‘ซุปเปอร์ริช 1965’ มุ่งพัฒนาธุรกิจมาตรฐานเทียบเท่าธนาคารพาณิชย์ พร้อมเดินหน้าพัฒนาบุคลากรเตรียมพร้อมรับ AEC สู่การยอมรับระดับสากล

พฤหัส ๐๙ สิงหาคม ๒๐๑๒ ๐๙:๕๕
การบริการรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่คนทั่วไปมักคิดว่าเป็นกิจการที่จำเพาะสำหรับธุรกิจธนาคารเท่านั้น แท้ที่จริงแล้วบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจเฉพาะการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศก็สามารถเปิดให้บริการได้ภายใต้การขอรับใบอนุญาตและการกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย เช่นเดียวกับ ‘บริษัท ซุปเปอร์ริช 1965 จำกัด’ ที่ดำเนินธุรกิจด้านนี้มานานกว่า 46 ปี และยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจ โดยเฉพาะในส่วนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตและการแข่งขันของธุรกิจบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในอนาคต รวมทั้งการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ภายใต้สโลแกนหลักของบริษัทฯ “Think of Money Exchange Think of SuperRich”

หัวเรือใหญ่อย่าง คุณปิยะ ตันติเวชยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซุปเปอร์ริช 1965 จำกัด บริษัทชั้นนำที่ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศโดยได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องในประเทศไทย กล่าวว่า ‘การดำเนินงานตลอดระยะเวลากว่า 46 ปีของบริษัทฯ อยู่ภายใต้การสร้างมาตรฐานธุรกิจระดับสากลที่ยึดมั่นในจริยธรรมการทำธุรกิจอย่าง ‘ซื่อสัตย์’ และ ‘ตรงไปตรงมา’ จนได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าผู้ใช้บริการรวมทั้งความไว้วางใจจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินกิจการด้านการเงินของสถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทเอกชนที่ทำธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ทั้งนี้การให้บริการรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของบริษัทฯ สามารถอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าสองกลุ่มใหญ่คือ กลุ่มนักท่องเที่ยว และ กลุ่มนักธุรกิจ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัท ซุปเปอร์ริช 1965 จำกัด ไม่เคยหยุดยั้งในการพัฒนารูปแบบการให้บริการทั้งการขยายสาขาในพื้นที่ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย รวมทั้งมุ่งเน้นในการเสริมทักษะความรู้ให้แก่พนักงานอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องตามนโยบายด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าบนพื้นฐานการทำธุรกิจอย่างซื่อสัตย์ภายใต้ระบบอำนวยความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยของบริษัทฯ เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในอนาคต

โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดอบรมสัมมนาพนักงานอย่างเข้มข้นด้วยการให้ความรู้เชิงลึกในเรื่องของธุรกิจแลกเปลี่ยนเงิน โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารแห่งประเทศไทย คุณเนตรนิล เหลืองวัฒนพงศ์ ผู้ชำนาญการอาวุโส (ด้านการฟอกเงิน) ฝ่ายนโยบายและกำกับการแลกเปลี่ยนเงิน มาเป็นผู้บรรยายในหัวข้อ ‘ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการทำธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงิน’ และวิทยากรจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน คุณสรรเพชร แสงเนตรสว่าง ผู้อำนวยการส่วนกำกับดูแลการทำธุรกรรม สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและสืบสวนทางการเงิน บรรยายในหัวข้อ ‘การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน’

“บทบาทของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจทั้งสองหน่วยที่มีต่อบริษัทฯ ในลักษณะของการให้ความรู้ความเข้าใจในกระบวนการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ถือเป็นบทบาทสำคัญที่ผมเห็นว่า เป็นการให้ความไว้วางใจแก่บริษัทเอกชนอย่างซุปเปอร์ริช 1965 ที่ดำเนินธุรกิจแลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งต้องพบเจอสารพัดรูปแบบของการแลกเงินเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ และต้องรับแลกเปลี่ยนเงินหลากหลายสกุลในแต่ละวัน ดังนั้น กฎระเบียบต่างๆ ในการรายงานข้อมูลการแลกเปลี่ยนเงินตามข้อกำหนดของแบงก์ชาติ และปปง. จึงเป็นเรื่องที่พนักงานของบริษัทฯ ทุกคนจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจในรายละเอียดเชิงลึกให้มาก โดยการเรียนรู้เส้นทางการเงิน ที่มาที่ไปของเงินตราต่างประเทศที่อาจจะเข้ามาอยู่ในระบบการแลกเปลี่ยนสกุลเงินรูปแบบต่างๆ ผ่านธุรกรรมด้านการท่องเที่ยว หรือธุรกิจเทรดดิ้งข้ามชาติ เป็นต้น การอบรมให้ความรู้เหล่านี้นอกจากจะเป็นการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรโดยตรง เพื่อให้การบริการลูกค้าเป็นไปอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และมีความระมัดระวังรอบคอบมากขึ้นแล้ว ยังมีผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์ธุรกิจของบริษัทฯ ที่จะต้องไม่กลายเป็นตัวกลางในกระบวนการฟอกเงินโดยไม่รู้ตัว”

เป็นที่ทราบกันดีในปัจจุบันว่า จุดเด่นของ ‘ซุปเปอร์ริช 1965’ คือ การบริการที่มีมาตรฐานเทียบเท่ากับธนาคารพาณิชย์ มีบุคลากรที่มีความชำนาญอย่างมืออาชีพในด้านธนบัตรต่างประเทศ อีกทั้งสามารถจัดหาปริมาณเงินตราต่างประเทศมากเพียงพอสำหรับให้บริการลูกค้า รวมทั้งมีบริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศมากถึง 32 สกุลเงิน ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจและเชื่อมั่นในการมาใช้บริการของบริษัทและสำคัญที่สุดคือ บรัษัทให้มูลค่าอัตราแลกเปลี่ยนทั้งการซื้อและขายในอัตราที่ดีกว่าอัตราของธนาคารพาณิชย์ภายใต้มาตรฐานการบริการแบบเดียวกัน

ทั้งนี้ในปัจจุบัน ‘ซุปเปอร์ริช 1965’ ได้ขยายสาขาเปิดให้บริการแล้วทั่วประเทศรวม 15 สาขา ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในอนาคตเพื่อรองรับการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครโดยเตรียมแผนเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ คือ เซ็นทรัล ลาดพร้าว และเซ็นทรัล ชิดลม โดยซุปเปอร์ริช 1965 จะยังคงเดินหน้าในการพัฒนาธุรกิจ ซึ่งจะมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของบริษัทฯ เป็นหลักต่อไป เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาองค์กรและเตรียมพร้อมรับมือกับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและก้าวสู่การเป็นที่ยอมรับในระดับสากลในที่สุด...

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๓๐ เม.ย. GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๓๐ เม.ย. PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๓๐ เม.ย. LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๓๐ เม.ย. ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๓๐ เม.ย. LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๓๐ เม.ย. SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๓๐ เม.ย. STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๓๐ เม.ย. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน