สถาบันคุ้มครองเงินฝากย้ำความเชื่อมั่นประชาชน ยันลดเงินนำส่งไม่กระทบผู้ฝากแน่นอน

จันทร์ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๒ ๑๑:๓๓
สถาบันคุ้มครองเงินฝากย้ำความเชื่อมั่นประชาชน ยันลดเงินนำส่งไม่กระทบผู้ฝาก เหตุเศรษฐกิจไทยดี แบงก์แข็งแกร่ง

นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่าผู้ฝากเงินทุกรายไม่ว่าจะมากหรือน้อย ควรจะมีวัคซีนเพื่อป้องกันความเสียหายในอนาคตเมื่อเกิดวิกฤติการณ์กับสถาบันการเงิน ซึ่งจะช่วยป้องกันชดเชยสิ่งที่ไม่คาดคิดกับเงินในกระเป๋าให้ปลอดภัยอยู่เสมอ

โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่คุ้มครองเงินฝากมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2551 ซึ่งคุ้มครอง 100% และกฎหมายได้กำหนดให้ปรับการคุ้มครองเงินฝากมาอยู่ 50 ล้านบาทต่อรายในปัจจุบัน และจะลดเหลือ 1 ล้านบาทต่อรายในสิงหาคม 2555 นี้ ครอบคลุมบัญชีเงินฝากถึง 98.5% อย่างไรก็ตามวงเงินคุ้มครองสามารถทบทวนและปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม อย่างเช่นในต่างประเทศหลังเกิดวิกฤติซับไพร์มเมื่อปี 2551 ก็ได้มีการปรับเพิ่มวงเงินการคุ้มครองเงินฝาก

ณ สิ้นปี 2554 มีจำนวนผู้ฝากเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองเงินฝากจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากรวมทั้งสิ้นประมาณ 60 ล้านราย ผู้ฝากส่วนใหญ่ร้อยละ 98.45 เป็นผู้ฝากเงินที่มีวงเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยคิดเป็นเงินฝากทุกประเภทที่ได้รับความคุ้มครองมีจำนวนทั้งสิ้น 7.3 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการคุ้มครองทั้งส่วนของเงินฝากของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

นายสิงหะกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีประชาชนให้ความสนใจสอบถามเข้ามาเกี่ยวกับกรณีการลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝากเหลือ 0.01% จาก 0.4% ตามแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินนั้น ทางสถาบันฯ ยืนยันความมั่นใจได้ว่าไม่ได้เป็นปัญหา เพราะสถาบันฯ ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม แต่ในทางปฏิบัติหากเกิดปัญหาลุกลามจนกระทั่งกระทบระบบสถาบันการเงินขึ้นมาจริงๆ หน่วยงานภาครัฐก็จะต้องช่วยกันเข้าไปดูแลช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งกรณีประเทศสหรัฐอเมริกา หรือญี่ปุ่น ถือเป็นตัวอย่างที่รัฐบาลเข้าไปดูแลสถาบันการเงินในช่วงวิกฤติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ฝากเงินประกอบกับในขณะนี้ระบบสถาบันการเงินไทยยังแข็งแกร่ง หลังจากมีบทเรียนจากวิกฤติปี 2540 ทำให้สถาบันการเงินและประชาชน รวมทั้งผู้กำกับดูแลมีการปรับตัว มีการระมัดระวังป้องกันความเสี่ยง และในขณะนี้เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวที่ดีขึ้น ธนาคารพาณิชย์ยังแข็งแกร่ง เพราะมีระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงค่อนมั่นคงมีกว่า 1 เท่าจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ซึ่งค่อนข้างมั่นคงสูง โอกาสที่ธนาคารพาณิชย์จะมีปัญหาจนถูกปิดมีน้อยมาก

สำหรับผู้สนใจรายละเอียดต่างๆ ของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก หรือต้องการค้นหารายชื่อสถาบันการเงินและรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครอง และวงเงินคุ้มครอง สามารถติดตามได้ทาง www.dpa.or.th หรือ 02-272-0400

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน