มร. แอนโทนี่ เลา ผู้อำนวยการบริหารการท่องเที่ยวฮ่องกง กล่าวให้ความเห็นว่า “แม้สภาวะความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกจะทำให้หลายๆ บริษัทต้องควบคุมรายจ่ายด้านการจัดประชุมหรือการให้รางวัลแก่พนักงาน แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ที่เยือนฮ่องกงและค้างแรมข้ามคืนกลับมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนแรกของปี โดยในช่วงดังกล่าว มีการจัดงานไมซ์ขนาดใหญ่เกือบ 70 งานในฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็น งาน Hong Kong International Jewellery Show ที่ต้อนรับผู้เข้าชมงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 38,000 คน งาน Asia Top Gallery Hotel Art Fair งาน International Congress of Cardiology และงานประชุมด้านอุตสาหกรรมการขนส่งเอเชีย TOC Container Supply Chain Asia ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในฮ่องกง การจัดงานเหล่านี้ รวมถึงค่าเงินตราสกุลต่างๆ ที่แข็งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ฮ่องกง ล้วนมีผลต่ออัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ที่มาเยือนฮ่องกงทั้งสิ้น”
“สำหรับในอนาคตนั้น เราเชื่อว่าตลาดไมซ์ในฮ่องกงจะยังสามารถรักษาแนวโน้มการเติบโตไว้ได้เช่นเดิม โดยในช่วงครึ่งปีหลัง ฮ่องกงจะจัดงานไมซ์ระดับนานาชาติอีกหลายงาน ไม่ว่าจะเป็นมหกรรม Asian Attractions Expo หรือการประชุม 2012 JCI Asia-Pacific Conference Hong Kong ที่จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน รวมถึงงาน NU SKIN Greater China Regional Convention และงานประชุม FDI World Dental Congress ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 20,000 และ 10,000 คนตามลำดับ สำนักงานไมซ์ฮ่องกงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้อำนวยความสะดวกแก่เหล่าผู้จัด เพื่อให้ทุกงานดำเนินไปอย่างราบรื่น และสร้างประสบการณ์อันดีแก่ผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งจะนำไปสู่ความประทับใจที่เล่าสู่กันปากต่อปากและส่งผลดีระยะยาวต่อฮ่องกงในฐานะมหานครที่มีชื่อเสียงด้านการจัดงานไมซ์”
ตลอดไตรมาสแรกของปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์จากตลาดระยะใกล้ที่เดินทางมาเยือนฮ่องกงและพักค้างแรมนั้นเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 9.8 หรือคิดเป็นจำนวนมากกว่า 100,000 คน สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ที่มาจากอเมริกาเหนือมีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ร้อยละ 16.2 ส่วนไต้หวันต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเช่นกันกว่าร้อยละ 10 ในขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่ก็ยังคงเป็นตลาดไมซ์ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับฮ่องกง ด้วยจำนวนผู้มาเยือนกว่า 120,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ทั้งหมดที่มาเยือนฮ่องกงและพักค้างคืน
สำหรับตลาดระยะไกลนั้น ก็มีนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ที่เดินทางเข้ามายังฮ่องกงและพักค้างแรมกว่า 80,000 คน ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาราวร้อยละ 3.7 ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และแปซิฟิคใต้ รวมแล้วมีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กว่าร้อยละ 7.2 ส่วนตลาดยุโรป ที่ถึงแม้จะประสบปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะ แต่ก็ยังมีผู้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่มาเยือนฮ่องกงเพื่อกิจกรรมไมซ์เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 6 หรือคิดเป็นตัวเลขกว่า 40,000 คน ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวไมซ์จากอเมริกาคงสถิติเดิมจากปีที่แล้วอยู่ที่ราว 30,000 คน
(ในภาพ) ศูนย์จัดแสดงนิทรรศการฮ่องกงมักถูกใช้เป็นสถานที่ในการจัดงานไมซ์ในฮ่องกงอยู่เสมอ