หลังจากนั้นโมเลกุลจะซึมผ่านเข้ามาจะมุ่งหน้าไปกระตุ้นเซลล์ของะบบภูมิคุ้มกันที่ชื่อ Mast cells และเซลล์ชนิดนี้จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย จะเห็นได้ว่าส่วนที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายเป็นเพียงบางส่วนของอาหาร ดังนั้น หลายครั้งอาการ Food intolerance จะไม่สามารถหาสาเหตุได้ แต่ก็จะสามารถจำกัดกลุ่มของอาหารที่เป็นปัญหาอยู่บ่อยครั้งได้ เช่น กลุ่มอาหารที่มีรสเผ็ด (spices), กลุ่มอาหารหมักด้วยยีสต์ (yeast extract), ชา (tea), ถั่ว (nuts), เบียรหรือไวน์์ (beer and wine), เนยแข็ง (cheese), ช๊อคโกแลต (chocolate) เป็นต้น ซึ่งเราจำเป็นต้องหมั่นสังเกตุว่าเมื่อรับประทานอาหารประเภทใดแล้วก่อให้เกิดปัญหาก็ควรหลีกเลี่ยง
นอกจากภาวะ Food intolerance จะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารแล้ว บางกรณีอาจจะมีอาการร่วมมากกว่า 1 ระบบ เช่น อาการผื่นผิวหนังอักเสบ, อาการคล้ายภูมิแพ้ น้ำมูกไหล, บางท่านอาจจะมีอาการวิงเวียนศรีษะ หรือรู้สึกปัสาวะขัดๆ (cramping back pain by uterine contraction) เป็นต้นค่ะ หากคุณรู้สึกไม่แน่ใจว่าจะมีภาวะ Food intolerance หรือไม่ อันอับแรกสุด เก็บข้อมูลด้วยตัวคุณเองให้มากที่สุด เช่น อาการเกิดอะไร เมื่อรับประทานอะไร บ่อยแค่ไหน จากนั้น ควรรีบพบแพทย์พร้อมแจ้งอาการให้ทราบ หากแพทย์วินิจฉัยเห็นว่ามีความเป็นไปได้ว่าคุณเกิดภาวะ Food intolerance แพทย์จะตรวจร่างกายอย่างละเอียด พร้อมส่งผลตรวจไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์เชิงลึกต่อไป
แนวทางการรักษา เนื่องจากปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเป็นปฏิกิยาของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เป็นอันดับแรกสุด เราต้องหยุดอาการเหล่านี้เสียก่อน แพทย์อาจวินิจฉัยให้คุณหยุดรับประทานอาหารชนิดที่สงสัยว่าจะก่อให้เกิดการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของคุณในระยะหนึ่ง และระหว่างนี้ แพทย์อาจสั่งยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการ โดยทั่วไปหากเป็นแค่ภาวะ Food intolerance คุณอาจจะต้องหยุดอาหารที่สงสัยว่าจะก่อให้เกิดอาการประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นกับระดับความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้น จากนั้นเมื่อร่างกายฟื้นตัวเต็มที่ แล้ว คุณสามารถทานอาหารชนิดนั้นๆ ได้อีก แต่ต้องเป็นการเริ่มรับประทานในปริมาณน้อยๆ เพื่อให้ร่างกายเริ่มสร้างภาวะ Food challenging จากนั้น จึงค่อยๆเพิ่มปริมาณจนเป็นขนาดที่เรารับประทานปกติค่ะ ดังนั้นคนรุ่นใหม่ที่มีเวลาสำรวจตัวเองน้อย ลองปรับเวลาสักนิด ให้เวลากับสุขภาพตัวเองมากขึ้น ไม่งั้นโรคที่เราคาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นกับเราได้นะคะ ก่อนที่คนไทยคนรุ่นใหม่จะเป็นโรคต่างๆที่เกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้นไปกว่านี้ค่ะ ”
ติดต่อ:
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เพรียว แอนด์ ไบร์ท คลินิค
02 102 2400