แฟนๆ ที่ไปก็ไม่ผิดหวัง เมื่อนิทรรศการภาพถ่ายของมะเดี่ยว มอบประสบการณ์พิเศษๆ ให้มากมาย อาทิ นี่คงเป็นนิทรรศการภาพถ่ายแรกของประเทศไทยที่ให้ผู้ชมถือไฟฉายเข้าไปชม เมื่อทั้งพื้นที่บนโบกี้ขบวนรถไฟสายภาพยนต์ถูกดับไฟมืดและจำลองประสบการณ์ให้ผู้ชมค่อยๆ เข้าไปเรียนรู้ความคิดของมะเดี่ยว โดยการใช้ไฟฉายส่อง ค้นหาภาพเล็กภาพน้อยที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ แล้วรวบรวม, จินตนาการ ปะติดปะต่อให้เกิดความหมายต่างๆ ตามความคิดของแต่ละคน ผู้ชมต้องแหวกผ่านมุ้งม่านหลายชั้น เปรียบเหมือนมายามากมายที่ขวางกั้นเราอยู่กว่าจะถึงจุดหมาย
โดยเฉพาะส่วนของการฉาย VDO art ที่ฉายบนจอทำมือ 4 มิติที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรมากมาย นำเสนอคลิปภาพและบทสนทนา “ไร้บ้าน” ที่สืบต่อมาจากภาพยนตร์ Home ให้แฟนหนังกลับไปคิดต่อกันเอาเองว่า มันต่อเติมมาจากส่วนใดของเรื่อง จนถึงวันนี้ ก็เชื่อว่า ยังไม่มีใครได้คำตอบที่แท้จริง เพราะมะเดี่ยวถือว่า ท้ายสุด ความหมายของงานศิลป์อยู่ที่จินตนาการของผู้เสพนั่นเอง
ส่วนภาพอินสตาแกรมนับพันๆ ที่ทุกคนให้ความสนใจและใช้เวลามากที่สุดในการชม อยู่ในหมวดของภาพชุด อจินไตย (Unconsiderable) เล่าเรื่องราวของคน เหตุการณ์ สถานที่ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดภาพยนตร์และเพลงฮิตๆนั่น เชื่อว่า ภาพทั้งหมดน่าจะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เหตุใดผลงานต่างๆของมะเดี่ยว จึงสะท้อนความเป็นมนุษย์ได้อย่างลึกล้ำ
ส่วนอีกหนึ่งชุดภาพ “ 32 ขวัญ” คือภาพ 32 ภาพเอกที่ถูกเลือกขึ้นมาจากหมวดอจินไตย ถูกนำมาประมูลและจำหน่าย โดยมีแฟนๆ ให้ความสนใจสนับสนุนไม่น้อย ทำให้มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย มอบสนับสนุนให้แก่ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท
“ก็ขอบคุณหอภาพยนตร์, มูลนิธิหนังไทย, สหมงคลฟิล์มฯ ที่ให้การสนับสนุนในการจัดและแฟนๆ ทุกคนที่ให้ความสนใจ และติดตามกิจกรรมของสตูดิโอคำม่วน และ Homeless มาโดยตลอด ไม่ว่าจะมีกิจกรรมวันไหน ตั้งแต่วันเปิด ฉายภาพยนตร์ Home อีกครั้ง, มีนุ่น ศิริพันธ์-พิช วิชญ์วิสิฐ มาประทับฝ่ามือที่ลานดารา จนวันปิด มีมินิคอนเสิร์ตฯ เล็กๆ Sponx Live กับพิช และโจ้ ออกัส รวมถึงประมูลภาพ ก็ติดตามมาให้กำลังใจทุกวัน ก็ขอบคุณมากๆ มีอะไรขาดตกบกพร่อง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ เอาไว้โอกาสหน้าจะแก้ตัว เพราะชักเริ่มติดใจทำงานนิทรรศการศิลปะซะแล้ว รอฟังข่าวดีงานต่อๆไปแล้วกัน” มะเดี่ยว ชูเกียรติ กล่าวส่งท้าย