ผู้กำกับบิณฑ์ เผยว่า
“ผมต้องการให้ผู้ชมได้เห็นถึงภูมิประเทศของอินเดียในทุกๆ ด้าน และต้องเป็นด้านที่แตกต่างจากประเทศไทย ฉากนี้จึงยกกองเดินทางไปถ่ายทำกันที่แม่น้ำเนรัญชรา ซึ่งปัจจุบันมีแต่ทรายและวัชพืช และที่สำคัญเป็นที่สำหรับคนอินเดียถ่ายทุกข์ เผาศพ แม่น้ำเนรัญชราจะมีน้ำเฉพาะฤดูฝนเท่านั้น ปัจจุบันนี้ตอนที่ทีมงานไปถ่ายทำก็ตื้นเขินจนเดินข้ามไปมาได้กลายเป็นทะเลทรายไปหมดดูสุดลูกหูลูกตา กองถ่ายเดินทางไปถ่ายทำกันถึงกลางแม่น้ำ อากาศที่ตรงนั้นร้อนระอุซึ่งวันนั้นวัดได้ถึง 50-52 องศาเซลเซียส ร้อนมากๆ ร้อนจนทีมงานและนักแสดงเกือบทุกคนเลือดกำเดาไหล ผมเองก็อดสงสารนักแสดงตัวน้อยไม่ได้ ต้องค่อยเดินกางร่มให้ตลอด การถ่ายทำค่อนข้างลำบากกับภูมิประเทศที่ต้องคอยหลบเลี่ยงก้อนดินระเบิด คือก้อนอึของคนอินเดีย มีทั้งใหม่ทั้งเก่าหลบกันให้วุ่นวายไปหมด แดดไม่แรงอย่างเดียว ลมก็แรงด้วย พัดมาทีเหมือนพายุงวงช้างลูกเล็กๆ หาที่กำบังก็ไม่ได้เพราะเราถ่ายกันกลางแม่น้ำเลย ผ้าปิดปากและผ้าโพกหัวเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่ทุกคนต้องพกติดตัว เป็นเครื่องช่วยชีวิตอย่างดี เพราะลมอาจจะพัดซากฟอสซิล (อึของคนอินเดียที่แห้งเป็นผง ใช้เรียกกันระหว่างทีมงานและนักแสดงในกองถ่าย) ปลิวมาเข้าปากเข้าตาได้ แต่ถึงจะร้อนและลำบากกันขนาดไหนพวกเราทีมงานก็ไม่ย่อท้อตั้งใจถ่ายทำ นักแสดงก็ตั้งใจแสดง เพื่อให้ได้ภาพสวยแปลกตาในหนังไทยมาฝากผู้ชมกันครับ”
“ปัญญาเรณู 3 ตอน รูปูรูปี” พร้อมโกอินเดียเคลียร์ความเครียดเพียบพร้อมความสนุก 7 มีนาคมนี้ในโรงภาพยนตร์...นะจ๊ะ นายจ๋า