เจ้าของฉายา “คาวบอยชินโกะ” นักกอล์ฟทำเงินรางวัลสูงสุดเจแปนทัวร์ 5 สมัย เจ้าของแชมป์เจแปนทัวร์ 26 รายการ เป็นอีกหนึ่งนักกอล์ฟระดับโลกที่จะลงแข่งขัน พร้อมกับนักกอล์ฟระดับแชมป์เจแปนทัวร์ อาทิ ยูตะ อิเคดะ โยชิโนริ ฟูจิโมโตะ และโตชิโนริ มูโตะ ซึ่งทุกคนต่างคว้าแชมป์ในเจแปนทัวร์ฤดูกาล 2012 ที่ผ่านมาแล้วทั้งสิ้น
นอกจากนี้ยังมี คิม คยุง แต, คิม ฮุง ซุง, ลี คยอง ฮุน และริว ฮุน วู ร่วมด้วยสองนักกอล์ฟอเมริกันเชื้อสายเกาหลีอย่าง ฮาน ลี และ เจย์ ชอย, เบรนดัน โจนส์ และ แบรด เคนเนดี้ สองโปรมือดีจากออสเตรเลีย และวู อาชุน แชมป์รายการพิเศษของเจแปนทัวร์ปีที่แล้วจากจีน ทั้งหมดจะลงประชันฝีมือในศึกไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 44 ซึ่งเป็นการร่วมกันจัดการแข่งขันเป็นครั้งแรกของวันเอเชียกับเจแปนกอล์ฟทัวร์ออร์แกนไนเซซั่น (เจจีทีโอ) และจะนับเงินรางวัลสะสมจากรายการนี้ไปรวมกับการจัดอันดับทำเงินของทั้งสองทัวร์ ทำให้นักกอล์ฟชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้ความสนใจเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้อย่างคับคั่ง
คาตายามาซึ่งสนับสนุนการร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างเจจีทีโอกับวันเอเชีย เขาเชื่อว่าทั้งสององค์กรจะได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย และนักกอล์ฟญี่ปุ่นรุ่นใหม่จะได้รับประโยชน์มากมายจากรายการโคแซงชั่นนี้ เขากล่าวว่า “ผมอยากให้มีรายการที่ทั้งสององค์กรร่วมมือกันจัดเพิ่มมากขึ้น”
คาตายามา นักกอล์ฟอันดับ 183 ของโลก ซึ่งมีอายุ 40 ปีเต็มเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เคยครองตำแหน่งนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของญี่ปุ่น 5 สมัย เขาเชื่อว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคในการประสบความสำเร็จ โดยล่าสุดรั้งอันดับ 18 ของตารางเงินรางวัลสะสมฤดูกาลที่แล้ว เจ้าตัวเผยว่า “ผมเคยเป็นนักกอล์ฟที่ทำเงินสูงสุดในเจแปนทัวร์เมื่อตอนอายุ 20 กว่าๆ และ 30 กว่าๆ มาแล้ว ผมตั้งใจที่จะทำให้ได้อีกในช่วงอายุ 40”
ทั้งนี้คาตายามาจะลงแข่งขันรายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งเขายังจำครั้งแรกที่ลงเล่นรายการนี้ในปี 2010 ได้เป็นอย่างดี เมื่อสามารถทำอัลบาทรอสได้ในหลุม 10 พาร์ 5 ระยะ 524 หลา ที่สนามบูรพากอล์ฟคลับ และจบที่ อันดับ 11 ในครั้งนั้น ด้วยสกอร์ตามหลัง เหลียง เหวิน ชอง แชมป์ในปีนั้น อยู่ 5 สโตรค เขากล่าวทิ้งท้ายว่า “ฟอร์มการเล่นของผมกำลังดีขึ้น ผมชนะมาแล้ว 26 รายการ และอยากจะชนะให้ได้ 35 รายการก่อนที่ผมจะอายุครบ 45 ปี เป้าหมายของผมในปีนี้คือคว้าแชมป์ 2 รายการ และลงแข่งขันเดอะมาสเตอร์สในปีหน้า”