สปสช. จับมือเครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย เดินหน้าชูเป้าหมายการทำงาน Admission Rate Near Zero เพื่ออนาคตที่สดใสของผู้ป่วย

อังคาร ๑๕ มกราคม ๒๐๑๓ ๑๔:๑๑
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับ เครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (Easy Asthma and COPD Clinic Network) จัดงานประชุมใหญ่ประจำปี ครั้งที่ 9 เดินหน้าชูเป้าหมายการทำงาน Admission Rate Near Zero และทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่ออนาคตที่สดใสของผู้ป่วย ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกโรงพยาบาลกว่า 900 แห่งเข้าร่วมโครงการ เน้นการลดจำนวนผู้ป่วยต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลซึ่งคาดว่าในอนาคตจำนวนผู้ป่วยจะลดลงอย่างต่อเนื่อง จนไม่มีผู้ป่วยที่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล เผย จำนวนผู้ป่วยลดลงได้มากถึง 40% จาก 13% ในปีพ.ศ. 2553 และลดลงเหลือ 8% ในปีพ.ศ. 2554 ซึ่งคาดว่าในอนาคตจำนวนผู้ป่วยจะลดลงเรื่อยๆ จนถึงไม่มีผู้ป่วยเนโรคนี้อีกต่อไป

รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ประธานเครือข่ายคลินิคโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (Easy Asthma and COPD Clinic Network ) กล่าวว่า โครงการเครือข่ายคลินิกโรคหืด และปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (Easy Asthma and COPD Clinic Network) ในปีนี้ถือเป็นปีที่ 9 ของการจัดประชุมใหญ่ประจำปี นับตั้งแต่ได้มีการจัดทำโครงการเครือข่ายคลินิกโรคหืด และปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (Easy Asthma and COPD Clinic Network) ซึ่งได้รับการสนับสนุนหลักจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ให้แก่โรงพยาบาลที่ร่วมโครงการ พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีการจัดเก็บข้อมูลแบบออนไลน์ ทำให้การติดตามประเมินผลผลการรักษาผู้ป่วยเป็นระบบและสะดวกมากยิ่งขึ้น นำข้อมูลไปพัฒนารูปแบบการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นการวางรากฐานระบบสาธารณสุขของประเทศที่สำคัญอีกทางหนึ่งด้วย

รศ.นพ.วัชรา กล่าวว่า เพื่อให้โครงการฯ เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง การประชุมใหญ่ประจำปีนี้ จึงได้ชูเป้าหมายการทำงาน Admission Rate Near Zero และ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่ออนาคตที่สดใสของผู้ป่วย เพื่อให้เครือข่ายมีเป้าหมายและแนวทางการรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพไปในทิศทางเดียวกัน โดยผลการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่า จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยภาวะหอบรุนแรงเฉียบพลัน ลดลงได้มากถึง 40% จาก 13% ในปีพ.ศ. 2553 เหลือ 8% ในปีพ.ศ. 2554 ซึ่งคาดว่าในอนาคตจำนวนผู้ป่วยจะลดลงเรื่อยๆ จนถึงไม่มีผู้ป่วยที่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ทำให้โรงพยาบาลและผู้ป่วยสามารถลดค่าใช้จ่ายในการรักษา โดยผู้ป่วยโรคหืดทุกคนในประเทศไทยสามารถเข้าถึงการรักษาดังกล่าว รวมถึงได้รับการดูแลรักษาโรคหืดตามมาตรฐานสากล ส่งผลให้การควบคุมอาการของโรคดีขึ้น ผู้ป่วยทำกิจวัตรประจำวันได้มากขึ้นกว่าเดิม ปราศจากข้อจำกัดอันเนื่องมาจากอาการกำเริบของโรค

“โรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังไม่ใช่โรคใหม่ แต่เป็นโรคที่คุกคามชีวิตคนไทยอย่างน่ากลัว ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ในอดีตจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคหืดเพิ่มขึ้นทุกปี เช่น ปี 2538 มี 66,679 คน พอถึงปี2554 เพิ่มเป็น 112,961 คน ขณะที่ในปี 2540 มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคหืด 806 คน ปี 2546 เสียชีวิต 1,697 คน โดยมีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงที่ต้องรับการรักษาฉุกเฉินปีละกว่า 1 ล้านคนและแนวโน้มจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากชีวิตความเป็นอยู่ มลภาวะ ฝุ่นในอากาศ ควันพิษส่งผลให้ผู้ป่วยทั้งเด็กและผู้ใหญ่มีโอกาสที่จะเป็นโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังได้ซึ่งแนวโน้มจะขยายเข้าสู่วัยเด็กมากขึ้น” รศ.นพ.วัชรากล่าว

ทางด้าน พญ.เขมรัสมี ขุนศึกเม็งราย ที่ปรึกษาอาวุโส สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกล่าวว่า “จากความร่วมมือที่ สปสช. กับโครงการเครือข่ายคลินิกโรคหืดฯ ได้ทำร่วมกันนั้น ทำให้มีการพัฒนาระบบการให้บริการผู้ป่วยโรคหืดตามรูปแบบโปรแกรม Easy Asthma Clinic สำหรับหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งแต่ปี 2551 ที่ สปสช. สนับสนุนให้โรงพยาบาลในพื้นที่รับผิดชอบของ สปสช.เขต7 จัดตั้งคลินิกโรคหืดแบบง่ายขึ้น ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ทำให้ สปสช ให้การสนับสนุนให้โรงพยาบาลทั่วประเทศจัดตั้งคลินิคโรคหืดแบบง่ายขึ้น สนับสนุนยาพ่นเสตียรอยด์ซึ่งเป็นยาหลักที่ใช้รักษาโรคหืดแก่โรงพยาบาลเครือข่าย ในปี 2554 ตั้งเป้าลดจำนวนผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลน้อยที่สุดจนถึงไม่มีเลยในอนาคต และในปี2555 เริ่มสนับสนุนการจัดตั้งคลินิกโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ตั้งเป้ายกระดับมาตรฐานการรักษา เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยและลดจำนวนผู้ป่วยนอนโรงพยาบาล”

ทั้งนี้ ความร่วมมือโครงการฯ ดังกล่าว เริ่มต้นจากโรงพยาบาลที่สนใจเข้าร่วมโครงการส่งตัวแทนจาก 3 ฝ่ายคือ แพทย์ พยาบาล และเภสัชกรเข้าร่วมอบรม เพื่อให้เข้าใจในแนวทางการรักษาโรคหืดอย่างง่ายที่ถูกต้อง การทำงานที่เป็นระบบ ประสานกันเป็นทีม และบุคลากรของทีมมีความรู้ความเข้าใจการรักษาโรคหืดในแนวทางเดียวกันซึ่งกระบวนการรักษาดังกล่าว ทำให้การรักษาโรคหืดของไทยได้มาตรฐานและมีคุณภาพตามที่ สปสช. กำหนด คือมีการซักประวัติผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ มีการตรวจร่างกายร่วมกับการประเมินสมรรถภาพปอด เพื่อให้การรักษาตามแนวทางการรักษาโรคได้อย่างถูกต้อง มีระบบการบันทึกข้อมูลการดูแลผู้ป่วยโรคหืดที่มีมาตรฐาน สามารถสืบค้นและให้การดูแลต่อเนื่องในเครือข่ายได้ มีฐานข้อมูลผู้ป่วยโรคหืด เพื่อใช้ในการพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วยโรคหืดให้ได้รับบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ป่วยโรคหืดในประเทศไทยมีโอกาสเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานอย่างทั่วถึง มีการให้ยาและใช้ยาได้อย่างถูกต้อง สามารถควบคุมโรคหืดของตนเองได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีเฉกเช่นคนปกติธรรมดา ส่งผลให้อัตราการนอนโรงพยาบาลด้วยอาการหอบของผู้ป่วยลดลง

นอกจากนี้ ภายในงานประชุมใหญ่ ยังจัดให้เป็นเวทีการประกวดผลงานการพัฒนาแนวทางการรักษาของโรงพยาบาล และคลินิกเครือข่ายฯ ทั้งโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ภายใต้ชื่อ EACC Excellence Award 2012 โดยผลงานที่เข้าประกวดเป็นการนำเสนอถึงแนวทางบริหารจัดการของคลินิก และผลงานการรักษาผู้ป่วยเชิงคุณภาพของ Easy Asthma Clinic ของแต่ละโรงพยาบาล เพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ให้ได้ตามเป้าหมายแนวทางปฏิบัติบริการสาธารณสุขการดูแล เน้นจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนและเปิดโอกาสให้แต่ละโรงพยาบาลที่เป็นสมาชิกได้ส่งผลงานและแนวทางในการรักษาผู้ป่วย เข้าร่วมประกวดในรูปแบบบอร์ดนิทรรศการ และ Presentation เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ และช่วยสร้างเสริมกำลังใจให้กับบรรดาสมาชิกที่ได้ร่วมกันสละเวลาจัดตั้งคลินิกขึ้นสำหรับรักษาผู้ป่วยโรคหืด และ COPD

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง