นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฮอนด้าขอขอบคุณทุกกำลังใจตลอดจนความเชื่อมั่นที่มีให้บริษัทมาโดยตลอด วิกฤติที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์อันมีค่ายิ่งสำหรับฮอนด้าที่พร้อมจะเปลี่ยนเป็นพลังในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ที่ล้ำหน้า ควบคู่กับการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดต่อไป
“วันนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่จะยืนยันการกลับมาของฮอนด้าที่แข็งแกร่งกว่าเดิม โดยฮอนด้าได้เตรียมยนตรกรรมหลากหลายไว้เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมทั้งยังขยายฐานธุรกิจไปสู่กลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์ที่มีระดับมากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมให้ฮอนด้าในประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์ที่เติมเต็มความต้องการของลูกค้าที่มีความแตกต่างกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ปีนี้จึงพิเศษกว่าทุกปี โดยเรานำยนตรกรรมคุณภาพของฮอนด้ามาเปิดตัวมากกว่าทุกครั้ง ซึ่งเป็นที่มาของแนวคิด Combination of Joys ของบูธฮอนด้าในปีนี้” นายพิทักษ์กล่าวเสริม
นับเป็นการเผยโฉม ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยแนวคิด “ความเป็นที่สุดของรถซีดาน”
ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ขับขี่ในยุคนี้ พร้อมด้วยสมรรถนะอันเปี่ยมพลังของเครื่องยนต์ i-VTEC 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E85 ได้เป็นรุ่นแรกของฮอนด้า ซึ่งมีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ในราคาที่ใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้นในบางรุ่น แต่ไม่เกิน 20,000 บาท
อีกทั้งยังมี รถแต่งต้นแบบ ฮอนด้า บริโอ้ ที่เพิ่มความเร้าใจจากการแต่งรถใน 2 สไตล์ คือ Day Life Concept ที่สะท้อนความโฉบเฉี่ยวเต็มรูปแบบอย่างลงตัวกับสีพิเศษ ส้ม โซล่าร์ เมทัลลิก และ Night Life Concept ที่แสดงถึงความล้ำสมัยของพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ บ่งบอกถึงความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เอาใจคนรักการแต่งรถโดยเฉพาะ ฮอนด้า บริโอ้ จึงยังคงเป็นอีโคคาร์ที่มีดีไซน์และสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ต ตามแนวคิด Small is Smart ตอบโจทย์คนรักรถขนาดเล็กแต่โฉบเฉี่ยว ด้วยเทคนิคการแต่งรถแบบสปอร์ตสไตล์ฮอนด้าเท่านั้น
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้นำเข้ารถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นอีก 3 รุ่น เพื่อรองรับตลาดให้ครอบคลุมสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ (MUV) ที่เหมาะสำหรับลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการใช้เวลาร่วมกับครอบครัว 2 รุ่น คือ โอดิสซีย์ (ODYSSEY) และ สเตปแวกอน สปาด้า (STEP WGN SPADA) ส่วนอีก 1 รุ่น คือ ซีอาร์-ซีร์ (CR-Z) นวัตกรรมยานยนต์ใหม่ ซึ่งเป็นรถสปอร์ตไฮบริดที่เหมาะกับการใช้งานได้ทุกวัน
โอดิสซีย์ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรู ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่หรูหราสง่างาม พิถีพิถันในทุกรายละเอียด ผสานกับสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวลอย่างซีดานให้ความคล่องตัวในทุกการขับขี่ รูปลักษณ์ล้ำสมัย กระจังหน้าโครเมียมแบบโครมดำ ที่ได้รับการออกแบบให้กลมกลืนกับไฟหน้าฮาโลเจน และกันชนขนาดใหญ่ เส้นสายตัวถังจรดไฟท้ายโดดเด่นอย่างมีสไตล์ ภายในโอ่อ่า กว้างขวาง สะดวกสบาย ตกแต่งแผงคอนโซลหน้า และแผงข้างประตูด้วยลายไม้ เบาะนั่งผ้า สีเบจ ให้ความหรูหรายิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถปรับพับได้หลายรูปแบบ พร้อมแถวที่ 3 พับด้วยไฟฟ้า ให้พื้นที่ใช้สอยอย่างมีประสิทธิภาพ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มาตรวัดเรืองแสงสไตล์สปอร์ต ล้ำสมัย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องปรับอากาศผู้โดยสารแถว 2 และ 3 ระบบเนวิเกเตอร์ เครื่องเล่นดีวีดี พร้อมกล้องส่องภาพด้านหลัง เปี่ยมสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์อัจฉริยะ DOHC i-VTEC 2.4 ลิตร 180 แรงม้า ที่ให้สมรรถนะสูง และมีมลพิษต่ำผ่านมาตรฐาน Euro 4 เกียร์อัตโนมัติ5 สปีด พร้อมปุ่ม ECON Mode ที่ช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก พร้อมถุงลม 6 ตำแหน่ง ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ และม่านถุงลมด้านข้าง เพิ่มความปลอดภัยในทุกตำแหน่งที่นั่ง ให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างมั่นใจ
โอดิสซีย์ รุ่น 2.4 L JP มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียม สีเทาโพลิช และสีดำคริสตัล จำหน่ายในราคา 2,557,000 บาท
สำหรับ สเตปแวกอน สปาด้า เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่ให้สุนทรียภาพแห่งการเดินทาง สะดุดตาด้วยรูปลักษณ์ในแบบมินิแวนสปอร์ตหรู ด้านหน้าได้รับการออกแบบอย่างลงตัวตั้งแต่กระจังหน้า กันชนหน้าและไฟหน้าขนาดใหญ่ เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟท้ายแบบ LED พร้อมสปอยเลอร์หลัง ภายในห้องโดยสารกว้างขวางรองรับได้ถึง 8 ที่นั่ง เบาะผ้าสีดำสไตล์สปอร์ต สามารถปรับเบาะให้เหมาะสมกับการใช้งานได้หลายรูปแบบเบาะแถว 3 ปรับพับได้ 60 :40 พร้อมการพับแบบแบนราบ ประตูด้านข้างสไลด์แบบอัตโนมัติ ซ้าย-ขวา ให้ความสะดวกสบายและความอิสระในการก้าวขึ้น-ลง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศผู้โดยสารแถว 2 และ 3 เครื่องเล่นดีวิดีพร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ และกล้องส่องภาพด้านหลัง ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) ปุ่ม ECON Mode ที่ช่วยให้การขับขี่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ SOHC 4 สูบ 16 วาล์วi-VTEC 2.0 ลิตร 150 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ระบบควบคุมการทรงตัว VSA ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist) เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่
สเตปแวกอน สปาด้า รุ่น 2.0 L JP มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียม สีน้ำเงินโคบอลต์ และสีดำพรีเมียม แบล็คคิช จำหน่ายในราคา 2,174,000 บาท
ส่วน ซีอาร์-ซีร์ ยนตรกรรมสปอร์ตไฮบริด นับเป็นอัจริยะแห่งนวัตกรรมการขับเคลื่อนที่ให้ประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบสนองการขับขี่ที่สนุกเร้าใจได้ทุกวัน รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว ด้วยดีไซน์ล้ำสมัยสไตล์รถแข่ง เส้นสายตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านหลังสื่อถึงความแข็งแกร่ง ทรงพลัง ภายในห้องโดยสารสไตล์สปอร์ต ล้ำสมัยด้วยเทคนิคการออกแบบเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เบาะนั่งสไตล์สปอร์ต โอบกระชับ เบาะที่นั่งด้านหลัง สามารถพับลงเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย ให้ประโยชน์ในการใช้งานยิ่งขึ้น คอนโซลหน้าและสวิตช์ต่างๆ อยู่ในตำแหน่งเหมาะสมกับการใช้งาน มาตรวัดเรืองแสง 3 มิติ ให้การมองเห็นได้อย่างชัดเจน ล้ำสมัยด้วยไฟสีฟ้า ในโหมดการขับขี่แบบปกติจะเปลี่ยนเป็นสีแดงในโหมดการขับขี่สปอร์ต และเปลี่ยนเป็นสีเขียวในโหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูล (Multi Information Display)ที่ใช้งานง่าย เสาอากาศวิทยุเครื่องเสียงแบบครีบ พร้อมเครื่องยนต์อัจฉริยะ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC 1.5 ลิตร และระบบมอเตอร์ไฟฟ้า IMA (Integrated Motor Assist) ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ให้ประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่แรงและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ระบบควมคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPS เพิ่มความมั่นใจในระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ทั้งระบบถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ และม่านถุงลมด้านข้าง ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบช่วยควบคุมการทรงตัวแบบ VSA ให้ทุกการขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น
ซีอาร์-ซีร์ รุ่น 1.5 L JP มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียม สีดำคริสตัล และสีเทาสตอร์ม จำหน่ายในราคา 1,975,000 บาท
นอกจากนี้ บูธฮอนด้ายังได้จัดแสดงยนตรกรรมรุ่นต่างๆ ได้แก่ บริโอ้ แจ๊ซ ซิตี้ แอคคอร์ด ซีอาร์-วี และฟรีด รวมทั้งสิ้น 10 รุ่น และเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าได้ง่ายขึ้น ฮอนด้าจึงมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับรถยนต์3 รุ่น อาทิ ซีอาร์-วี ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ฟรีด รุ่น E Limited ให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% และ ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ส่วนบริโอ้ มอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% โดยสามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมได้ ที่บูธฮอนด้าภายในงาน และที่โชว์รูมพร้อมศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ
“ในโอกาสนี้ ผมขอขอบคุณคนไทยที่ให้การสนับสนุนฮอนด้าเป็นอย่างดี ทำให้ธุรกิจของฮอนด้าเติบโตมาอย่างทุกวันนี้ เราขอยืนยันเจตนารมณ์ที่จะเดินเคียงข้างและเติบโตไปพร้อมๆ กับสังคมไทย เพื่อตอบแทนความเชื่อมั่นที่คนไทยมีให้กับฮอนด้า และผลิตภัณฑ์ของเราด้วยดีเสมอมา เพื่อให้ฮอนด้ายังคงเป็นบริษัทที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ และเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบมากที่สุด” นายพิทักษ์กล่าวทิ้งท้าย
เกี่ยวกับบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ตั้งอยู่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา มีกำลังผลิตสูงสุด 240,000 คันต่อปี และเป็นฐานการผลิตหลักของฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย โดยผลิตรถยนต์ฮอนด้าทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ บริโอ้, แจ๊ซ, ซิตี้, ซีวิค, แอคคอร์ด และซีอาร์-วี สำหรับจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ กว่า 30 ประเทศทั่วโลก