แอน เอ็ดเวิร์ดส์ โฆษกฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย กล่าวถึงการประกาศในวันนี้ว่า “เราไม่มีทางเลือก รัฐบาลผ่านกฎหมายฉบับนี้ทั้งๆที่ไม่สามารถแสดงให้เห็นว่า กฎหมายดังกล่าวจะช่วยลดการสูบบุหรี่ลงได้อย่างไร อีกทั้งยังเพิกเฉยต่อความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นทั้งในออสเตรเลียและนานาประเทศเกี่ยวกับประเด็นร้ายแรงทางกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์ซองเรียบ”
ฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย ต้องการให้ระงับกฎหมายดังกล่าว พร้อมเรียกร้องค่าชดเชยจำนวนมากอันเนื่องมาจากบรรจุภัณฑ์ซองเรียบที่สร้างความเสียหายต่อเครื่องหมายการค้าและการลงทุนมูลค่ามหาศาลของบริษัทในออสเตรเลีย บริษัทประเมินมูลค่าความเสียหายไว้หลายพันล้านดอลลาร์ และคาดว่ากระบวนการทางกฎหมายจะใช้เวลา 2-3 ปี
“เรามั่นใจว่า ข้อโต้แย้งทางกฎหมายของเรามีน้ำหนักมาก และเราจะชนะคดีนี้ในที่สุด” แอน เอ็ดเวิร์ดส์กล่าว
ทั้งนี้ ฟิลลิป มอร์ริส มีความตั้งใจที่จะดำเนินคดีภายใต้กฎหมายภายในประเทศ ก่อนที่คดีจะถึงศาลสูงของออสเตรเลีย
ภูมิหลัง
นานาชาติค้านซองบุหรี่แบบเรียบ
องค์กรธุรกิจ กลุ่มทรัพย์สินทางปัญญา และรัฐบาลต่างประเทศ เกือบ 60 แห่ง ต่างแสดงความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อการออกกฎหมายซองบุหรี่แบบเรียบของรัฐบาลออสเตรเลีย, ความไม่สอดคล้องของกฎหมายดังกล่าวกับสนธิสัญญาการค้าและทรัพย์สินทางปัญญาของออสเตรเลีย และการขาดหลักฐานสนับสนุนว่านโยบายดังกล่าวจะลดการสูบบุหรี่ได้จริง ขณะที่ในอีกหลายประเทศได้ยกเหตุผลเดียวกันนี้เพื่อพิจารณาคัดค้านซองบุหรี่แบบเรียบเช่นกัน
ความวิตกกังวลภายในประเทศ
นับตั้งแต่ที่บรรจุภัณฑ์แบบเรียบได้ถูกนำเสนอเป็นครั้งแรก บรรดาธุรกิจ กลุ่มกฎหมายและทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการขนาดเล็กทั่วออสเตรเลียต่างประสานเสียงคัดค้านบรรจุภัณฑ์แบบเรียบ โดยแย้งว่าการดำเนินการดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลเสียหายตามมาอีกมากมาย อาทิ บรรจุภัณฑ์แบบเรียบที่ผิดกฎหมาย การปลอมแปลงที่เพิ่มสูงขึ้น และภาระที่ธุรกิจขนาดเล็กจะต้องแบกรับอันเป็นผลมาจากบรรจุภัณฑ์แบบเรียบ เนื่องจากความบกพร่องในการให้บริการลูกค้า การจัดการคลังสินค้า และการสูญเสียยอดขายให้กับผู้ประกอบการผิดกฎหมาย
เหตุใดซองบุหรี่แบบเรียบจึงส่งผลกระทบต่อธุรกิจของฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย ในประเทศออสเตรเลีย
บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย จำกัด (PMA) เป็นเจ้าของบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส จำกัด (PML) ซึ่งดำเนินการผลิตและจำหน่ายบุหรี่ในออสเตรเลียมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2497 ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ฟิลลิป มอร์ริส ได้สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักจนเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น มาร์ลโบโร (Marlboro), อัลไพน์ (alpine), ลองบีช (Longbeach), ปีเตอร์ แจ็คสัน (Peter Jackson), ชอยส์ (choice) และจีที (GT) ซองแบบเรียบจะเปลี่ยนให้ผลิตภัณฑ์บุหรี่กลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเท่ากับเป็นการปล้นศักยภาพของฟิลลิป มอร์ริสในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการทำลายมูลค่าการลงทุนของฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย ในออสเตรเลีย
สนธิสัญญาการลงทุนทวิภาคีออสเตรเลีย-ฮ่องกง (BIT)
รัฐบาลฮ่องกงและรัฐบาลออสเตรเลียได้บรรลุการทำสนธิสัญญาฉบับนี้ในปี 2536 อันเป็นความพยายามที่จะสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพิ่มการลงทุนและส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ด้วยการมอบความคุ้มครองซึ่งกันและกันเมื่อนักลงทุนจากประเทศหนึ่งเข้าไปลงทุนในอีกประเทศหนึ่ง
บรรจุภัณฑ์แบบเรียบของออสเตรเลียละเมิดสนธิสัญญา BIT ดังนี้
* ทำให้ฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย สูญเสียการลงทุนและทรัพย์สินทางปัญญามูลค่ามหาศาลโดยไม่ได้รับการชดเชย (มาตรา 6(1))
* ปฏิบัติต่อการลงทุนของฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย ในออสเตรเลีย อย่างไม่ยุติธรรม (มาตรา 2(2))
* สร้างความเสียหายให้กับการลงทุนของฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย ในออสเตรเลีย อย่างไม่สมเหตุสมผล (มาตรา 2(2))
* ไม่ให้ความคุ้มครองการลงทุนของฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย ในออสเตรเลียอย่างเต็มที่ (มาตรา 2(2))
* ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับระหว่างประเทศของออสเตรเลียในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย (มาตรา 2(2)) ด้วยการละเมิดข้อตกลงว่าด้วยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวพันกับการค้า (TRIPS), อนุสัญญากรุงปารีสว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินอุตสาหกรรม และข้อตกลงว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้าขององค์การการค้าโลก (TBT)
ความคืบหน้า
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย ได้แจ้งต่อรัฐบาลว่า บริษัทจะดำเนินการทางกฎหมายภายใต้สนธิสัญญาการลงทุนทวิภาคีของออสเตรเลียกับฮ่องกง หากออสเตรเลียผ่านกฎหมายบรรจุภัณฑ์แบบเรียบ ตามเงื่อนไขของสนธิสัญญาระบุไว้ว่า จดหมายแจ้งจะทำให้ฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย และรัฐบาลออสเตรเลียต้องเจรจากันเป็นระยะเวลา 3 เดือน อย่างไรก็ตาม การผ่านกฎหมายแสดงให้เห็นว่า ฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งกับรัฐบาลออสเตรเลียได้ในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับการแจ้งไปยังรัฐบาลออสเตรเลียในวันนี้เท่ากับเป็นการเริ่มต้นกระบวนการทางกฎหมายตามกฎอนุญาโตตุลาการของคณะกรรมาธิการสหประชาชาติว่าด้วยกฎเกณฑ์การค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2553 โดย ฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย ได้เสนอให้สิงคโปร์เข้าร่วมในคณะอนุญาโตตุลาการและให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจแต่งตั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการศาลอนุญาโตตุลาการถาวรในกรุงเฮก
เกี่ยวกับฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (PMI)
ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (PMI) เป็นบริษัทบุหรี่ชั้นนำระดับนานาชาติที่มีแบรนด์ติดอันดับท็อป 15 ของโลกอยู่ถึง 7 แบรนด์ ซึ่งรวมถึงแบรนด์บุหรี่อันดับ 1 ของโลกอย่าง มาร์ลโบโร ผลิตภัณฑ์ของฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ มีจำหน่ายในราว 180 ประเทศ โดยในปี 2553 บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดบุหรี่ระหว่างประเทศ นอกสหรัฐราว 16% หรือ 27.6% หากไม่รวมสาธารณรัฐประชาชนจีนและสหรัฐ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmi.com
เกี่ยวกับฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย จำกัด (PMA)
ฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย จำกัด (PMA) บริหารธุรกิจของฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ในทวีปเอเชีย จากสำนักงานในฮ่องกง และภายใต้บทบัญญัติว่าด้วยบริษัทของฮ่องกง (Hong Kong Companies Ordinance) ปีพ.ศ. 2537 ฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย จำกัดเป็นเจ้าของบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส จำกัด (PML) ในประเทศออสเตรเลีย
เกี่ยวกับฟิลลิป มอร์ริส จำกัด
ฟิลลิป มอร์ริส จำกัด (PML) เริ่มต้นกิจการในออสเตรเลียเมื่อปี 2497 บริษัทมีสำนักงานอยู่ในเมลเบิร์นและมีพนักงานกว่า 800 คน โดยผลิตและจำหน่ายแบรนด์ชื่อดังมากมาย ได้แก่ มาร์ลโบโร, อัลไพน์, ลองบีช, ปีเตอร์ แจ็คสัน, ชอยส์ และจีที ในปี 2553 ฟิลลิป มอร์ริส จำกัด มีส่วนแบ่งในตลาดบุหรี่ออสเตรเลียอยู่ราว 37.5%
ติดต่อ:
สำหรับติดต่อสอบถามในออสเตรเลีย
คริส อาร์เจนท์ (Chris Argent)
บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส จำกัด
โทรศัพท์: +61 3 8531 1054
อีเมล์: [email protected]
สำหรับติดต่อสอบถามในประเทศอื่นๆ
แอน เอ็ดเวิร์ดส์ (Anne Edwards)
ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล
โลซาน สวิตเซอร์แลนด์ (เขตเวลายุโรปกลาง ช้ากว่าเวลาในประเทศไทย 6 ชั่วโมง)
โทรศัพท์: +41 (0)58 242 45 00
อีเมล์: [email protected]
แหล่งข่าว: บริษัทฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย จำกัด
AsiaNet 47399
-- เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --