นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mrs. Oranuch Apisaksirikul, Group Chief Executive) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ในไตรมาส 1/55 ว่า แม้กลุ่มทิสโก้ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยบ้าง แต่ด้วยการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กลุ่มทิสโก้มีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีการเติบโตของสินเชื่อรวมถึง 5.2% จากสิ้นปี 54 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจ ซึ่งเติบโตถึง 7.8% ซึ่งมีปัจจัยส่งเสริมมาจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศเริ่มฟื้นตัวจากสิ้นปี 54 เป็นผลจากการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีการลงทุนใหม่ๆ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องหลังน้ำลด
“ในช่วงต้นปี ภาพรวมของธุรกิจต่างๆ อาจจะดูชะลอไปบ้างจากน้ำท่วม แต่ตอนนี้ปัญหาเริ่มคลี่คลาย มีสัญญาณหลายอย่างที่เริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ค่ายรถยนต์กลับมาผลิตรถยนต์ได้ตามเดิม ประชาชนกลับมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งด้วยภาพรรวมของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับความเชี่ยวชาญและการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งตอบสนองทุกโจทย์การเงินที่หลากหลาย ออกแบบความมั่งคั่งให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่มของเรา ทำให้เรายังคงรักษาการเติบโตได้ในระดับที่น่าพอใจ และมั่นใจว่าเป้าหมายการเติบโตทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 10-15% นั้นเป็นไปได้อย่างแน่นอน” นางอรนุช กล่าว
โดยสินเชื่อของกลุ่มทิสโก้ในไตรมาส 1/55 มีจำนวน 194,560.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,547.18 ล้านบาท หรือ 5.2% จากสิ้นปี 54 ตามการเติบโตของสินเชื่อในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตอย่างมากของสินเชื่อธุรกิจ ที่มีจำนวน 34,886.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,537.95 ล้านบาท หรือ 7.8% จากสิ้นปี 54 และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มียอดสินเชื่อ 14,885.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,257.30 ล้านบาท หรือ 9.2% จากสิ้นปี 54 ทางด้านสินเชื่อรายย่อย ซึ่งประกอบด้วยสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลัก ยังคงมีการขยายตัวที่น่าพอใจ โดยมีจำนวน 139,753.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% จากสิ้นปี 54
“เรามองว่าภาพรวมของสินเชื่อในไตรมาส 2 จะกลับมาเติบโตกว่าในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เราจึงวางแผนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของตลาดสินเชื่อเช่าซื้อที่จะเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อทิสโก้โดยตรง เนื่องจากเป็นพอร์ตหลักของเรา และการรุกตลาดต่างจังหวัดก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ทำให้เรามั่นใจว่าการขยายสินเชื่อเช่าซื้อในปีนี้จะเป็นอีกปีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อเอสเอ็มอีก็มีการเติบโตอย่างโดดเด่นมาก เนื่องจากความต้องการด้านสินเชื่อของผู้ประกอบการในตลาดยังคงมีอยู่”
ในส่วนของเงินฝากยังรักษาการเติบโตได้ดี โดยในไตรมาส 1/55 เงินฝากออมทรัพย์มีจำนวน 20,511.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.1% และเงินฝากประจำมีจำนวน 17,785.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% โดยธนาคารได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ได้แก่เงินฝากออมทรัพย์ไดมอนด์ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 3% ต่อปี ที่มีจุดเด่นคือ ฝากได้ทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา ถอนได้ไม่จำกัด ตอบโจทย์ธุรกิจเอสเอ็มอีได้เป็นอย่างดี และล่าสุดยังนำเสนอเงินฝากประจำ 5 เดือน และ 10 เดือน ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง 3.2% และ 3.4% ต่อปีอีกด้วย ด้านตั๋วแลกเงินลดลง 1.3% ซึ่งเป็นการปรับลดลงตามแผนการปรับตัวของธนาคาร เพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ๆ ของธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับรายละเอียดของผลประกอบการไตรมาส 1/55 กลุ่มทิสโก้มีผลกำไรหลังผู้ถือหุ้นส่วนน้อย จำนวน 836.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.24 ล้านบาท หรือ 1.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/54 เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยรวมที่เพิ่มขึ้น 25.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามการขยายตัวของสินเชื่อทุกภาคส่วนซึ่งเพิ่มขึ้น 17.3% ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 1,316.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนถึง 307.88 ล้านบาท หรือ 30.5% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ซึ่งเพิ่มขึ้น 52.6% ตามการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อ และธุรกิจประกันภัย ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียมของธุรกิจจัดการกองทุนที่เพิ่มขึ้น 5.4% ตามการขยายตัวของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร และภาวะตลาดทุนที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 10.9% ตามการลดลงของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เสาวนีย์ สันทบ ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์ บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โทร. 02 633 6906