สมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ยกระดับบริการสู่มาตรฐานสากล รองรับเปิดเสรีทางการเงิน กลางปี 2556 และการเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยว-การเงิน-การค้าเออีซี

พุธ ๑๒ ธันวาคม ๒๐๑๒ ๑๑:๐๔
ครั้งแรกในประเทศไทยที่ผู้ประกอบการมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญได้รวมตัวก่อตั้งเป็นสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Thai Association Of Foreign Exchange หรือ TAFEX) องค์กรไม่มุ่งหวังผลกำไร นำโดย นางสาวชนาพร พูนทรัพย์หิรัญ นายกสมาคมฯเผยความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องเร่งยกระดับบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพัฒนาระเบียบการเงินที่เป็นอุปสรรคต่อการเปิดเสรีทางการเงิน ที่จะเกิดขึ้นกลางปี 2556 และการเตรียมเป็นศูนย์กลางการเงินในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)ปี 2559 และในอนาคตอันใกล้เตรียมปูทางให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนานาชาติแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแห่งเอเซีย คาดอัตราการเติบโตของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราปี 2556 ราว 1-2%

นางสาวชนาพร พูนทรัพย์หิรัญ (Ms.Chanaporn Poonsuphirun) นายกสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (TAFEX) กล่าวว่า “ ในวิถีของโลกการเงินและการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในปัจจุบันและอนาคตยิ่งทวีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว พาณิชยกรรมของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางการเงิน ธุรกิจอุตสาหกรรม โลจิสติกส์และคมนาคมขนส่ง ตลอดจนการเป็นครัวของโลกและการเป็นศูนย์กลางสุขภาพและการแพทย์ของภูมิภาคอาเซียนที่กำลังจะเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ซึ่งมีประชากรกว่า 600 ล้านคน เมื่อเร็วๆนี้เราได้ก่อตั้งสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Thai Association of Foreign Exchange-TAFEX) นับเป็นแห่งแรกของไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างพัฒนาความก้าวหน้าของบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของไทยสู่มาตรฐานสากลให้สามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการค้าและการเปลี่ยนแปลงของสังคมเศรษฐกิจในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ, เสริมสร้างองค์ความรู้ในวิชาชีพแก่บุคคลากรและองค์กรให้มีคุณภาพและสามารถแข่งขันได้, เสริมสร้างศักยภาพขีดความสามารถของประเทศไทยโดยให้ความร่วมมือกับองค์กรภาครัฐในการปรับปรุงจุดอ่อนและแก้ไขอุปสรรคต่างๆให้สอดรับกับสถานะการณ์โลก นอกจากนี้สมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ(TAFEX) ยังประสานความร่วมมือกับองค์กรนานาประเทศในด้านวิชาการ ด้วย

นางสาวชนาพร พูนทรัพย์หิรัญ นายกสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (TAFEX) กล่าวว่าในจังหวะก้าวที่ประเทศไทยจะเปิดเสรีทางการเงิน ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และสำนักงานป้องกันและปราบรามการฟอกเงิน(ปปง.) กำหนดไว้ในช่วงกลางปี2556 หากประเทศไทยไม่เร่งเตรียมตัวและยกระดับบริการแลกเปลี่ยนเงินตราที่เป็นอุปสรรคต่อความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคม ประเทศเราอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ขณะที่อีกหลายประเทศเขาก้าวหน้าไปไกลแล้ว ยกตัวอย่างประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าของการแลกเปลี่ยนเงินตรา เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ในหลักการเปิดเสรีบริการทางการเงิน คือ เปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกเออีซีพัฒนาสาขาการเงินอย่างเป็นขั้นตอนและรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงทางการเงิน เศรษฐกิจและสังคมของประเทศสมาชิก ประเทศใดมีความพร้อมเปิดเสรีสามารถเริ่มดำเนินการได้ก่อน สำหรับส่วนของประเทศไทย ได้ผูกพันที่จะเปิดตลาดบริการด้านการเงินภายใต้อาเซียนในปี2016 ได้แก่ 1)สาขาหลักทรัพย์ มีสาขาย่อยการค้าเพื่อบัญชีของตนเองหรือบัญชีของลูกค้า, การบริการสินทรัพย์ และการบริการชำระราคาและส่งมอบสำหรับสินทรัพย์ทางการเงิน 2) สาขาย่อยอื่นๆ ได้แก่ การให้คำปรึกษาและบริการเสริมอื่นๆด้านการให้บริการทางการเงิน

ส่วนประเด็นระเบียบและกฏหมายที่ประเทศไทยควรปรับแก้ไข ได้แก่ ระเบียบข้อห้ามแลกเปลี่ยนเงินตราได้ไม่เกิน 5,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ต่อครั้งการเดินทาง ซึ่งปัจจุบันไม่สอดคล้องกับสภาวะความเป็นจริง หรือการห้ามแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนอกสถานที่นั้น โลกแห่งบริการทางการเงินต้องเปลี่ยนแปลงและแข่งขันการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้าและประชาชน

นางสาวชนาพร พูนทรัพย์หิรัญ นายกสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (TAFEX) กล่าวถึง มูลค่าตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Foreign Exchange ) ในประเทศไทย ปี2554 ประมาณ 1,100 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนจำนวนผู้ประกอบการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Money Changer)มีอยู่ประมาณ 1,217 ราย , มูลค่าตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในปี2555 คาดว่าจะเติบโตรวม 0.5 -1 % , ส่วนปีหน้า 2556 อัตราการเติบโตของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จะประมาณ 1 — 2 % ,

ทางสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (TAFEX) ได้วางแผนงานการพัฒนาในด้านต่างๆของปี 2556-2557 ได้แก่ เสริมสร้างสมาคมฯให้เป็นศูนย์กลางข้อมูลความรู้ด้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และเป็นศูนย์กลางของมวลสมาชิก โดย จัดคลังข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ,ขยายฐานสมาชิกของสมาคมฯ พัฒนาระบบสารสนเทศ TAFEX ที่ช่วยบริการงานแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยสมาคมฯ จัดเก็บค่าใช้บริการประจำปีจากสมาชิกผู้ใช้, โครงการธุรกิจคุณภาพ TAFEX Quality Money Exchanger โดยสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ(TAFEX)จะมอบป้ายนี้แก่ร้านค้าที่เข้าอบรมตามหลักสูตรธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราคุณภาพ และผ่านการตรวจสอบจากคณะอนุกรรมการธุรกิจคุณภาพ (Good Money Changer Practice)ทั้งในด้านอาคารสถานที่ ระบบจัดการที่ถูกต้องแม่นยำ บริการที่รวดเร็ว โปร่งใส นับเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ประชาชนผู้ใช้บริการอุ่นใจอีกทางหนึ่งด้วย “

สมาคมฯยังมีแผนจัดฝึกอบรมเสริมความรู้เกี่ยวกับวิชาชีพ แก่มวลสมาชิก เพื่อส่งเสริมธุรกิจ บริการที่ก้าวหน้า ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลง เช่น หลักสูตรธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราคุณภาพ และธรรมาภิบาล (Good Money Changer Practice ,หลักสูตรในการตรวจสอบธนบัตรปลอม, ธนบัตรยกเลิก ,หลักสูตรเกี่ยวกับระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ, หลักสูตรด้านการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ นอกจากนี้เรายังเผยแพร่ข้อมูลความรู้สู่สมาชิกของสมาคมฯเกี่ยวกับ ข้อมูลธนบัตรออกใหม่, จุดสังเกตธนบัตรจริง,ข้อมูลธนบัตรยกเลิกและระยะเวลาสิ้นสุด ,ข้อมูลธนบัตรปลอมระบาด หรือ ฐานข้อมูลมิจฉาชีพ เป็นต้น รวมทั้งจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ ที่จำเป็นต่อการประกอบวิชาชีพ ให้แก่สมาชิกในราคาพิเศษ

สมาคมฯมีโครงการเสริมสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายองค์กรต่างประเทศ ทั้งในภูมิภาคอาเซียน เอเชียและอื่นๆ และปูทางให้ประเทศไทยโดยสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นเจ้าภาพจัด งานประชุมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแห่งเอเซีย ( Asian Foreign Currency International Congress ) ก่อนการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้มีการประกาศเลื่อนเป็นวันที่ 1 มค 2559

นายกสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (TAFEX) กล่าวว่า “ สถานการณ์และแนวโน้มตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศปี 2555 และปี 2556 Electronic Money หรือรูปแบบทางการเงิน การแลกเปลี่ยนเงินด้วยระบบ electronic อย่างกว้างขวาง อาจส่งผลกระทบกับบริษัทในประเทศไทยบ้าง แต่เชื่อว่าการจับจ่ายใช้สอยของชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในไทย ยังคงนิยมเป็นเงินสด เนื่องจากการใช้บัตร electronic มีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่า โฉมใหม่ของร้านค้าแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในอนาคต ควรเป็นร้านที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าได้ ความเสี่ยงน้อย มีมาตรฐานในการให้บริการ ส่วนความคืบหน้ากรณีการออกกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย นั้นทางวุฒิสภาได้เห็นชอบร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับแล้ว นับเป็นข่าวดีสำหรับคนไทย คาดว่าภายในเดือน ก.พ. 2556 ประเทศไทยจะประกาศใช้กฎหมาย 2 ฉบับนี้ซึ่งจะมีผลให้คณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (FATF) ยกเลิกการขึ้นประเทศไทยเป็นประเทศเสี่ยงการฟอกเงิน จะช่วยให้พี่น้องประชาชนทำธุรกรรมกับต่างประเทศได้สะดวกขึ้น การค้าของไทยกับนานาประเทศจะได้เข้าสู่สภาวะปกติ และคงทำให้ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสดใสไปด้วย “

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ พ.ค. สุรีย์พร คลินิก เปิดตัวตึกสูงที่สุดแห่งวงการคลินิกสถาบันเสริมความงาม ฉลอง 20 ปีความสำเร็จพร้อมยกระดับชูเทคโนโลยีล้ำสมัย Volformer
๑๗ พ.ค. ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน
๑๗ พ.ค. บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) แนะนำ ชุดล็อคประตูกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า จากแบรนด์ HIP
๑๗ พ.ค. ซัมซุง อัปเกรดประสบการณ์การชมทุกมหรรมกีฬา ด้วยนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ชัดทุกแมตซ์เหมือนเชียร์ติดขอบสนาม
๑๗ พ.ค. ไทยพาณิชย์ปักหมุดผู้นำดิจิทัลแบงก์ นำ AI เสริมแกร่ง 360 องศา เปิด 3 นวัตกรรม AI ครั้งแรก! สร้างปรากฏการณ์ใหม่กลุ่มสินเชื่อรายย่อย และ Digital
๑๗ พ.ค. หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม
๑๗ พ.ค. DDD โชว์งบ Q1/67 กวาดกำไรทะยาน 317% YoY พร้อมลุยขยายตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ อัพผลงานปีนี้โตสวย
๑๗ พ.ค. PCC เปิดงบ Q1/67 รายได้โต 14.25% ยอดขายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า - อุปกรณ์ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10%
๑๗ พ.ค. บางจากฯ สานต่อพันธกิจสนับสนุนด้านกีฬาอย่างเป็นมิตรต่อโลก ร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง Olympic Day 2024 Together, For A Better
๑๗ พ.ค. บัตรเครดิต ttb ช้อปคุ้ม อิ่มครบ ได้มากกว่า รับ Magic Gift Voucher รวมมูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 5