ไอดริส เอลบ้าอาจเป็นที่รู้จักดีของผู้ชมจากผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาในบท รัสเซล “สตริงเกอร์” เบล จากภาพยนตร์ทางทีวีช่อง HBO เรื่อง THE WIRE นักแสดงชาวอังกฤษรับบทแสดงในภาพยนตร์ที่ได้รับคำชมจากเหล่านักวิจารณ์มาถึง 5 ฤดูกาล
ผลงานของเอลบ้าทางทีวีและภาพยนตร์เริ่มขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 90 ซึ่งรวมถึงบทบาทต่างๆ ในภาพยนตร์เรื่อง BUFFALO SOLDIERS, 28 WEEKS LATER, ROCKNROLLA และ THE LOSERS เมื่อไม่นานนี้เขาปรากฏตัวในภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูน Marvel ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ผลงานของเคนเนธ บรานอห์ เรื่อง THOR และได้ร่วมงานกับนิโคลาส เคจ ในเรื่อง GHOST RIDER: SPIRIT OF VENGEANCE
ก่อนได้รับการคัดเลือกให้มาแสดงในเรื่อง PROMETHEUS เอลบ้าเคยร่วมงานกับริดลีย์ สก็อตต์ในภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar เรื่อง AMERICAN GANGSTER ในภาพยนตร์เรื่อง PROMETHEUS เอลบ้ารับบทแสดงเป็น กัปตันเจเน็ค และเขาได้ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับบทบาทของเขาในภาพยนตร์ที่ฉากใน Pinewood Studios ให้ฟัง
แม้ว่าเคยร่วมงานกับริดลีย์มาก่อน คุณรู้สึกตื่นเต้นมั้ยที่ได้รับโทรศัพท์ว่าเขาอยากสร้างหนัง ALIEN ขึ้นมาอีกเรื่อง?แน่นอนครับ ผมรักการทำงานร่วมกับริดลีย์ และการหวนกลับมาสู่ภาพยนตร์แนวที่ทุกคนอยากเห็นเขามีส่วนร่วมเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ผมรู้สึกดีมากๆ ที่ได้มีส่วนร่วมในการทำงาน
เขาอธิบายให้คุณฟังว่าอย่างไรบ้าง?
เขาโทรมาหาผมและบอกว่าอยากให้ผมเข้ามามีส่วนร่วมในภาพยนตร์และส่งบทมาให้ผมอ่าน เราคุยกันผ่านทางโทรศัพท์ถึงเรื่องแนวคิดของเขาเกี่ยวกับตัวละคร และมันเป็นอะไรที่ตรงไปตรงมามาก ผมบอกได้เลยว่าเขาตื่นเต้นและกระตือรือร้นกับการสร้างหนังเรื่องนี้
ถ้างั้นมันยังเป็นตอนกำเนิด ALIEN หรือเปล่า?
คำว่าเอเลี่ยนไม่เคยปรากฏขึ้นมาเลย ไม่เคยเลยจริงๆ มีครั้งเดียวที่เขาทำการเตรียมการ คือตอนที่อธิบายเรื่องดีเอ็นเอของภาพยนตร์เรื่อง ALIEN ตราตรึงอยู่ในหนังเรื่องนี้ ซึ่งมันปรากฏชัดในบทภาพยนตร์ แต่เราไม่ได้พูดถึงหนังเรื่องนั้นกันอย่างจริงจังเลย หนังเรื่องนั้นมีการสร้างขึ้นมาแต่เรื่องนี้มีบางอย่างที่ต่างออกไป นั่นคือมุมมองของเราว่าเรากำลังสรส้างหนังที่มีความแตกต่าง
ริดลีย์เคยสร้างภาพยนตร์แนวไซไฟไว้ 2 เรื่องที่มีความยิ่งใหญ่ตลอดกาล มันมีการเพิ่มความรู้สึกถึงความรับผิดชอบต่อบทบาทของคุณในการช่วยเขาถ่ายทอดภาพยนตร์เรื่องที่ 3 นอกเหนือจากประเด็นที่ได้ร่วมงานกับริดลีย์หรือเปล่า?
มีเรื่องของความรับผิดชอบอยู่ตลอดเวลา เพื่อทำให้แน่ใจว่าเราได้แสดงตัวตนให้เห็น และแน่ใจว่าตัวละครที่เราแสดงจะมีชีวิตขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบ ผมไม่คิดว่าเรามีหน้าที่รับผิดชอบกันแบบเป็นลำดับขั้นของหนัง แต่สำหรับเขาอาจจะใช่ แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ ผมมองความรับผิดชอบว่าควรมีต่อผู้คนที่ชื่นชอบภาพยนตร์มากกว่าผู้คนที่ผลิตภาพยนตร์ หน้าที่ของเราคือการแสดงหนังให้สนุก มีความงดงามและกล้าหาญอย่างที่เราทำได้ ซึ่งริดลีย์คือหนึ่งในผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีความกล้าหาญที่สุดตลอดกาล เรารู้ได้จากประวัติของเขา แต่เขาไม่เคยควบคุมเลยว่าเขาจะทำอะไรต่อไป และในฐานะของนักแสดงเราก็ไม่เคยรู้มาก่อนด้วยว่าเราต้องทำอะไร แต่ผมรู้สึกได้อย่างแน่ชัดว่าแฟนๆ มีความคาดหวังมาก และผมอยากทำให้แฟนๆ มีความสุข ไม่อยากทำให้พวกเขาผิดหวังไม่ว่าผมจะทำอะไรก็ตาม
เจเน็คดูเงียบขรึมกว่าลูกเรือคนอื่นไปบ้าง คุณมีการแสดงบทบาทนี้อย่างไร?
เขาเป็นคนขับ เขาต้องควบคุมยานขนาดใหญ่ลำนี้ที่ต้องเดินทางในอวกาศเป็นระยะไกล เขาเป็นกัปตันยานโพรมีธีอุสและเขาไม่ได้เป็นคนเรื่องมาก เขาเหมือนคนคุมเรือ ผมคิดว่าไม่มีความลึกลับซับซ้อนในตัวเขาเลยนะ ทำไมต้องลึกลับด้วย? หน้าที่ของเขามีความชัดเจนตรงไปตรงมา เขามีบุคลิกลักษณะที่จะบ่งบอกตัวเองได้ในภาพยนตร์ วัตถุประสงค์ของเขาบนยานลำนั้นคือการบังคับยานให้บินไปจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เขาไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องการเมืองที่ปรากฏในหนังหรอก
ถ้างั้นเขาก็อยู่ที่นั่นเพื่อเงิน?
ในหนังมีความน่าสนใจอยู่อย่างหนึ่ง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในยานลำนั้นส่งผลต่อทุกคน โดยเฉพาะหน้าที่ของเขาคือการพาทุกคนไปที่นั่น มันเป็นภารกิจอย่างหนึ่งและโดยพื้นฐานแล้วเขาเป็นหูเป็นตาของยานลำนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นที่กระทบถึงทุกคนไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ในฐานะของผู้ที่ต้องดูแลยาน เขาจึงมีหน้าที่คอยให้การสนับสนุนและปฏิบัติงานให้สำเร็จ ผมมีช่วงเวลาที่มีความสุขตอนแสดงบทนั้น และผมไม่ต้องแสดงให้ซับซ้อนเลย มันเป็นบทที่แสดงแล้วสนุกสนานมาก มันไม่ใช่ทั้งบทเล็กหรือบทใหญ่ มันเป็นบทบาทที่ดีมาก ผมคิดว่าเป็นบทที่มีความสำคัญมากในภาพยนตร์
คุณพบว่าตัวเองมีความหลงใหลเนื้อหาของภาพยนตร์มั้ย?
ผมเดาว่าพวกเราทั้งหมดมีความคิดบางอย่าง มีความสงสัยว่าเราเกิดขึ้นมาได้อย่างไร หรือเราจะทำอย่างไรหากการใช้ชีวิตอย่างเป็นมนุษย์ของเรามีการเปลี่ยนแปลง เราจะรับมือกับมันอย่างไร? นั่นคือประเด็นของเรื่องดีเอ็นเอในภาพยนตร์ทุกเรื่องของริดลีย์ เขามองที่เรื่องการใช้ชีวิตของมนุษย์ และเรารับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายหรือแปลกประหลาดในบางครั้งอย่างไร ผมคิดว่าสำหรับหนังเรื่องนี้ก็ไม่มีความแตกต่างเลย สำหรับผมมันเป็นเหมือนการทดสอบว่ากัปตันเจเน็คจะผ่านมันไปอย่างไรจากจุดยืนแห่งความรับผิดชอบของเขา และเขาควรทำอย่างไร ผมไม่เคยบังคับยานอวกาศมาก่อนและไม่เคยขึ้นไปอยู่ด้วย แต่ตลอดประสบการณ์ครั้งนี้ผมเข้าใจเลยว่าถ้าผมไปอยู่ในโลกใบนั้นที่ต้องลอยอยู่รอบเครื่องจักร และมีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นอย่างที่คนเหล่านี้พบเจอผมจะทำอย่างไร มันยอดเยี่ยมและน่าหลงใหลมากสำหรับผมในฐานะของนักแสดง ผมเดาว่าผู้เขียนคงมีความสุขกับการสำรวจความเป็นไปได้เหล่านั้น และผมก็มีความสุขกับการแสดงฉากเหล่านั้นด้วย
การมีความสนใจในความคิดเรื่องเหล่านั้นเป็นการส่วนตัวเป็นการเพิ่มความซับซ้อนให้เพิ่มมากขึ้นมั้ย?
ผมเดาว่าริดลีย์ชอบร่วมงานกับนักแสดงและเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของพวกเขา โดยไม่ต้องคอยระวังว่าบทกำหนดไว้อย่างไร เขายืนอยู่บนสัญชาตญาณอย่างแท้จริง และความรู้สึกที่เขามีกับดาราส่วนใหญ่ที่เขาชื่นชอบก็แตกต่างกันไป มันทำให้เขาต้องอยู่ในห้องตัดต่อเพื่อคิดค้นต่อไป ทุกคนมีความแตกต่างไปในทุกวัน วันนี้ผมกำลังมองหาที่พึ่ง ซึ่งสุดท้ายผมก็พบมัน และผมไม่มีภาระติดตัวผม ผมไม่ใช่คนขี้โมโห แต่วันหนึ่งผมอาจโมโหเรื่องนั้นมากๆ ก็ได้ นั่นเป็นความแตกต่างของสองสิ่งตอนนั้น ในห้องตัดต่อความฝันของผู้กำกับทุกคนคือเขายังสามารถคิดและสร้างเรื่องราวของเขาได้
ฉากต่างๆ มีความน่าทึ่ง การก้าวเข้าไปสู่ที่บัญชาการและการแสดงบทกัปตันยานอวกาศจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย
ใช่ครับ มันทำให้เราใส่ความเป็นตัวเราเข้าไปได้ง่ายขึ้น มีการใส่ใจเรื่องราวละเอียดทุกอย่างและหลายอย่างก็ไปได้สวย ผมไม่อาจขับยานอวกาศเพื่อช่วยชีวิตผมเอง แต่เป็นเพราะรายละเอียดกำหนดว่าผมนั่งอยู่ตรงหน้าแผงควบคุมที่มีการทำงานจริง เรากดปุ่มนี้และจะมีบางอย่างเกิดขึ้น กดปุ่มนั้นก็มีสิ่งอื่นเกิดขึ้น... ส่วนสำหรับริดลีย์แล้ว เขาเข้าใจทุกเรื่องเกี่ยวกับยาน เขาออกแบบมันจากความคิดของเขาและนั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาไม่ธรรมดาจริงๆ
Prometheus - โพรมีธีอุส เข้าฉายในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ นำแสดงโดย นูมี ราเพซ , ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ , แพททริค วิลสัน , ไอดริส เอลบา และ ชาร์ลิซ เธอรอน กำกับภาพยนตร์โดย ริดลีย์ สก็อตต์ และมาร่วมอัพเดทข้อมูล Prometheus - โพรมีธีอุส ก่อนใครได้ที่ https://apps.facebook.com/starmap_th/