สสจ.จันทบุรี เตรียมความพร้อม รองรับอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555

อังคาร ๒๗ ธันวาคม ๒๐๑๑ ๑๔:๑๕
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อลดการบาดเจ็บและการสูญเสียชีวิต และเชิญชวนประชาชนร่วมลดอุบัติเหตุในช่วง 7 วัน ระวังอันตราย โดยใช้มาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร.

นายแพทย์กฤษณ์ ปาลสุทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี ได้กล่าวว่าช่วงปีใหม่มีการใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการมีการสังสรรค์ท่องเที่ยว ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนสูงกว่าปกติ จากข้อมูลศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางท้องถนน ปี 2553-2554 พบว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 50 คน ซึ่งสาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุทางท้องถนนพบว่าเกิดสาเหตุจากเมาสุราสูงสุด และรองลงมาเกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนด ปีนี้ในช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2555 ศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางท้องถนนจังหวัดจันทบุรี กำหนดเป้าหมายการเกิดอุบัติเหตุให้ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในเทศกาลปีใหม่ 2554 โดยกำหนดเป้าหมายสถิติจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ 57 ครั้ง ผู้เสียชีวิตจำนวนไม่เกิน 6 คน และผู้บาดเจ็บจำนวน 71 คน ดังนั้นประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวัง และป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นพิเศษ และเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วผู้ประสบอุบัติเหตุต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีเพื่อนำส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุโดยเร็วที่สุด

นายแพทย์กฤษณ์ ปาลสุทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้เพื่อลดการบาดเจ็บ ป้องกันความพิการและการสูญเสียชีวิต ในการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี ได้สั่งการให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง เตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือ อุปกรณ์ รถนำส่งผู้ป่วย และด้านบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งประสานความร่วมมือกับศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ(ศูนย์เทพรัตน์)รพ.พระปกเกล้า และเครือข่ายการช่วยเหลือด้านการแพทย์ฉุกเฉิน หน่วยกู้ชีพของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรการ 3 เร็ว 2 ดี คือ โทรเร็ว รับเร็ว ส่งเร็ว และให้บริการที่ดีทั้งนอกและในโรงพยาบาลตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเชิญชวนประชาชนร่วมลดอุบัติเหตุทางถนนด้วยการใช้มาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. ได้แก่ เมาไม่ขับ,สวมหมวกนิรภัย,มอเตอร์ไซด์ปลอดภัยโดยไม่ดัดแปลลงให้เกิดอันตราย,มีใบขับขี่,รัดเข็มขัดนิรภัย และขับขี่ด้วยความเร็วตามกำหนด รวมถึงการ ไม่แซงในที่คับขัน ไม่ฝ่าฝืนกฎจราจร และไม่โทรศัพท์ขณะขับขี่รถด้วย

หากพบเห็นผู้ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทรศัพท์ขอรับการช่วยเหลือได้ทางสายด่วนรับแจ้งเหตุและสั่งการโรงพยาบาลพระปกเกล้า โทรศัพท์หมายเลข 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดต่อ:

นายทวีศักดิ์ สิทธิเวช [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๒ คณะ กิจกรรม วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ อัลเตอร์วิม ร่วมวิจัย-พัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงาน
๑๖:๐๖ กรุงศรีออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือนตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย
๑๖:๒๙ Lexar Professional CFexpress 4.0 Type B Card DIAMOND คว้ารางวัล BEST STORAGE MEDIA ในงาน TIPA WORLD AWARDS
๑๖:๔๔ ฟอร์ติเน็ต ร่วมมือ สกมช. คัดเลือก-ฝึกอบรมเสริมทักษะบุคลากรคลาวด์ เล็งเพิ่มทรัพยากรบุคคล เสริมความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์ทุกรูปแบบ
๑๖:๒๙ ไอ-เทล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก แข็งแกร่งด้วย รายได้กว่า 4 พันล้าน กำไรเพิ่ม 93 เปอร์เซ็นต์ มุ่งการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี
๑๖:๒๒ หมอแม็ค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของไทย
๑๖:๐๗ ทรูเวฟ (ประเทศไทย) เปิดตัว GreenFarm.AI ผู้ช่วยคนใหม่ที่จะทำให้สวนเติบโตสวยและยั่งยืนได้ดั่งใจ
๑๖:๕๐ ไบเทคบุรี เมกะโปรเจกต์ของภิรัชบุรี กรุ๊ป พลิกโฉม ไบเทค บางนา ก้าวข้ามอุตสาหกรรม MICE สู่สถานที่แห่งไลฟ์สไตล์ครบวงจร
๑๖:๕๒ ดีมันนี่ ตอกย้ำความสำเร็จในงาน Money 20/20 Asia ในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน โอนเงินไปต่างประเทศชั้นนำในวงการฟินเทคไทย
๑๖:๕๔ สบยช. ยืนยัน ชาเม่ คอลลาเจน ไม่มีสารเสพติด