บตท. ร่วมมือ กคช. เดินหน้า

จันทร์ ๐๕ พฤศจิกายน ๒๐๑๒ ๒๒:๑๖
วันนี้ (5 พฤศจิกายน 2555) ได้มีพิธีลงนามสัญญาโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ระหว่าง บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) และ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) และพิธีลงนามสัญญาแต่งตั้งธนาคารกรุงเทพและธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น เป็นที่ปรึกษาทางการเงินโครงการดังกล่าว โดยมี นายวิฑูรย์ เจียสกุล ผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ และนางพรนิภา หาชัยภูมิ กรรมการและผู้จัดการ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยร่วมลงนามสัญญาครั้งนี้

นางพรนิภา หาชัยภูมิ กรรมการและผู้จัดการ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) กล่าวว่า “จากการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการศึกษาแนวทางความเป็นไปได้ ในการพัฒนาธุรกรรมสินเชื่อที่อยู่อาศัย การจัดหาแหล่งเงินทุน และการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ระหว่าง การเคหะแห่งชาติ และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ระบบเศรษฐกิจ และระบบสินเชื่อที่อยู่อาศัยของประเทศไทยในเดือนมิถุนายน 2555 ที่ผ่านมานั้น จึงเป็นที่มาในการจัดพิธีลงนามสัญญาในวันนี้ โดยมีบทสรุปและสาระสำคัญคือ การนำสินทรัพย์ หรือ สิทธิเรียกร้องที่มีต่อลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านเอื้ออาทรของ กคช. วงเงิน 1 หมื่นล้านบาทมาแปลงเป็นหลักทรัพย์ ภายใต้ชื่อ “โครงการความร่วมมือ กคช. และ บตท. เพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์” ซึ่งลูกหนี้ดังกล่าวจะเป็นลูกหนี้ที่มีประวัติการผ่อนชำระดีอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี

สำหรับการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์นี้ “บริษัท นิติบุคคลเฉพาะกิจ SPV5” (จัดตั้งตามพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540) จะออกจำหน่ายหลักทรัพย์ต่อไป โดย กคช. ยังคงมีหน้าที่ในการบริหารลูกหนี้ (Servicer) ตามสัญญาเช่าซื้อที่อยู่อาศัยโครงการบ้านเอื้ออาทรเช่นเดิม ส่วน บตท. จะทำหน้าที่ในการบริหารกระแสเงินสด (Transaction Administrator) ให้กับนิติบุคคลเฉพาะกิจ

ในเบื้องต้น บตท.คาดว่าจะออกตราสารหนี้ประเภท ABS หรือ Asset Backed Securities และ MBS หรือ Mortgage Backed Securities ซึ่งเป็นตราสารที่มีหลักทรัพย์คุณภาพดีค้ำประกัน สำหรับล็อตแรกจะออกประมาณไตรมาสที่ 1 ปี 2556 6000 ล้านบาท และ 4000 ล้านบาท โดยจะเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไป (Public Offering) และนักลงทุนวงจำกัด (Private Placement) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนและจะทำการออกตราสารหนี้อย่างสม่ำเสมอเฉลี่ยปีละ 2 ครั้งเพื่อให้นักลงทุนทราบความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ บตท. จะมีพิธีลงนามสัญญาแต่งตั้ง “ธนาคารกรุงเทพ” และ “ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น” เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษา วิเคราะห์รูปแบบ โครงสร้าง และทำการศึกษาโครงการฯ นับเป็นการดำเนินตามพันธกิจของ บตท.เพื่อระดมทุนสู่ตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย สนับสนุนให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเปิดเสรีประชาคมอาเซี่ยนต่อไป”

สำหรับนายสุรพันธ์ ปูรณคุปต์ SVP ผู้จัดการ ฝ่ายทุนธนกิจ สายวานิชธนกิจ ธนาคารกรุงเทพ ได้กล่าวถึงโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ในครั้งนี้ว่า "โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ในประเทศไทยนั้น ถึงจะมีออกมาบ้างแล้ว แต่ก็ถือว่ายังเป็นสิ่งที่ใหม่ต่อตลาดโดยทั่วไปอยู่มาก เนื่องจากนักลงทุนยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทนี้ ธนาคารกรุงเทพและ HSBC รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยผลักดันโครงการความร่วมมือระหว่าง กคช. และ บตท. ในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้หน่วยงานภาครัฐอย่าง กคช. และ บตท. มีทางเลือกในการระดมทุนเพิ่มเติม เพื่อจะลดการพึ่งพาเงินทุนจากภาครัฐโดยตรงและสามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมเพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ตาม

โครงการนี้หากประสบความสำเร็จจะถือเป็นตราสารหนี้ประเภท ABS หรือ Asset Backed Securities และ MBS หรือ Mortgage Backed Securities แรกในประเทศไทยที่เสนอขายแก่ทั้งผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายย่อย และเป็นการเปิดตลาด Securitization ในประเทศไทยหลังจากที่ไม่มีธุรกรรมดังกล่าวมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ การแปลงสินทรัพย์อันได้แก่ ลูกหนี้เช่าซื้อสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักทรัพย์ ถือเป็นนวัตกรรมสำหรับตลาดตราสารหนี้ไทย ซึ่งจะช่วยพัฒนาตลาดทุนของประเทศไทยให้มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย ตรงกับความต้องการของนักลงทุนได้มากขึ้น”

นายปัญญา จรรยารุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจบริหารเงินและตลาดทุน ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวว่า “ธนาคารเอชเอสบีซีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับทางธนาคารกรุงเทพอีกครั้ง และรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างสูงที่ได้รับเลือกให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการให้คำแนะนำ และให้คำปรึกษาในการจัดเตรียมโครงสร้างทางธุรกรรมของโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ในครั้งนี้ เพื่อให้โครงการความร่วมมือระหว่าง กคช. และ บตท. เป็นโครงการที่ช่วยในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทย รวมถึงเป็นการสร้างบรรทัดฐานและมาตรฐานของโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์เพื่อต่อยอดต่อไปในอนาคต และเป็นการเพิ่มช่องทางในการระดมทุนของภาครัฐ ทั้งนี้เพื่อให้ กคช. สามารถพัฒนาโครงการต่าง ๆให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทางธนาคารฯ รู้สึกภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ เพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยต่อไป”

ติดต่อ:

งานประชาสัมพันธ์ บตท. Tel. 02-618-9933 ต่อ 117 Fax. 02-618-9912-3

www.smcthailand.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง