“พรีเมียร์ โพรดักส์” มั่นใจธุรกิจเติบโตสูง เชื่อดึงดูดนักลงทุนต้อนรับหุ้น IPO 82.5 ล้านหุ้นอบอุ่น

อังคาร ๑๕ มกราคม ๒๐๑๓ ๑๖:๔๒
สุรเดช บุณยวัฒน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ เผย สำนักงาน ก.ล.ต.ได้เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่งและแบบคำขอฯของบมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้พร้อมเดินหน้าตามขั้นตอนเพื่อนำหุ้นเข้าจดทะเบียนใน SET ต่อไป มั่นใจหุ้น IPO ทั้ง 82.5 ล้านหุ้นได้รับการตอบรับอบอุ่น เหตุเป็นหุ้นที่ธุรกิจมีทิศทางการเติบโตสูงและมั่นคงในระยะยาว โดยเฉพาะในปี 2556 จะเห็นการเติบโตโดดเด่นหลังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มอีก 2 โรง

นายสุรเดช บุณยวัฒน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมระดับแนวหน้าของประเทศไทย ในกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของ บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ เพื่อขอเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น บริษัทฯ จึงพร้อมดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อนำไปสู่การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 82.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) ที่ 1 บาทต่อหุ้น ตามที่ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตฯและแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงาน ก.ล.ต.ไว้ดังกล่าว

“ขณะนี้ทางสำนักงาน ก.ล.ต.ได้นับหนึ่งทั้งแบบไฟลิ่งและแบบคำขอไปเรียบร้อยแล้ว รอเพียงขั้นตอนการอนุมัติแบบไฟลิ่งและแบบคำขอฯ เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ก็เตรียมความพร้อมในกระบวนการต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว หากทาง สำนักงาน ก.ล.ต. อนุมัติก็เริ่มดำเนินการตามกระบวนการต่างๆ ได้ทันที ซึ่งมั่นใจว่าหุ้น IPO ของบริษัทฯ จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างอบอุ่น เพราะผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตสูง จากธุรกิจระบบบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูปภาคครัวเรือนทั้งขนาดเล็กเพื่อที่อยู่อาศัย และระบบขนาดใหญ่สำหรับองค์กรและสถานที่สำหรับรองรับคนเป็นจำนวนมาก ทั้งสนามกีฬา ศูนย์การประชุมสัมมนาต่างๆ ที่กำลังขยายตัวอย่างชัดเจน และจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่กำลังจะรับรับรู้รายได้เพิ่มจาก 1 โรง เป็น 3 โรงภายในต้นไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเชื่อว่าจะดึงดูดความสนใจของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี” นายสุรเดช กล่าว

สำหรับ บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ ดำเนินธุรกิจใน 4 กลุ่มหลัก โดยมี 2 ธุรกิจดำเนินการ ภายใต้ บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ด้านระบบบำบัดน้ำเสียและระบบสำรองน้ำ และกลุ่มธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง และอุตสาหกรรม ในขณะที่อีก 2 กลุ่มธุรกิจจะดำเนินการโดยบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติในการประหยัดพลังงาน ดำเนินการโดยบริษัท พรีเมียร์ โฮม แอพพลายแอนซ์ จำกัด (PHA) และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ดำเนินการโดย บริษัท อินฟินิท กรีน จำกัด (IGC) ซึ่งธุรกิจทั้งหมดเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทนซึ่งถือเป็นธุรกิจแห่งอนาคตที่อยู่ในความสนใจของทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดูแลโลกและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ธุรกิจจึงมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันธุรกิจระบบบำบัดน้ำเสียและระบบสำรองน้ำของบริษัทฯ ถือเป็นผู้นำในตลาดที่ใช้ในอาคาร โดยบริษัทฯ ได้รับเลือกให้เป็นผู้ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียในอาคารขนาดใหญ่ชั้นนำมากมาย อาทิ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร สนามกีฬาบางกอกฟุตซอล อารีน่า รวมทั้ง สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงค์ มักกะสัน และอาคารที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่

ในขณะที่ในธุรกิจผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรม ปัจจุบันถือเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากซีเมนต์เสริมใยแก้ว และผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์กลาสเสริมแรง โดยได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสถาปนิกในวงกว้าง ไว้วางใจใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ในโครงการสำคัญมากมายหลายโครงการไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ผลิตจากซีเมนต์เสริมใยแก้ว (Glass Reinforced Cement: GRC) ได้แก่ การทำผนังกันเสียงให้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีแดง สะพานพระราม 8 สะพานพระราม 4 ถนนรามคำแหง และผลิตภัณฑ์หลังคาและผนังเหล็กขึ้นรูป ซึ่งใช้ติดตั้งหลังคาของศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คลังเก็บสินค้าของ บมจ.

ท่าอากาศไทย ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จในธุรกิจและการยอมรับจากกลุ่มผู้ประกอบการเป็นอย่างดี

ด้านธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งดำเนินการโดย บริษัท อินฟินิท กรีน จำกัด (IGC) มีทั้งหมด 3 โครงการโครงการละประมาณ 5 MW รวม 15 MW ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยโครงการแรกได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว และPPP เริ่มรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่เดือนกันยายน 2555 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการที่ 2 และ 3 เพิ่มเติมได้ภายในต้นไตรมาส2ปี 2556 โดยจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริษัทฯ มีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีนี้ และสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวต่อเนื่อง

ด้านธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทประหยัดพลังงาน ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท พรีเมียร์ โฮม แอพพลายแอนซ์ จำกัด (PHA) ในอนาคตมีทิศทางการเติบโตอย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่รองรับกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่กำลังมาแรงทั้งในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังสามารถใช้ประโยชน์จากช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งของ PHA โดยนำสินค้าประเภทประหยัดพลังงานอื่นๆ เช่น หลอดไฟฟ้าประหยัดพลังงาน อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน อุปกรณ์ที่ใช้ควบคู่กับแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใช้ตามบ้าน (Solar Roof Top) เข้ามาจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าพันธมิตรที่มีอยู่ประมาณ 500 แห่งทั่วประเทศได้อีกด้วย และในปีนี้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตก้าวอย่างกระโดดต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาได้ทั้งกลุ่มธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน

สำหรับผลประกอบการในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 993.51 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมร้อยละ 50 กลุ่มผลิตภัณฑวัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรมร้อยละ 31.07 กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ร้อยละ 3.75 กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงานร้อยละ 14.30 และรายได้อื่นๆ ร้อยละ 0.88 เทียบกับงวด 9 เดือนแรกของปี 2554 ที่มีรายได้ 640.46 ล้านบาท และรายได้ 916.14 ล้านบาทในปี 2554 โดยในปี 2555 บริษัทฯ คาดว่ารายได้จะเติบโตได้อย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากเพียง 9 เดือนแรกของปีบริษัทฯ สามารถทำรายได้สูงกว่าปี 2554 ทั้งปีแล้ว

ทั้งนี้ บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็นทุนชำระแล้ว 217.50 ล้านหุ้น ส่วนที่เหลือ 82.50 ล้านหุ้น ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จะนำมาลงทุนเพิ่มในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการเติบโตในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว