นาง ออเดรย์ วิลเลียม หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านไอซีที บริษัทฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ได้ให้ความเห็นว่า ปัจจุบัน โซเชียลมีเดียมีบทบาทต่อโลกธุรกิจเป็นอย่างมาก และการเข้าซื้อ SlideShare ในครั้งนี้ก็เป็นกลยุทธ์ของ LinkedIn ในการรักษาความเป็นผู้นำด้าน professional networking platform อย่างแท้จริง เนื่องจากทั้งสองเว็บเป็นเครือข่ายสำหรับคนทำงานมืออาชีพ โดย LinkedIn ช่วยแสดงตัวตนของผู้ใช้ ในขณะที่ SlideShare จะแสดงความรู้และความสามารถผ่านออกมาในสไลด์ ซึ่งจะเสริมกันได้เป็นอย่างดี
“LinkedIn ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยมีฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 150 ล้านเป็น 161 ล้านในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา โดยได้มีพัฒนาการใหม่ๆออกมาอยู่เสมอ อาทิ การให้ทวีตเตอร์ส่งข้อมูลผ่านทาง LinkedIn ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มคนทำงานและวงการโฆษณาในการสร้างรายได้จากฐานสมาชิกเป็นอย่างยิ่ง”
ปัจจุบัน LinkedIn เริ่มมีรายได้จากการสรรหาบุคลากร ซึ่งจะมีผลกระทบกับวงการสรรหาบุคลากรแบบเดิมๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยในอนาคต บริษัทต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงวิธีคัดสรรบุคลากรจากแบบเดิมมาเป็นการโฆษณาผ่านทางเว็บไซต์ LinkedIn และสามารถทราบถึงข้อมูลของผู้สมัครผ่านทางโปรไฟล์ ทวิตเตอร์ และข้อมูลออนไลน์ต่างๆ ซึ่งนับเป็นวิธีการที่น่าสนใจในการคัดสรรบุคลากรขององค์กรเป็นอย่างมาก
LinkedIn มีรายได้จากหลายช่องทาง อาทิ การสมัครเป็นสมาชิกระดับพรีเมี่ยม ค่าธรรมเนียมการรับสมัคร และค่าโฆษณา เป็นต้น ซึ่งฟรอสต์แอนด์ ซัลลิแวน คาดว่า รายได้เหล่านี้น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากนี้
ดร. มนธ์สินี กีรติไกรนนท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลกได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “สำหรับประเทศไทย Linkedin มีจำนวนสมาชิกประมาณเกือบ200,000 ราย ซึ่งนับว่าไม่มากนักเมื่อเทียบกับ Facebook ซึ่งมีมากกว่า10ล้านราย แต่เนื่องจากการเติบโตของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง ทำให้จำนวนผู้ใช้งาน Linkedin ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นตามกัน โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณเกือบ 20% ของผู้ใช้งาน Linkedin ทั ้งหมด และที่น่าสนใจคือกลุ่มผู้ใช้งานlinkedin เหล่านี้ เป็นตลาดบนที่มีกำลังซื้อสูง”
“ดังนั้น การที่ Linkedin ซื้อ Slideshare นอกเหนือจากเป็นการตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำของสังคมออนไลน์สำหรับคนทำงาน (professional portal) แล้ว ยังเป็นเพิ่มมูลค่าให้กับ Linkedin เอง โดยสามารถเชื่อมโยงFeature ให้สามารถแชร์ผลงานผ่านทาง Slideshare นอกเหนือจากโปรไฟล์ของสมาชิก รวมถึงการให้บริการเสริมแบบพรีเมี่ยมด้านอื่น ที่หลากหลายขึ้น ตลอดจนเป็นการเพิ่มรายได้จากการอัพค่าโฆษณา ซึ่งเป็นรายได้หลักส่วนหนึ่งของ Linkedin ในปัจจุบัน เนื่องจากมีฐานสมาชิกมากขึ้นจากการรวมกันของสองเวป”
“เชื่อว่าฐานสมาชิกนับแสนของ Linkedin ที่มีอยู่ในประเทศไทยนั้น มีความพร้อมที่จะจ่ายอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่า Linkedin พร้อมและฉลาดขนาดไหน ในการเชื่อมโยงและนำหัวใจหลักของSlideshare มาใช้ให้เป็นประโยชน์” ดร. มนธ์สินีกล่าวทิ้งท้าย