ซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์ เปิดตัวระบบสายสัญญาณเครือข่ายสายทองแดงรองรับ อีเธอร์เน็ต 10 กิกะบิต

จันทร์ ๒๕ เมษายน ๒๐๐๕ ๑๕:๑๑
กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--เวเบอร์ แชนด์วิค ประเทศไทย
UTP โซลูชั่น เต็มรูบแบบรายแรก ที่ ตรงตามข้อกำหนดการจัดทำมาตรฐาน IEEE 802.3an ล่าสุด
ซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์? (SYSTIMAX Solutions?) ผู้นำด้านระบบสายสัญญาณเชื่อมต่อเครือข่ายสำหรับองค์กรธุรกิจที่ได้รับความเชื่อถือทั่วโลก เปิดตัว SYSTIMAX? GigaSPEED? X10D Solution ระบบสายสัญญาณเครือข่ายสายทองแดงระบบใหม่ล่าสุด ที่สามารถรองรับการใช้งานอีเธอร์เน็ต (Ethernet) ความเร็วสูงระดับ 10 กิกะบิต นับเป็นรายแรกที่พัฒนาระบบสายสัญญาณ UTP เต็มรูปแบบตามมาตรฐาน IEEE 802.3an ล่าสุด ของมาตรฐาน 10GBASE-T
GigaSPEED X10D เป็นระบบสายสัญญาณเครือข่ายแบบครบวงจรที่สามารถรองรับความต้องการขององค์กรขนาดใหญ่ที่จำเป็นต้องใช้สายสัญญาณที่มีแบนด์วิดท์ (Bandwidth) สูง รวมถึงแอพพลิเคชั่นที่ใช้ทรัพยากรมาก เช่น โปรแกรมฉายภาพวิดีโอความละเอียดสูง การประมวลผลแบบกริด รวมทั้งโปรแกรม SAN (Storage Area Network) หรือ NAS (Network Attached Storage)
GigaSPEED X10D เป็นผลผลิตจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันยาวนานของ ซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์ ในการพัฒนาระบบสายสัญญาณเครือข่ายอันทรงประสิทธิภาพ จนเป็นที่ไว้วางใจของผู้ดูแลเครือข่ายในหลายองค์กร GigaSPEED X10D เป็นระบบที่พัฒนามาจากมาตรฐาน Category 6/Class E ซึ่งซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์พัฒนาขึ้นเป็นรายแรกในปี 1997 พร้อมกับโซลูชั่นรุ่นแรกๆ ในตระกูล GigaSPEED นอกจากนั้น GigaSPEED X10D ยังผ่านการทดสอบและรับรองคุณภาพจาก SYSTIMAX SCS และมีการรับประกันยาวนานถึง 20 ปี
ซิสติแม็กซ์ แลปส์ (SYSTIMAX Labs) ได้ออกแบบโซลูชั่นที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของคณะกรรมการจัดทำมาตรฐาน IEEE 802.3an โดยนำแบบอย่างมาจากข้อกำหนดใหม่ของมาตรฐาน 10GBASE-T ที่รู้จักกันในชื่อ IEEE Model No.1 PSANEXT (Power Sum Alien Near End Crosstalk) และ Insertion Loss โดยข้อกำหนดดังกล่าวเป็นที่ยอมรับของคณะกรรมการจัดทำมาตรฐานสายสัญญาณเครือข่ายนานาชาติ ที่รับผิดชอบการกำหนดมาตรฐานสาย new Class E หรือ Augmented Category 6 ทั้งนี้ หากพิจารณาในแง่เทคนิคแล้วถือว่ามีความเสถียร ขณะนี้ซิสติแม็กซ์ แลปส์ กำลังเร่งพัฒนาระบบสายสัญญาณเครือข่ายแห่งอนาคตที่รองรับการเชื่อมต่อสายสัญญาณในรัศมีเกินกว่า 100 เมตร จากจุดเชื่อมต่อ 4 จุด
ประสิทธิภาพของการสื่อสารข้อมูลระหว่างสายสัญญาณ (UTP) แพทช์คอร์ด (Patch Cord) และคอนเน็คเตอร์ (Connector) นับเป็นสิ่งสำคัญในการใช้งานเครือข่ายที่มีความเร็วระดับ 10 กิกะบิตต่อวินาที ซิสติแม็กซ์ แลปส์ จึงเลือกใช้ระบบ MDM (Modal Decomposition Modeling) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นเอง มาช่วยในการทดสอบและประเมินประสิทธิภาพการส่งผ่านข้อมูลระหว่างจุดต่างๆ ในระบบสายสัญญาณจำนวน 1,024 จุด เพื่อให้แน่ใจว่าเกิดเหตุขัดข้องหรือสายพันกันน้อยที่สุด นอกจากนี้ GigaSPEED X10D Solution ยังผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและการตั้งค่าให้สามารถใช้งานได้แม้ในสภาวะที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ‘6-around-1’ อีกด้วย
มร. ลัก เอเดรียนเซนส์ รองประธานฝ่ายวิจัย/พัฒนาและเทคโนโลยีของซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์ เปิดเผยว่า “ด้วยเครื่องมืออย่าง MDM บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถให้บริการลูกค้าด้วยระบบสายสัญญาณเปี่ยมประสิทธิภาพ เพื่อรองรับความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคต เนื่องจากแต่ละองค์กรมีผู้ใช้แอพพลิเคชั่นที่สลับซับซ้อนเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการใช้ระบบสายสัญญาณที่มีแบนด์วิดท์ (Bandwidth) สูงๆ จึงเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว GigaSPEED X10D Solution เป็นเทคโนโลยีของระบบสายสัญญาณ UTP ที่กล่าวได้ว่าก้าวล้ำหน้าที่สุดในขณะนี้ บริษัทรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์และเป็นผู้ให้บริการเป็นรายแรก”
มร. เอเดรียนเซนส์ ระบุว่า เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารความเร็วสูง อย่างเช่น เครือข่ายอีเธอร์เน็ต 10 กิกะบิต พร้อมแล้วสำหรับการใช้งานบนเครือข่าย LAN โดยในระยะเวลาอันใกล้นี้ จะใช้เชื่อมโยงระหว่างเซิร์ฟเวอร์และชุมสายความเร็วสูงในศูนย์กลางข้อมูล (data center) รวมทั้ง CAD stations ระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงอื่นๆ และแอพลิเคชั่นศูนย์กลาง ที่สามารถรองรับปริมาณการใช้งานอีเธอร์เน็ตความเร็วสูงระดับกิกะบิตต่อพ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ การเชื่อมต่อสัญญาณเครือข่ายUTP 10 กิกะบิตเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์มีความเป็นไปได้มากขึ้น เนื่องจากมีการใช้สายที่มีแบนด์วิดท์ (Bandwidth) สูงมากขึ้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายต่ำลง และการใช้งานเทคโนโลยีขีดความสามารถสูงอย่างกริดคอมพิวติ้ง (GRID Computing) มีแนวโน้มสูงขึ้น
“คาดว่าดาต้า เซ็นเตอร์ จะเป็นกลุ่มที่ช่วยผลักดันให้เกิดการยอมรับเครือข่ายอีเธอร์เน็ตความเร็ว 10 กิกะบิตมากขึ้น ตามด้วยสถาบันอื่นๆ เช่น ธนาคาร สถานพยาบาล โรงถ่ายภาพยนตร์ รวมถึงองค์กรธุรกิจที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ต้องการแบนด์วิดท์สูงๆ ระบบติดต่อประสานงานระหว่างสาขา การสื่อสารข้อมูลภาพและเสียงผ่านวิดีโอสตรีมมิ่ง และธุรกิจอื่นๆ มีแนวโน้มจะเปลี่ยนมาใช้เครือข่ายอีเธอร์เน็ตความเร็ว 10 กิกะบิต ซึ่งองค์กรเหล่านี้จะได้ประโยชน์สูงสุดจากขีดความสามารถของ GigaSPEED X10D Solution” มร. เอเดรียนเซนส์ กล่าวเสริม
ด้านดร. อิสปราน กันดาซามี รองประธานและกรรมการผู้จัดการของซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์ เอเชีย-แปซิฟิก กล่าวเสริมว่า “GigaSPEED X10D Solution ถือเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นของเทคโนโลยีเชื่อมต่อ ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับทุกธุรกิจและความสะดวกในการเตรียมความพร้อมของเครือข่ายสายทองแดง เพื่อรองรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในอนาคต บริษัทเชื่อว่าทุกประเทศในภูมิภาคนี้จะกลายเป็นตลาดสำคัญของเครือข่ายอีเธอร์เน็ตความเร็ว 10 กิกะบิต โดยใช้เทคโนโลยีสายทองแดง”
คุณสมบัติหลักของ GigaSPEED X10D:
- GigaSPEED 91 Series Cable มีให้เลือกทั้งแบบ plenum, non-plenum และ low smoke zero halogen
- UMP (Universal Modular Patching) Panel พัฒนาใหม่ล่าสุด
- MGS500 Outlets
- สาย Patch Cord รุ่น GS10E
เกี่ยวกับซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์
ซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์? (SYSTIMAX Solutions?) เป็นบริษัทในเครือ CommScope (NYSE: CTV) เป็นผู้นำด้านการพัฒนาระบบสายสัญญาณ ที่ได้รับความเชื่อถือทั่วโลกมายาวนาน นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ให้บริการพัฒนาและติดตั้งระบบสายสัญญาณเชื่อมต่อเครือข่ายแบบครบวงจรสำหรับการสื่อสารข้อความ ภาพ เสียง และมัลติมีเดีย รวมทั้งการนำเสนอแอพพลิเคชั่นเพื่อการบริหารจัดการเครือข่ายการสื่อสารในอาคารขององค์กรขนาดใหญ่ ทั้งในส่วนของการเชื่อมต่อแบบใช้สายและไร้สาย
ซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์ ให้บริการติดตั้งระบบสายสัญญาณอันทรงประสิทธิภาพโดยผ่านพันธมิตร Business Partners ได้แก่ สายสัญญาณโลหะ GigaSPEED? X10D และ GigaSPEED XL Solutions รวมทั้งสายไฟเบอร์ออปติก LazrSPEED? และ TeraSPEED? Solutions และ intelligent patching iPatch? System ส่วน SYSTIMAX AirSPEED? Solution เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเครือข่ายไร้สาย ซิสติแม็กซ์ แลปส์ และทีมงานพร้อมที่จะทุ่มเทและร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อความสำเร็จในอนาคตของ SYSTIMAX Solutions ถึงวันนี้พันธมิตร Business Partners ให้บริการติดตั้งระบบสายสัญญาณเครือข่ายของ SYSTIMAX มากกว่า 1,600 กม. ในกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.systimax.com
ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต (Forward Looking Statements)
ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต ที่มาจากข้อมูลปัจจุบันจากคณะบริหาร ความเชื่อของคณะบริหารและสมมุติฐานของเหตุการณ์ในอนาคต โดยข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตนี้ไม่ได้เป็นการรับประกันผลงานและไม่รวมถึงความไม่แน่นอนและปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถก่อให้เกิดความแตกต่างจากผู้ที่คาดหวังได้ สำหรับรายละเอียดของปัจจัยที่ทำให้เกิดความแตกต่าง โปรดดูรายละเอียดในส่วน Securities และ Exchange Commission ของบริษัท CommScope ในการใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตนี้ ทางบริษัทไม่มีเจตนาและจะไม่รับผิดชอบในการปรับเปลี่ยนข้อความเนื่องจากข้อมูลที่เกิดขึ้นใหม่หรือ เหตุการณ์อื่นๆ ในอนาคต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
อรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ
โทร.+662-257-0300 ต่อ 341
[email protected]จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๒ คณะ กิจกรรม วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ อัลเตอร์วิม ร่วมวิจัย-พัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงาน
๑๖:๐๖ กรุงศรีออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือนตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย
๑๖:๒๙ Lexar Professional CFexpress 4.0 Type B Card DIAMOND คว้ารางวัล BEST STORAGE MEDIA ในงาน TIPA WORLD AWARDS
๑๖:๔๔ ฟอร์ติเน็ต ร่วมมือ สกมช. คัดเลือก-ฝึกอบรมเสริมทักษะบุคลากรคลาวด์ เล็งเพิ่มทรัพยากรบุคคล เสริมความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์ทุกรูปแบบ
๑๖:๒๙ ไอ-เทล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก แข็งแกร่งด้วย รายได้กว่า 4 พันล้าน กำไรเพิ่ม 93 เปอร์เซ็นต์ มุ่งการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี
๑๖:๒๒ หมอแม็ค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของไทย
๑๖:๐๗ ทรูเวฟ (ประเทศไทย) เปิดตัว GreenFarm.AI ผู้ช่วยคนใหม่ที่จะทำให้สวนเติบโตสวยและยั่งยืนได้ดั่งใจ
๑๖:๕๐ ไบเทคบุรี เมกะโปรเจกต์ของภิรัชบุรี กรุ๊ป พลิกโฉม ไบเทค บางนา ก้าวข้ามอุตสาหกรรม MICE สู่สถานที่แห่งไลฟ์สไตล์ครบวงจร
๑๖:๕๒ ดีมันนี่ ตอกย้ำความสำเร็จในงาน Money 20/20 Asia ในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน โอนเงินไปต่างประเทศชั้นนำในวงการฟินเทคไทย
๑๖:๕๔ สบยช. ยืนยัน ชาเม่ คอลลาเจน ไม่มีสารเสพติด