รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า การดำเนินการดังกล่าวจะมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมจัดทำโครงการและกิจกรรมให้สอดคล้องกับแนวทางทั้ง ๓ ด้าน คือ งานสืบสาน ได้แก่ อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ส่งเสริมและรักษาความความหลากหลายทางวัฒนธรรม เช่น งานเทิดทูนและสนองสถาบันพระมหากษัตริย์ในปีมหามงคล บูรณะศาสนสถานและโบราณสถาน มัสยิด และโบสถ์คริสต์ ที่เสียหายจากอุทกภัย จัดทำเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรมเพื่อเปิดพื้นที่ในการส่งเสริม ถ่ายทอดและเรียนรู้สู่พระสงฆ์ โต๊ะอิหม่าม ครูภูมิปัญญา ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ๕ สาขา ๓๐ รายการ จัดงานฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ส่งเสริมกิจการฮัจย์ งานสร้างสรรค์ ได้แก่ ส่งเสริมอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรม ส่งเสริมศิลปะ และวัฒนธรรมร่วมสมัย ส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางศิลปวัฒนธรรม รวมถึงพัฒนาทักษะและส่งเสริมการนำทุนทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมมาสร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เช่น ประกวดการออกแบบเครื่องแต่งกาย “จากเส้นใยสู่ภูมิปัญญาจากภูมิปัญญาสู่อาภรณ์” “โครงการ Creative Fine Arts 2011” พัฒนาช่องทางการค้าอิเลคทรอนิคส์ (Cyber Mall) จัดแข่งขันชกมวยไทยโลก “THAI FIGHT THAI CULTUE” และจัดประกวดภาพยนตร์แห่งชาติรางวัลสุพรรณหงส์และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ งานบูรณาการ ได้แก่ ส่งเสริมความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ เช่น กิจกรรมศาสนิกสัมพันธ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งเสริมบทบาทสภาวัฒนธรรมในพื้นที่ เยาว ชนนักเขียนหนังสือ ตามรอยบ้านของพระราชา ทั้งภาษาไทย มลายู และภาษาอังกฤษ ค่ายเยาวชนวัฒนธรรมภาคฤดูร้อน จัดโครงการค่ายศิลปะเพื่อมวลมนุษย์สู่อาเซียน Art for all >>> ASEAN จัดแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระดับประชาชน ระหว่างอาเซียนและจีนซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมกับกรมวัฒนธรรมแห่งมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีนในการศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยน เรียนรู้ด้านการอนุรักษ์และการพัฒนาหัตถกรรมพื้นบ้าน เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งทางมรดกทางวัฒนธรรม และสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่าย