นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย รายงานว่ามีคอนโดมิเนียมประมาณ 8,613 ยูนิต ที่เปิดขายในช่วงไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2555 ลดลงประมาณ 13% จากไตรมาสที่ 2 พ.ศ.2555 “ถึงแม้ว่ายูนิตที่เปิดขายใหม่ไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2555 จะน้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้านี้ แต่จำนวนยูนิตที่เปิดขายทั้งหมดใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมามากกว่ายูนิตที่เปิดขายใหม่ในปีพ.ศ.2554 ทั้งปีประมาณ 6.6% และยังมีคอนโดมิเนียมอีกหลายโครงการทีจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้”
“ประมาณ 4,000 ยูนิตหรือประมาณ 46% ของยูนิตที่เปิดขายในไตรมาสที่ 3 ตั้งอยู่ในนอกเส้นทางรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ปัจจุบัน หรือตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพชั้นนอก แต่มากกว่า 1,750 ยูนิตของยูนิตที่เปิดขายในไตรมาสที่ 3 ตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองชั้นใน ซึ่งมีมากที่สุดในเขตกรุงเทพชั้นใน และมากที่สุดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา” นายสุรเชษฐ กล่าว
“ถึงแม้ว่ามากกว่า 1,750 ยูนิตจะตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองชั้นใน แต่ว่าประมาณ 1,250 ยูนิต จาก 4 โครงการที่ตั้งอยู่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า BTS และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินMRT มากกว่า 500 เมตร และโครงการทั้งหมดไม่ได้อยู่บนถนนสายหลัก นอกจากนั้นโครงการส่วนใหญ่ที่เปิดขายในพื้นที่รอบเมืองด้านทิศเหนือตั้งอยู่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า BTS และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT มากกว่า 1,000 เมตร โครงการที่เปิดขายในช่วงไตรมาสที่ 3 ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในซอย หรือถนนสายรอง เนื่องจากว่าผู้ประกอบการทั้งหลายต้องการคุมราคาขายเฉลี่ยไม่ให้สูงเกินไป ดังนั้นที่ดินที่อยู่ภายในซอย หรือถนนสายรองซึ่งมีราคาไม่สูงจึงเหมาะกับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม” นายสุรเชษฐ กล่าวเพิ่มเติม
อัตราการขายได้เฉลี่ยของยูนิตที่เปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2555 อยู่ที่ประมาณ 64% นายสุรเชษฐ อธิบายเพิ่มเติมว่า “อัตราการขายได้เฉลี่ยของยูนิตที่เปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นประมาณ 56% จากไตรมาสที่ 2 ซึ่งอัตราการขายได้เฉลี่ยของยูนิตที่ตั้งอยู่ในระยะน้อยกว่า 200 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า BTS และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินMRT สูงที่สุดคือประมาณ 85%”
นายสุรเชษฐ อธิบายเพิ่มเติมถึงราคาขายเฉลี่ยของยูนิตที่เปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 โดยจำแนกตามระยะทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินMRTว่า “โครงการที่ตั้งอยู่ในระยะน้อยกว่า 200 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า BTS และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินMRT มีราคาสูงที่สุด คือมากกว่า 170,000 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นประมาณ 13% จากไตรมาสที่ 2 ในขณะที่โครงการที่ตั้งอยู่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า BTS และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินMRTมากกว่า 1,000 เมตรมีราคาขายเฉลี่ยต่ำที่สุด คือประมาณ 54,500 บาทต่อตารางเมตรลดลงจากไตรมาสที่ 2 ประมาณ 5% ราคาขายเฉลี่ยของทุกโครงการในทุกพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 13% จากไตรมาสที่ 2 โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ระหว่าง 501 — 1,000 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า BTS และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินMRT เพิ่มขึ้นมากกว่า 37%”
“คอนโดมิเนียมประมาณ 26,000 ยูนิตที่มีกำหนดแล้วเสร็จในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ในไตรมาสที่ 4 พ.ศ.2555 พื้นที่รอบเมืองด้านทิศเหนือเป็นพื้นที่ที่มีคอนโดมิเนียมมากกว่า 10,100 ยูนิตที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 4 พ.ศ.2555 ตามมาด้วยพื้นที่เมืองชั้นในที่ประมาณ 4,580 ยูนิต และอีกมากกว่า27,900 ยูนิต ที่คาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นนอก ถึงแม้ว่ากำหนดแล้วเสร็จของโครงการจะกำหนดโดยผู้ประกอบการ แต่ในความเป็นจริงคอนโดมิเนียมหลายโครงการไม่สามารถสร้างเสร็จภายในปีนี้ และเลื่อนกำหนดไปปีหน้า เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนแรงงาน”
ผู้ประกอบการต่างก็มีความกังวลเกี่ยวกับผังเมืองกรุงเทพฯ ฉบับใหม่ที่อาจจะมีผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ดังนั้นผู้ประกอบการบางรายจะเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมก่อนที่ผังเมืองใหม่จะประกาศใช้ “ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมาคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยได้รับการติดต่อให้เป็นตัวแทนในการขายและการตลาดโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ 4 — 5 โครงการโดยทั้งหมดตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทตอนต้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้ คอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าที่มีราคาขายเฉลี่ยมากกว่า 150,000 บาทต่อตารางเมตรยังคงมีความน่าสนใจในการลงทุนพัฒนาในอนาคต” นายมนต์ชัย อรวงศ์ไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดโครงการที่อยู่อาศัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
นายมนต์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรุงเทพฯ นั้นมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคในปีพ.ศ.2558 และสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวเอเชีย”