แถลงการณ์ของประธานการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซม ครั้งที่ 10

อังคาร ๑๖ ตุลาคม ๒๐๑๒ ๐๙:๐๕
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซม (ASEM Finance Ministers’ Meeting) ครั้งที่ 10 ซึ่งได้จัดขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคม 2555 ณ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรีจากประเทศสมาชิกอาเซม และผู้แทนระดับสูงจากองค์กรระหว่างประเทศ ร่วมการประชุม โดยมีแนวคิดหลักสำหรับการประชุมในครั้งนี้ คือ “Strengthening Dynamic Partnership, Sharing Dynamic Growth”

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้กล่าวเปิดการประชุมโดยได้เน้นย้ำความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองภูมิภาคที่มีมาอย่างใกล้ชิดและยาวนาน โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุน จึงขอให้ประเทศสมาชิกอาเซมร่วมมือกันเพื่อแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจที่ภูมิภาคยุโรปกำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน และในช่วงเวลานี้ ซึ่งประเทศในเอเชียกำลังมองหาโอกาสเพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและยุโรปกำลังดำเนินการปรับโครงสร้างทางเศรษกิจ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ในการนี้ ประธานการประชุมได้ออกแถลงการณ์ ซึ่งมีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้

(1) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซมได้หารือถึงการพัฒนาการด้านเศรษฐกิจ การเงิน และแนวโน้มของภูมิภาคเอเชีย-ยุโรปและเศรษฐกิจโลกในภาพรวม โดยเห็นว่า เศรษฐกิจของยุโรป ยังสามารถฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกได้ชะลอตัวลงและยังมีปัจจัยเสี่ยงอยู่หลายประการ และได้สนับสนุนความพยายามของยุโรปที่จะแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของภูมิภาค โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างทางการคลังที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับแต่ละประเทศ รวมถึงการใช้นโยบายอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตและการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สำหรับเศรษฐกิจของเอเชีย ที่ประชุมเห็นว่า มีการขยายตัวได้ดี แต่ได้ขอให้เน้นการกระตุ้นการบริโภคของภาคเอกชนและการปรับโครงสร้างเพื่อสนับสนุนความต้องการภายในประเทศและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของตลาดเงินและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทั้งสองภูมิภาค จึงได้สนับสนุนการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจเอเชียและยุโรปจากความผันผวนดังกล่าวในเชิงลึกขององค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้ง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความโปร่งใสของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และการลดความผัวผวนด้านราคา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน

(2) ที่ประชุมได้หารือถึงความคืบหน้าในการพัฒนากลไกแก้ไขและป้องกันวิกฤตการณ์ ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียและยุโรป ซึ่งได้แก่ มาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี (Chiang Mai Initiative Multilateralisation CMIM) และกลไกเสริมสร้างเสถียรภาพของยุโรป (European Stability Mechanism: ESM) โดยเห็นว่า ทั้งสองกลไกดังกล่าวมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการดำเนินการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศในการแก้ไขและป้องกันวิกฤตเศรษฐกิจ และได้ชื่มชมต่อความพยามยามของกองทุนการเงินระหว่างประเทศในการเสริมสร้างเชื่อมโยงกับกลไกแก้ไขและป้องกันวิกฤตเศรษฐกิจของภูมิภาคต่างๆ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้สนับสนุนมติของการประชุมสุดยอด G20 เมื่อเดือนมิถุนายน 2555 ที่ให้ความสำคัญกับ การเสริมสร้างเสถียรภาพของระบบการเงินระหว่างประเทศและช่วยป้องกันวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคต และได้เรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องทำการศึกษาบทเรียนที่ได้รับจากการรวมตัวทางเศรษฐกิจของทั้งสองภูมิภาคด้วย

(3) ในด้านการค้าและการลงทุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซมได้แสดงจุดยืนที่จะยึดมั่นต่อกลไกตลาดที่เสรีและต่อต้านการกีดกันทางการค้าในทุกรูปแบบ และได้หารือถึงแนวทางการเพิ่ม ปริมาณการค้าและการลงทุนระหว่างเอเชียและยุโรป ซึ่งยังมีช่องทางที่จะขยายตัวได้อีกมาก โดยเห็นควรให้มีการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินเพื่อรองรับการขยายตัวด้านการค้าและการลงทุนดังกล่าว สนับสนุนให้ภาคเอกชน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน และให้มีการพิจารณาลดข้อจำกัดด้านการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองฝ่าย

(4) สำหรับความคืบหน้าของร่วมมือต่างๆ ภายใต้กรอบอาเซม ปลัดกระทรวงการคลังในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงความคืบหน้าของความร่วมมือด้านศุลกากร (ASEM Customs Directors General/Commissioners Meeting) ซึ่งมุ่งเน้นการดำเนินการใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การอำนวยความสะดวกทางการค้า การต่อต้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม และการเชื่อมโยงกับภาคเอกชน

(5) การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซมครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในปี 2014 โดยมีประเทศอิตาลีรับเป็นเจ้าภาพ

สำนักนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. 02 273 9020

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๓๐ เม.ย. GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๓๐ เม.ย. PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๓๐ เม.ย. LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๓๐ เม.ย. ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๓๐ เม.ย. LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๓๐ เม.ย. SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๓๐ เม.ย. STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๓๐ เม.ย. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน