คลิกที่นี้เพื่อทวิตข่าวนี้:#Symantec ประกาศปรับกลยุทธ์องค์กรและกลุ่มสินค้าที่จะมุ่งเน้นhttp://bit.ly/ViCEqb
กลยุทธ์
“กลยุทธ์ของไซแมนเทคนั่นง่ายและชัดเจน คือ เรามุ่งหวังให้ผู้บริโภค ภาคธุรกิจ ภาครัฐ หรือทุกระดับทุกกลุ่ม ใช้เวลาและพลังของพวกเขาไปกับสิ่งที่พวกเขาปรารถนา โดยไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลาไปกับความห่วงหรือใส่ใจกับปัญหาวิถีชีวิตในโลกดิจิตอลของพวกเขาจะปลอดภัยหรือได้รับการปกป้องหรือไม่” สตีฟเบ็นเน็ตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของไซแมนเทค กล่าว “เรื่องนี้จึงสำคัญมากที่ไซแมนเทคต้องโฟกัสและทำให้ทุกอย่างดีขึ้นและง่ายขึ้นสำหรับลูกค้าและพันธมิตรของเรา เป้าหมายของเราไม่ซับซ้อน เราจะมอบผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งกว่าและบริการที่ออกแบบเฉพาะสำหรับลูกค้า และปรับปรุงให้ง่ายขึ้นสำหรับพวกเขาในการวิเคราะห์ ซื้อ ใช้ และขอความช่วยเหลือซัพพอร์ตเมื่อพวกเขาต้องการ”
เป้าหมาย
เป้าหมายของไซแมนเทคคือการปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกันต้องพัฒนานวัตกรรมใหม่ ให้ก่อเกิดเป็นผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการที่สำคัญหรือที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง เมื่อเวลาผ่านไปลูกค้าจะมีทางเลือกมากขึ้นและดียิ่งขึ้นอันช่วยตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้อย่างต่อเนื่องและก่อเกิดผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่า ไซแมนเทคจึงมุ่งเน้นใน 10 ด้านสำคัญที่จะรวมผลิตภัณฑ์และบริการเดิมที่มีอยู่สร้างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ นวัตกรรมใหม่และโซลูชันที่ครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้ พร้อมด้วยการเชื่อมโยงและมูลค่าที่สูงขึ้น โดยภาพรวมของกระบวนการพัฒนาจะใช้เวลาประมาณ 6 ถึง 24 เดือน ขึ้นอยู่กับรายละเอียดในแต่ละโซลูชันที่จะมอบให้
สิ่งที่เราจะนำเสนอในอนาคตนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบโจทย์สำคัญที่ลูกค้าต้องการ 3 ด้าน ได้แก่ ทำให้ง่ายขึ้น เพื่อการใช้งานที่สะดวกและปกป้องได้ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ทำให้การดำเนินธุรกิจปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนดกฎหมายต่างๆ และสุดท้ายคือ ปกป้องข้อมูลทางธรุกิจและช่วยให้แอพพลิเคชันต่างๆ ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ไซแมนเทคจะมุ่งเน้นการพัฒนาในจุดสำคัญๆ อันได้แก่ Mobile Workforce Productivity, Norton Protection, Norton Cloud, Information Security Services, Identity/Content-Aware Security Gateway, Data Center Security, Business Continuity, Integrated Backup, Cloud-Based Information Managementและ Object Storage Platform.
“ลูกค้ายังคงสามารถเลือกหยิบผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันที่ตนเองต้องการใช้งานได้ จากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมทรงคุณค่ามากยิ่งขึ้น” เบ็นเน็ตต์ กล่าว “เราไม่จัดชุดแพ็กเกจที่ลูกค้าต้องรับไปใช้หรือไม่เลือกเลย เพราะลูกค้ายังสามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตนเองได้และซื้อตามที่เลือก แต่เราก็มีทางเลือกเพิ่มเติมในการย้ายสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่ายืดหยุ่นกว่าที่เรารู้ดีกว่าลูกค้าต้องการ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาภัยคุกคาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานผ่านอุปกรณ์มือถือและคลาวด์”
และเพื่อที่จะดำเนินการมอบสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้าในอนาคต ไซแมนเทคจึงต้องเพิ่มการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา และคิดค้นนวัตกรรมภายในเพื่อตอบโจทย์สำหรับความต้องการในยุคต่อไปให้ดียิ่งขึ้น ไซแมนเทคจะสร้างพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ที่สามารถอินทิเกรตการทำงานร่วมกันผลิตภัณฑ์อื่นๆได้ เพื่อเพิ่มมูลค่าสำหรับลูกค้า สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าหมดกังวลกับความท้าทายในการจัดการข้อมูลและการปกป้องได้ในทุกจุดทั้งในระดับเครือข่ายและระดับข้อมูล
“ยังมีความต้องการอีกมากที่ลูกค้าประสบโดยตรงซึ่งยังไม่ได้รับตอบสนองทั้งในการป้องกันและการโยกย้ายหรือบริหารจัดการข้อมูลสารสนเทศของตนเองบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย” เบ็นเน็ตต์ กล่าวต่อ “ด้วยทรัพยากรและองค์ความรู้ของเรา เราอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากกว่าใครๆ เรามีอินฟราสตรักเจอร์ที่พร้อมช่วยเหลือลูกค้า และด้วยกลยุทธ์ใหม่นี้ จะช่วยปรับปรุงทั้งเป้าหมายของเราเองและการดำเนินงาน เรายังมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่รู้และเห็นว่าเรากำลังจะเดินก้าวต่อไปอย่างไร ทั้งหมดนี้จึงเป็นคำถามสำคัญที่ต้องเรียงลำดับและจัดความสำคัญอะไรคือความต้องการในปัจจุบัน แล้วอะไรคือความต้องการในอนาคตที่ลูกค้าต้องการภายใต้การพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ”
การดำเนินงานและองค์กร
กระบวนการขายของไซแมนเทคจะดำเนินอย่างต่อเนื่องโดยใช้ช่องทางจัดจำหน่ายปัจจุบันในการดูแลลูกค้าปัจจุบันและให้อิสระกับการกำกับดูแลงานขายของทีมขายไซแมนเทคมากขึ้น เพื่อมุ่งเน้นการสร้างธุรกิจใหม่ๆ โดยไซแมนเทคจะขยายงานการตลาดขององค์กรให้มากขึ้นผ่านทรัพยากรที่สำคัญและความสามารถในการเร่งการเข้าถึงเป้าหมายและเติบโตอย่างยั่งยืน
ไซแมนเทคได้สร้างสำนักประธานบริหารแห่งใหม่ เป็นสำนักงานของทีมบริหารระดับสูง (เจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินระดับสูง ประธานส่วนผลิตภัณฑ์และบริการ และเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการต่างๆ) ซึ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อเสริมการตัดสินใจด้านการดำเนินงานต่างๆ ร่วมกับเบ็นเน็ตต์ในแต่ละวัน โดยรายงานตรงต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งรายงานเหล่านี้ขึ้นกับฟังก์ชันการทำงาน (อาทิ งานทรัพยากรบุคคล งานการเงิน งานด้านกฎหมาย เป็นต้น) และรายงานยอดขายตามภูมิภาคโดยผู้บริหารงานขายสูงสุดในแต่ละภูมิภาค รวมถึงยังมีทีมงานระดับสูงส่วนอื่นๆ อาทิ เจ้าหน้าที่บริหารส่วนงานเทคโนโลยีสารสนเทศ การตลาด การสื่อสารและเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่รายงานตรงต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
เพื่อที่จะทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและสามารถประยุกต์ปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการของลูกค้า จึงต้องปรับเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานส่วนหน้าที่พบลูกค้าโดยตรง ให้สามารถรับข้อมูลและตัดสินใจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละวัน ด้วยกลยุทธ์นี้จะส่งผลใหจำนวนผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารระดับกลางเพื่อการตัดสินใจนั้นลดลง โดยกระบวนการนี้จะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556
“ไซแมนเทค เป็นบริษัทที่มั่นคงมีผลิตภัณฑ์ชั้นนำ แบรนด์และมีพนักงานที่มีความสามารถถสูง” เบ็นเน็ตต์ กล่าว “ผู้บริหารรุ่นเก่าหรือพนักงานที่ลาออกจากบริษัทไปถือเป็นทรัพยากรที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้สร้างให้พวกเราก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ขั้นตอนต่อไปคือ การเปลี่ยนทัศนคติ เพื่อช่วยให้พวกเราสามารถประยุกต์ปรับตัวให้ทันกับตลาดได้รวดเร็วขึ้น และในท้ายที่สุด เรายังคงสานต่อวัฒธรรมประเพณีและมาตรฐานที่สูงของไซแมนเทคต่อไป เพื่อมอบคุณค่าดีๆ ให้กับพนักงานของเรา ลูกค้า พันธมิตรและผู้ถือหุ้นต่อไป”
ผลกระทบทางการเงิน
หลังจากที่เราดำเนินการตามกลยุทธ์และยุทธศาสตร์ที่วางไว้ เรามั่นใจว่าจะมีอัตรารายได้ที่เติบโตขึ้นอย่างมั่นคงมากกว่า 5% และอัตรากำไรจากการดำเนินธุรกิจ (non-GAAP) ดีกว่า 30% ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า
ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญโดยเริ่มต้นจากการปรับปรุงความสามารถในการเติบโต ริเริ่มทีมเฉพาะทางในการดูแลลูกค้าต่ออายุ ปรับมุ่งเน้นไปที่พนักงานขายในการเปิดธุรกิจใหม่และลดความซับซ้อนขององค์กร รวมถึงโครงสร้างการดำเนินงาน ด้วยวิธีเหล่านี้ เราคาดหวังจะมีการเติบโตของรายได้อยู่ระหว่าง 0% และ 2% ในปี พ.ศ. 2557 อย่างไรก็ตาม เรายังพบว่ามีโอกาสมากมายในการผลักดันประสิทธิภาพและนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งจะช่วยลดความซ้ำซ้อนและความซับซ้อนลง ผลลัพธ์ที่ได้ เราคาดหวังว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น (non-GAAP)ประมาณ 200 จุดในปี พ.ศ. 2557 เราประมาณการว่าจะในช่วงเริ่มต้นจะมีค่าใช้จ่ายในด้านเงินชดเชยประมาณ 275 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะกระทบต่อกระแสเงินสดในปี พ.ศ. 2557
โดยหลังปี พ.ศ. 2557 คาดการณ์รายได้ที่มั่นคงจะช่วยสร้างอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีได้มากกว่า 5% ตลอดปี พ.ศ. 2558 ถึง พ.ศ. 2560 ตามแผนที่เราวางไว้ เราคาดหวังว่าจะเพิ่มอัตรากำไรจากการดำเนินงานได้อีก 200 จุดในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งจะทำให้เราไปถึงเป้าหมายผลการดำเนินงานค่าการตลาดก่อนบันทึกบัญชีที่ 30% ในสิ้นปี พ.ศ. 2558
เว็บเคส
ไซแมนเทคมีกำหนดถ่ายทอดเว็บเคสตั้งแต่เวลา 16.30 น. ถึงเวลา 17.30 น. ตามเวลานิวยอร์ก วันนี้ โดยจะกล่าวถึงทิศทางกลยุทธ์ของบริษัท แผนการดำเนินงาน แผนการลงทุน และผลประกอบการ พร้อมคำแนะนำ ท่านสามารถฟังการถ่ายทอดสดและร่วมชมการพรีเซนต์ได้ โดยเข้าไปที่ http://www.symantec.com/invest ก่อนเวลาเริ่มอย่างน้อย 15 นาที เพื่อลงทะเบียน ดาวน์โหลดและติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบเสียงที่จำเป็นต่างๆ หลังจากการถ่ายทอดสดนี้เสร็จสิ้นลง 24 ชั่วโมง ท่านสามารถรับชมรายการนี้ซ้ำได้ทางเว็บเคส
เชื่อมต่อกับไซแมนเทค
Blog Post: Symantec’s New Direction
Follow Symantec on Twitter
Join Symantec on Facebook
View Symantec’s SlideShare Channel
Subscribe to Symantec News RSS Feed
Visit Symantec Connect Business Community
Oasis Media
02-937-4735