ธนาคารเกียรตินาคินและทุนภัทรยืนยันร่วมกิจการเตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเดือนเมษายน

พฤหัส ๐๑ มีนาคม ๒๐๑๒ ๑๐:๔๙
ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทุนภัทร จำกัด (มหาชน) ยืนยันการร่วมกิจการและร่วมบริหารงาน ภายหลังการตรวจสอบสถานะของกิจการแล้วเสร็จ (Due Diligence) โดยธนาคารเกียรตินาคินจะทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัททุนภัทร เพื่อแลกเปลี่ยนกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคารเกียรตินาคิน ในอัตราการแลกเปลี่ยนหุ้น 1 หุ้นสามัญของทุนภัทร ต่อ 0.9135 หุ้นสามัญของธนาคาร ทั้งนี้ การร่วมกิจการและร่วมบริหารงานจะเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มจากการร่วมกันพัฒนาธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพสูง ด้วยประสบการณ์ของผู้บริหารและความแข็งแกร่งของทีมงาน รวมถึงการเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจเฉพาะด้านของทั้งสองบริษัทในธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจหลักทรัพย์ และตลาดทุน

คณะกรรมการ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (“ธนาคาร”) และบริษัท ทุนภัทร จำกัด (มหาชน) (“ทุนภัทร”) มีมติเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 เห็นชอบให้นำเสนอแผนการร่วมกิจการระหว่างธนาคารและทุนภัทรต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในเดือนเมษายนนี้ โดยการร่วมกิจการระหว่างธนาคารและทุนภัทร จะเป็นไปเพื่อดำเนินธุรกิจการเงิน อันประกอบไปด้วยธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจหลักทรัพย์และตลาดทุน และธุรกิจสนับสนุนอื่นๆ ร่วมกัน ในการนี้ธนาคารจะทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของทุนภัทรจากผู้ถือหุ้นทุกราย ในอัตราการแลกเปลี่ยนหุ้น (Swap Ratio) เท่ากับ 1 หุ้นสามัญของทุนภัทร ต่อ 0.9135 หุ้นสามัญของธนาคาร เพื่อเพิกถอนหุ้นของทุนภัทรออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) (Delisting Tender Offer) ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด คือเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ มีผู้ถือหุ้นทุนภัทรตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์คิดเป็นจำนวนหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

สำหรับการบริหารจัดการภายหลังการร่วมกิจการนั้น จะเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างธนาคารและทุนภัทร ทั้งที่เป็นธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันและธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวกับธุรกิจธนาคารพาณิชย์หรือธุรกิจหลักทรัพย์และตลาดทุน เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการเงินโดยใช้ศักยภาพเชิงบวกของทั้งสองบริษัท มุ่งถึงประโยชน์สูงสุดขององค์กรโดยรวม โดยไม่จำกัดว่าการดำเนินธุรกิจดังกล่าวจะต้องอยู่ภายใต้บริษัทใด การบริหารจัดการด้านธุรกิจธนาคารพาณิชย์ จะอยู่ภายใต้การดำเนินการของคณะกรรมการของธนาคาร ซึ่งมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 15 คน โดยมีกรรมการที่เป็นอิสระจำนวน 6 คน และกรรมการที่เป็นตัวแทนจากทุนภัทรจำนวน 3 คน สำหรับการบริหารจัดการธุรกิจหลักทรัพย์และตลาดทุนจะอยู่ภายใต้การบริหารงานและ/หรือการถือหุ้นโดยทุนภัทร ซึ่งคณะกรรมการของทุนภัทรจะประกอบไปด้วยกรรมการจำนวนรวมทั้งสิ้น 13 คน โดยมีกรรมการที่เป็นอิสระจำนวน 4 คน และกรรมการที่เป็นตัวแทนจากธนาคารจำนวน 3 คน

นายสุพล วัธนเวคิน ประธานกรรมการ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภายหลังจากที่มีการลงนามบันทึกข้อตกลงในการร่วมกิจการระหว่างธนาคารและทุนภัทรแล้ว ทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะของกิจการ (Due Diligence) ซึ่งกันและกันเพิ่มเติม โดยผลการตรวจสอบปรากฏว่าไม่มีประเด็นหรือข้อมูลใดที่มีผลกระทบต่อสถานะการดำเนินธุรกิจของทั้งสองกิจการอย่างมีนัยสำคัญ คณะกรรมการธนาคารจึงมีมติเห็นชอบอนุมัติการร่วมกิจการระหว่างธนาคารและทุนภัทรและนำเสนอแผนการร่วมกิจการดังกล่าวต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติต่อไป”

นายสุพล กล่าวเพิ่มเติมว่า “เนื่องจากธนาคารและทุนภัทร ต่างก็เป็นองค์กรที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในธุรกิจที่แต่ละบริษัทดำเนินการ ธนาคารเกียรตินาคินถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ และมีความชำนาญในธุรกิจสินเชื่อสำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ บริษัททุนภัทร และบริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) (“หลักทรัพย์ภัทร”) ถือได้ว่าเป็นผู้นำด้านการให้บริการทางธุรกิจหลักทรัพย์อย่างครบวงจร ทั้งในธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์สำหรับลูกค้าสถาบัน ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนให้แก่ลูกค้าบุคคลรายใหญ่ (Private Wealth Management) ธุรกิจวานิชธนกิจ (Investment Banking) ธุรกิจการลงทุน (Principal Investment Business) และธุรกิจตราสารอนุพันธ์ (Derivatives Business) ดังนั้นภายหลังการร่วมกิจการ ทั้งธนาคารและทุนภัทรจะยังคงใช้ชื่อเดิมในการประกอบธุรกิจ เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์จากภาพลักษณ์และ Brand Equity ของทั้งสองบริษัทซึ่งมีฐานลูกค้าที่แตกต่างกัน เพื่อเน้นความเป็นผู้นำในธุรกิจธนาคารพาณิชย์เฉพาะด้านและธุรกิจหลักทรัพย์และตลาดทุน (Specialized Commercial Bank and Investment Bank)”

นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการ บริษัท ทุนภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการร่วมกิจการครั้งนี้ว่า “ภายหลังการตรวจสอบสถานะกิจการแล้วเสร็จและไม่พบประเด็นที่มีผลกระทบต่อมูลค่ากิจการอย่างมีนัยสำคัญ ที่ประชุม คณะกรรมการของทุนภัทรจึงมีมติเห็นชอบการเข้าร่วมกิจการระหว่างธนาคารและทุนภัทร เพื่อผนึกศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและรวมจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย และเพิ่มขีดความสามารถในการทำธุรกิจเพื่อรองรับการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจมหภาคของประเทศไทย ทั้งยังเป็นการตอบสนองพัฒนาการของตลาดทุนที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า พนักงาน และผู้ถือหุ้นของทั้งสองฝ่าย เนื่องจากการบริหารงานเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคิน-ภัทร จะทำให้ภัทรสามารถเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายและมีความเฉพาะตัว ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจวานิชธนกิจ มีช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายขึ้นผ่านทางฐานลูกค้าธนาคารและสาขา สามารถประกอบธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ธนาคารจะมีเครื่องมือทางการเงินและตลาดทุนที่ใช้ในการแข่งขันครบถ้วนขึ้น ทำให้การกระจายรายได้ของธนาคารดีขึ้นและช่วยให้กำไรของธนาคารดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะกลางและระยะยาว โดยภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการมีมติดังกล่าว กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของทุนภัทร ทุนภัทร ธนาคารเกียรตินาคิน และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคารเกียรตินาคินได้ร่วมลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

นายบรรยงกล่าวต่อไปว่า “ถึงแม้ว่าการร่วมกิจการดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัทและการขออนุมัติในเรื่องต่างๆ จากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และกระบวนการทำคำเสนอซื้อหุ้นซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่สามของปี 2555 แต่ปัจจุบันธนาคารและทุนภัทรได้เริ่มศึกษาถึงแผนพัฒนาศักยภาพร่วม (Synergies Realization Plan) แล้ว เพื่อให้การร่วมกิจการสำเร็จลุล่วง สร้าง synergy สูงสุดจากการร่วมกิจการและวางแผนกลยุทธ์เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง