IHL เร่งสปีดผลิตเบาะหนังส่งค่ายฮอนด้า หลังประกาศเปิดสายผลิต-เร่งส่งมอบรถ

อังคาร ๑๐ เมษายน ๒๐๑๒ ๑๕:๔๕
IHL พร้อมเร่งเครื่องผลิตเบาะหนังป้อนค่ายรถยนต์ฮอนด้า หลังบริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ประกาศ ดีเดย์เปิดสายการผลิตโรงงานเป็นทางการ และเร่งผลิต-ส่งมอบรถที่ค้างส่งให้กับลูกค้าภายในกลางปีนี้ "องอาจ ดำรงสกุลวงษ์" เผยบริษัทฯ เตรียมกำลังการผลิตรองรับออเดอร์ของค่ายฮอนด้าไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าต้องเร่งผลิตเป็นกรณีพิเศษ เหตุฮอนด้าลุยส่งมอบรถค้างส่งทั้งหมดให้ทันกลางปีนี้ มั่นใจกำลังการผลิตค่ายรถยักษ์ใหญ่กลับคืนมาทั้งหมดหนุนผลงานปีนี้เติบโตโดดเด่นตามเป้า

นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเบาะหนังสำหรับรถยนต์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมเดินสายการผลิตเบาะหนังรถยนต์เพื่อป้อนให้กับค่ายรถยนต์ฮอนด้าว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้เริ่มเดินสายการผลิตเบาะหนังรถยนต์สำหรับค่ายรถยนต์ฮอนด้าแล้ว และพร้อมรองรับคำสั่งซื้อได้อย่างคล่องตัว เนื่องจากได้เตรียมแผนการผลิตไว้ล่วงหน้าแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ได้ประชุมร่วมกับทีมฮอนด้าและทราบว่าทางค่ายรถยนต์จะเริ่มเดินสายการผลิตในช่วงเวลาใด และมั่นใจว่าจะสามารถผลิตและส่งมอบสินค้าได้ทันกับความต้องการของลูกค้าที่ประกาศจะส่งมอบรถค้างส่งให้ทันภายในกลางปีนี้

"ไม่ต้องห่วงเรื่องการผลิตป้อนค่ายฮอนด้า เราทำได้ทันแน่นอนถึงแม้ว่าจะเป็นออเดอร์เร่งด่วน เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเมื่อไหร่ที่เขาเริ่มเดินสายการผลิต การส่งมอบสินค้าต้องเร่งด่วนแน่ เพราะเขามีรถค้างส่งอยู่ในมือเป็นจำนวนมาก เราจึงเตรียมสายการผลิตรองรับไว้เป็นอย่างดี และยังรองรับไว้เผื่อออเดอร์ใหม่ที่จะเข้ามาในอนาคตด้วย หลังจากที่เราได้เริ่มขยายกำลังการผลิตไว้รองรับการเติบโตของธุรกิจมาตั้งแต่ปลายปี 2553"

นายองอาจกล่าวต่อว่า ปัจจุบัน IHL ผลิตเบาะหนังรถยนต์ป้อนให้กับค่ายรถยนต์ฮอนด้าคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8-10% ของรายได้ โดยเชื่อว่าหลังจากผ่านวิกฤตการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่และค่ายรถยนต์รายใหญ่สามารถกลับมาเดินสายการผลิตได้ตามปกติทั้งหมด รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่อง เชื่อว่าในปีนี้จะทำให้ตลาดรถยนต์กลับมาคึกคักอีกครั้ง และ IHL ในฐานะผู้ผลิตเบาะหนังรถยนต์ป้อนให้กับค่ายรถยนต์ชั้นนำของไทยก็จะได้รับผลดีในทิศทางเดียวกันเนื่องจากเป็นธุรกิจต่อเนื่องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยในปีนี้คาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯ จะกลับมาเติบโตได้อย่างโดดเด่นอีกครั้ง หลังจากที่สะดุดไปเล็กน้อยในช่วงเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ จากที่ธุรกิจยานยนต์กลับมาเติบโตได้ตามปกติ และบริษัทฯ เองก็เร่งขยายฐานธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรมรองเท้าเพิ่มเติม เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคตด้วย

ปัจจุบันธุรกิจหลักของบริษัทฯยังคงเป็นธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์มีสัดส่วนรายได้ประมาณร้อยละ 85 โดยลูกค้าหลักเป็นค่ายรถยนต์โตโยต้าสัดส่วนกว่า 60% และสัดส่วนที่เหลือเป็นค่ายรถยนต์ฮอนด้า นิสสัน มิตซูบิชิ ฟอร์ด และมาสด้า ขณะที่สัดส่วนรายได้อีกประมาณ 15% มาจากการผลิตหนังรองเท้าให้กับบริษัท Wolverine World Wide (WWW)

ซึ่งเป็นผู้ผลิตรองเท้าหนังรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาและอื่นๆ ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 25 จากปีก่อนที่ทำได้ 1,554 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดพิธีเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการ ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดอยุธยา หลังจากประสบอุทกภัย จนต้องหยุดการผลิตตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยนายฮิโรชิ โคบายาชิ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท เอเชียนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ไทยนับเป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย แม้จะประสบปัญหาจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา จนโรงงานและเครื่องจักร รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบเสร็จแล้วได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด แต่ฮอนด้ายังยืนยันว่าไทยยังจะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญยิ่งในภูมิภาคต่อไป และยืนยันว่าจะไม่มีการย้ายฐานการผลิต และจะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันมียอดค้างส่งมอบรถลูกค้าประมาณ 6 หมื่นคัน ซึ่งการกลับมาเริ่มเดินสายการผลิตอีกครั้ง หลังจากหยุดการผลิตไปกว่า 6 เดือน และใช้เวลาฟื้นฟูโรงงานเพียง 3 เดือน นับเป็นระยะเวลาที่รวดเร็วมาก จากการความร่วมมืออย่างเต็มที่ของทุกฝ่าย และในไลน์การผลิตก็มีการเปลี่ยนและติดตั้งอุปกรณ์เครื่องจักร รวมถึงหุ่นยนต์ใหม่หมดภายในทั้ง 2 โรงงาน เพื่อให้สามารถกลับมาผลิตได้เต็มกำลังการผลิตสูงสุด 2.4 แสนคันต่อปี โดยจะทำการผลิตทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า ซิตี้ ,ฮอนด้า แจ๊ซ ,ฮอนด้า บริโอ้ ,ฮอนด้า ซีวิค ,ฮอนด้า แอคคอร์ด และฮอนด้า ซีอาร์-วี และคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์แรก จะกลับมาเริ่มการผลิตได้เต็มที่ 1,000 คันต่อวัน ทำให้ปัญหาการส่งค้างมอบรถ น่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายในครึ่งปีนี้ และเชื่อมั่นว่าช่วงเวลา 9 เดือนจากนี้ ฮอนด้าจะสามารถผลักดันยอดขายภายในประเทศได้ 1.5 แสนคัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : IR PLUS

คุณศุภวรรณ วราภรณ์ (จ๋า)

Tel. 02-541-4011 ต่อ 320

อีเมลล์ : [email protected]

www.irplus.in.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud