามแผน

ฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์

โทร. 0-2208-4174-7

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๖ กทม. ประเมินผล Lane Block จัดระเบียบจราจรหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ พบรถแท็กซี่-สามล้อเครื่องจอดแช่ลดลง
๑๗:๐๓ สมาคมประกันวินาศภัยไทย Kickoff การใช้ข้อมูล Non-Life IBS พร้อมส่งมอบรายงานข้อมูลสถิติในการพัฒนาธุรกิจประกันภัยของประเทศ
๑๗:๓๖ 3 โบรกฯ ประสานเสียงเชียร์ ซื้อ SAV เคาะราคาเป้า 24-25 บาท/หุ้น คาดกำไร Q1/67 ทุบสถิติออลไทม์ไฮ รับปริมาณเที่ยวบินเพิ่ม เก็งผลงานทั้งปีโตเด่น
๑๗:๐๓ Minto Thailand คว้ารางวัล Best Official Account จาก LINE Thailand Award 2023
๑๗:๒๔ กทม. ตรวจสอบความปลอดภัยอาคาร ป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ เตรียมพร้อมหน่วยเบสท์รองรับพายุฤดูร้อน
๑๗:๓๒ ไขข้อสงสัย.เมื่อซื้อแผงโซล่าเซลล์แล้วจะขนย้ายกลับอย่างไรให้ปลอดภัย โดย เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย)
๑๖:๔๕ ไทเชฟ ออกบูธงาน FHA Food Beverage 2024 ที่สิงคโปร์
๑๖:๕๓ เนื่องในวันธาลัสซีเมียโลก มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคธาลัสซีเมียในประเทศไทย
๑๖:๓๕ EGCO Group จัดพิธีเปิดโรงไฟฟ้า EGCO Cogeneration (ส่วนขยาย) อย่างเป็นทางการ
๑๖:๒๖ เพลิดเพลินไปกับเมนูพิเศษประจำฤดูกาล: อาหารจากแคว้นซิซิลี ประเทศอิตาลี ที่ โวลติ ทัสคาน กริลล์ แอนด์ บาร์ โรงแรมแชงกรี-ลา