ก.ไอซีที จับมือ กสทฯ เดินหน้าพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคมร่วมกับETL รัฐวิสาหกิจผู้ให้บริการด้าน ICT ในสปป.ลาว

พุธ ๒๖ กันยายน ๒๐๑๒ ๑๖:๑๙
นายณัฐพงศ์ ศีตวรรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเปิดเผยว่าคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) และหน่วยงานในสังกัด คือ บมจ.กสท โทรคมนาคม ได้เข้าพบและมีการหารือร่วมกับนายประดับเพ็ชร ไชยะโคตร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคม (ICT)สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับ สปป.ลาว อาทิโครงการความร่วมมือเชื่อมโยงโครงข่ายภายใต้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion: GMS)โครงการความร่วมมือติดตั้ง Internet Data Center (IDC) รองรับ Cloud Service เพื่อใช้งานทั้งในรูปแบบภาครัฐต่อภาครัฐ (G2G)ภาครัฐต่อภาคธุรกิจ (G2B) และภาคธุรกิจต่อภาคธุรกิจ(B2B) ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาลต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของทั้งสองประเทศไม่ว่าจะเป็นด้านการค้าระหว่างประเทศด้านการท่องเที่ยวกระบวนการทางศุลกากร และการเปิดให้ภาคธุรกิจอื่นๆ เข้ามาร่วมใช้บริการ โดยรวมไปถึงด้านเกษตรกรรมที่จะได้มีการนำเทคโนโลยี 2D Barcode ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบบริการตามสอบสินค้าเกษตรให้สามารถบันทึกและจัดเก็บข้อมูลการบริหารจัดการฟาร์มการตามสอบและเรียกคืนสินค้าเพื่อให้คู่ค้าและผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นโดยระบบนี้สามารถตรวจสอบผ่านโทรศัพท์มือถือSmart Phone ด้วยเทคโนโลยี 2D Barcode ได้

“โครงการความร่วมมือดังกล่าว ถือเป็นความพยายามร่วมกันในการเชื่อมโยงโครงข่ายภาคพื้นดินระหว่างประเทศไทยและสปป.ลาวที่จะช่วยพัฒนาให้ทั้งสองประเทศกลายเป็นศูนย์กลางการให้บริการด้านสื่อสารโทรคมนาคมในเขตภูมิภาคอินโดจีนที่มีศักยภาพและมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยในปีที่ผ่านมามีการเชื่อมต่อโครงข่ายแล้ว 3 จุดคือหนองคาย-เวียงจันทน์ มุกดาหาร-สะหวันนะเขต และนครพนม-คำม่วน ส่วนจุดเชื่อมต่อที่ 4คือ เชียงของ-ห้วยทราย อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งภายหลังการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 แล้วเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ICTจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมาก เพราะหากมีการเชื่อมโยงการสื่อสารที่ดีก็จะทำให้ประเทศต่างๆ ใน AEC สามารถติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลรวมถึงเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้มากขึ้นโดยในอนาคตเราจะไม่ได้มีประชากรเฉพาะแค่ประเทศเดียวเท่านั้น การรวมกันเป็นAEC ทำให้เราต้องมองถึงภาพรวมของประชากรทั้งภูมิภาค ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการร่วมมือกันกระจายข้อมูล และช่องทางการสื่อสารให้กับทุกๆ คนในภูมิภาค ด้วยการยกระดับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้ดีขึ้นซึ่งในเร็วๆ นี้จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการลงนามความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศเพิ่มเติมด้วย“นายณัฐพงศ์ กล่าว

นอกจากติดตามความคืบหน้าโครงการความร่วมมือต่างๆ แล้ว กระทรวงไอซีที และบมจ.กสทฯยังได้มีการร่วมลงนามในสนธิสัญญาความร่วมมือการพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคมกับ Enterprise of Telecom Lao (ETL)รัฐวิสาหกิจผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมของสปป.ลาว เพื่อขยายการให้บริการด้านโทรคมนาคมร่วมกันให้มีความเข้มแข็ง ด้วยการใช้เทคโนโลยีมาสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างโอกาสการเจริญเติบโตทางธุรกิจโทรคมนาคมให้กับทั้งสองหน่วยงาน พร้อมกันนี้ ยังได้มีการจัดกิจกรรม CAT-ETL Network show case 2012 ขึ้น ณ นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และจัดแสดงศักยภาพของการให้บริการเพื่อสร้างความเข้าใจถึงประโยชน์ของบริการสื่อสารข้อมูลและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า รวมทั้งผู้ประกอบการที่จะมาลงทุนใน สปป.ลาว

ด้าน น.ท.สมพงษ์โพธิเกษม ที่ปรึกษา รมว.ทก. และกรรมการบริหาร หรือบอร์ด กสทฯ กล่าวว่า ประเทศไทยและสปป.ลาวมีความสัมพันธ์ในฐานะมิตรประเทศกันมาอย่างยาวนาน การเชื่อมโยงโครงข่ายระหว่างประเทศจำเป็นต้องมีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน จึงถือเป็นความได้เปรียบของทั้งไทย และสปป.ลาวที่เปรียบเสมือนประเทศคู่แฝดที่พัฒนาก้าวไปข้างหน้าด้วยกันตลอดเวลา

“ความร่วมมือดังกล่าว จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาด้านการใช้งานด้านข้อมูล (DATA) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ใช้งานอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ในด้านข้อมูล มากกว่าการใช้โทรศัพท์ธรรมดา หากมีความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้น ก็จะก่อให้เกิดการพัฒนาการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างมหาศาล เช่น การใช้งานในเชิงท่องเที่ยว คนจะต้องหาข้อมูลทั้งสถานที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และแผนที่เส้นทางจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งทั้งไทยและสปป.ลาว ต่างเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยว และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจด้วยกันทั้งคู่ การพัฒนาโครงข่ายไปพร้อมๆ กันจะช่วยให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้ประโยชน์จากการใช้งานด้านข้อมูลมากขึ้น ขณะที่ภาครัฐก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจึงมิได้มีเพียงแค่ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงภาคธุรกิจอื่นๆ ด้วย เพราะทุกๆ ภาคธุรกิจ ล้วนนำICT มาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้ทั้งสิ้น”น.ท.สมพงษ์กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง