นายวีรชัย เปิดเผยว่า ซีพีเอฟในฐานะผู้นำด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ผลิตอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ที่ตระหนักถึงความปลอดภัยในอาหาร (Food Safety) ตลอดกระบวนการผลิต และให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นหลัก โดยนอกจากส่วนของภาคการผลิตแล้ว งานวิจัยและพัฒนานับว่าเป็นเบื้องหลังความสำเร็จในการสนับสนุนให้ซีพีเอฟเติบโตได้อย่างยั่งยืน มีการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับกฎระเบียบและมาตรฐานสากล ตลอดจนพัฒนาสินค้าให้เป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภค
“ซีพีเอฟและสวทช.ได้ร่วมมือกันเพื่อทำการศึกษาวิจัยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตของบริษัทแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาความเชี่ยวชาญ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับบุคลากรของทั้งสองฝ่ายอีกด้วย และเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นอีกแรงผลักดันหนึ่งที่ทำให้ซีพีเอฟสามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นครัวของโลกได้อย่างแน่นอน” นายวีรชัย กล่าว
ด้าน ดร.ทวีศักดิ์ เสริมว่า ความร่วมมือกับซีพีเอฟในครั้งนี้ นับเป็นนิมิตหมายที่ดีในการยกระดับการวิจัยและพัฒนาเชิงบูรณาการร่วมกับภาคการผลิตโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ ซึ่งนอกจากช่วยเพิ่มสมรรถภาพการผลิตสัตว์แล้ว ยังสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยอาหารให้กับผู้บริโภค ผลักดันให้อุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ของประเทศสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
ทั้งนี้ สวทช. มีพันธะกิจหลักในการสร้างความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ จึงกำหนดยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนา “คลัสเตอร์เกษตรและอาหาร” ขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดความสูญเสียจากปัจจัยต่างๆ ช่วยยกระดับคุณภาพความปลอดภัย และสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าภาคเกษตรและอาหารของประเทศ โดยอาศัยกลยุทธ์สร้างความร่วมมือกับพันธมิตร และบริหารจัดการเชิงบูรณาการกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อพัฒนาโจทย์วิจัยที่ชัดเจน ร่วมสนับสนุนการวิจัยที่นำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้จริง