สยามออร์แกนิคสร้างมูลค่าข้าวไทยเจาะตลาดคนรักสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ข้าว“แจสเบอร์รี่”อีกหนึ่งผลงานของศิษย์เก่าศศินทร์

อังคาร ๑๔ สิงหาคม ๒๐๑๒ ๐๙:๔๘
หลังจากที่เป็นตัวแทนของสถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดแผนธุรกิจนานาชาติ ที่จัดโดยตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อไม่นานมานี้ “สยามออร์แกนิค” ได้นำแผนธุรกิจดังกล่าวมาปั้นแบรนด์ “แจสเบอร์รี่” (Jasberry) ผลิตภัณฑ์ข้าวออร์แกนิคสำหรับคนรักสุขภาพ จับมือ ธ.ก.ส. และนักวิชาการเกษตรพัฒนาข้าวสายพันธุ์ใหม่ หวังแก้ไขปัญหาความยากจนและช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยด้วยเกษตรอินทรีย์

นายปีตาชัย เดชไกรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามออร์แกนิค จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่เป็นตัวแทนของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชนะเลิศการแข่งขันแผนธุรกิจนานาชาติจากตลาดหลักทรัพย์ MAI ซึ่งได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและรางวัล Stu Clark Investment Competition เมื่อไม่นานมานี้ จึงได้นำแผนธุรกิจที่ชนะเลิศดังกล่าวเข้ามาทำธุรกิจจริง ภายใต้ชื่อบริษัท สยามออร์แกนิค จำกัด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวเพื่อสุขภาพแบรนด์ “แจสเบอร์รี่” (Jasberry) ที่มีการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์เพื่อต้องการให้คนไทยมีทางเลือกในการบริโภคข้าวที่มีคุณค่าของสารอาหารครบถ้วน และต้องการช่วยเหลือชาวนาให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และนักวิชาการด้านการเกษตร ให้ความรู้กับชาวนารายย่อยจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และหันมาปลูกข้าวสายพันธุ์ใหม่ในรูปแบบของเกษตรอินทรีย์ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวไทย และทำให้มีรายได้มากกว่าการทำนาในรูปแบบเดิม

สยามออร์แกนิค ไม่ได้มองแค่เรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับสังคมทั้งคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้บริโภคและปัญหาความยากจนของชาวนาที่ขายข้าวไม่ได้ราคาและไม่คุ้มกับการลงทุน ที่ผ่านมาได้เข้าไปศึกษาด้านการลงทุนของชาวนา ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้เกิดความยั่งยืนของเศรษฐกิจในท้องถิ่นและความภาคภูมิใจในอาชีพของตนเอง เนื่องจากปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวนาไทยยากจนและส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ลูกหลานมีอาชีพทำนา หากปล่อยไว้เช่นนี้ เชื่อว่าในอนาคตอาชีพทำนาของคนไทยมีผู้สืบทอดอาชีพนี้น้อยลง แต่ในขณะเดียวกันหากชาวนาได้รับความช่วยเหลือและมีรายได้ที่ดีจากอาชีพนี้ แน่นอนว่าชาวนาจะมีกำลังใจผลิตข้าวที่มีคุณภาพให้เราได้รับประทานต่อไป

นางสาวพรธิดา วงศ์ภัทรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เปิดเผยว่า ปัจจุบันเรามีเกษตรกรรายย่อยปลูกข้าวในรูปแบบของเกษตรอินทรีย์เพื่อส่งให้กับสยามออร์แกนิคประมาณ 200 ราย ทั้งหมดอยู่ในภาคอีสานเพราะเราต้องการให้ชาวนาในภูมิภาคดังกล่าวมีความเป็นอยู่ที่ดีเช่นเดียวกับชาวนาของญี่ปุ่น ที่ภาคภูมิใจกับการทำนาปลูกข้าว ทั้งนี้ความแตกต่างของข้าวแจสเบอร์รี่ (Jasberry) กับข้าวทั่วไปก็คือ เป็นสายพันธุ์ที่ใช้เวลาในการพัฒนาเกือบ 10 ปี ซึ่งมีการตรวจดีเอ็นเอข้าวเพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่ดี และมีรสชาติที่ถูกปากทั้งคนไทยและต่างชาติ ทั้งยังแตกต่างจากข้าวกล้องทั่วไปที่ส่วนใหญ่จะแข็ง แต่ข้าวแจสเบอร์รี่ (Jasberry) มีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าคือแข็งนอกนุ่มใน ทั้งยังมีกลิ่นหอม รสชาติดี และมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคโดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากกว่าข้าวสายพันธุ์อื่น เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่ผสมระหว่างข้าวหอมมะลิ (Thai Jasmine Rice) และข้าวดำ (Thai Black Rice) ที่ผ่านมาถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สามารถเป็นของขวัญของฝาก เน้นความสวยงาม และเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวัน

นายอภิลักษมณ์ หุวะนันทน์ ผู้จัดการฝ่ายขาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ข้าวแจสเบอร์รี่ (Jasberry) มีจำหน่ายที่วิลล่า มาร์เก็ต ทุกสาขาและในอนาคตจะมีการเพิ่มจุดจำหน่ายให้แพร่หลายขึ้น โดยกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มคนที่รักสุขภาพ หลังจากที่เปิดตลาดไปพบว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติค่อนข้างดี โดยเฉพาะลูกค้าคนไทยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ข้าวแจสเบอร์รี่ (Jasberry) มี 3 คุณลักษณะด้วยกัน คือ 1.ประเภทข้าวกล้องที่มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับการต้านโรคมะเร็ง 2.ประเภทข้าวกล้องต้านเบาหวานและให้ประโยชน์ทางด้านสุขภาพ เช่น ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดัน ควบคุมน้ำหนัก และประเภทที่ 3. คือข้าวที่เน้นความนุ่มและอร่อยเหมือนรับประทานข้าวขาวแต่ยังคงคุณค่าของสารอาหาร โดยข้าวแจสเบอร์รี่ (Jasberry) ทั้ง 3 ชนิดมีสารอาหารทั้งวิตามินบี ดี อี โอเมก้า 3 ธาตุเหล็ก เบต้า-แคโรทีน และ แกมมา —โอรีซานอล เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารอาหารสูงต่างจากข้าวทั่วไปที่มีแป้งเป็นหลัก

ในเรื่องการตลาดนั้นขณะนี้ ทางผู้บริหารสยามออร์แกนิค กำลังอยู่ในระหว่างการขยายฐานตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่รักสุขภาพ เและนำสินค้าที่มีคุณภาพสู่ผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเชื่อว่าจะสามารถประสบความสำเร็จได้ ทั้งนี้เพราะเชื่อมั่นว่าความรู้และคำแนะนำจากอาจารย์หลายๆ ท่านที่ได้จากการเรียนที่ศศินทร์

รวมถึงประสบการณ์ และการเรียนรู้ รวมถึงคอนเนคชั่นที่ดีจากเพื่อนๆ สามารถนำมาใช้ในการทำธุรกิจและต่อยอดได้ เพราะเป็นสถาบันที่มีเพื่อน ๆ จากหลากหลายธุรกิจมาศึกษาต่อ ทำให้เกิดคอนเนคชั่นที่ดี ในการเริ่มต้นทำธุรกิจข้าวแจสเบอร์รี่ (Jasberry) ได้เป็นอย่างดี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์

ศิริลักษณ์ สุจริตตานนท์ (แอน) Asst. Chief of Public Relations โทร 02-218- 3853-4

E-mail: [email protected]

แพรวทิพย์ ด่านวราวิจิตร ผู้ประสานงานการประชาสัมพันธ์และการตลาด โทร. 02-218- 3852

E-mail:[email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๓๐ เม.ย. STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๓๐ เม.ย. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน