“ยุทธพงศ์” แจงผลการประชุมยางพาราอาเซียนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เป็นเวทีผู้ผลิตพบผู้ซื้อในการเจรจาซื้อขายยาง

ศุกร์ ๑๒ เมษายน ๒๐๑๓ ๑๓:๒๕
“ยุทธพงศ์” แจงผลการประชุมยางพาราอาเซียนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เป็นเวทีผู้ผลิตพบผู้ซื้อในการเจรจาซื้อขายยาง พร้อมความคืบหน้าการจัดตั้งรับเบอร์ซิตี้ และการใช้ยางพาราผสมแอสฟัลต์คอนกรีตในงานถนนทางหลวง

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการจัดการสัมมนายางพาราอาเซียนและประเทศพันธมิตร เรื่อง ทิศทางและการเติบโตในด้านอุตสาหกรรมยางของกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศพันธมิตร ในระหว่างวันที่ 10 — 11 เมษายน 2556 ณ โรงแรมฮิลตัน ภูเก็ต อาร์คาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา ว่า นับเป็นการจัดประชุมครั้งแรก นอกจากได้มีการเชิญนักวิชาการด้านยางพาราจากประเทศต่าง ๆ มาร่วมแลกเปลี่ยนนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเพาะปลูกยางพาราแล้ว ประเทศผู้ผลิตยางพาราจากทั้ง 10 ประเทศ ยังได้มีโอกาสพบกับผู้ซื้อรายใหญ่ของโลก ได้แก่ ประเทศจีน และอินเดีย อีกทั้งได้เชิญผู้แทนบริษัทที่ผลิตล้อยางสำหรับรถยนต์และเครื่องบิน เข้าร่วมงานด้วย นอกจากนี้ ได้มีการเจรจาและลงนามซื้อขายยางมากกว่า 8 แสนตัน ระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อจากประเทศจีน และไต้หวัน

นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ในการประชุมครั้งนี้ ยังมีความคืบหน้าในความร่วมมือของประเทศไทยและมาเลเซียในการจัดตั้งรับเบอร์ซิตี้ โดยรองปลัดกระทรวงผลิตและอุตสาหกรรมของมาเลเซีย ได้ร่วมหารือภาคเอกชนของไทยในการจัดตั้งรับเบอร์ซิตี้ และเห็นว่าเหมาะสมที่จะจัดตั้งบริเวณชายแดนด่านประกอบ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา โดยทั้งสองประเทศเห็นด้วยที่จะให้มีการสนับสนุนสิทธิพิเศษด้านภาษี ด้านพัฒนาที่ดิน และทางมาเลเซียต้องการให้แรงงานไทยจากจังหวัดชายแดนใต้ เข้าไปทำงานในมาเลเซียจำนวน 3 หมื่นคน ซึ่งการจัดตั้งรับเบอร์ซิตี้ นอกจากจะเป็นการพัฒนาพื้นที่ชายแดนของ 2 ประเทศ เป็นเขตอุตสาหกรรมยางพารา เพื่อเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชากรทั้ง 2 ประเทศ โดยใช้วัตถุดิบหลักจากประเทศไทย และนับเป็นมาตรการทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะได้ช่วยแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย

“ในความร่วมมือนี้ ไทยพร้อมที่จะป้อนวัตถุดิบน้ำยางข้นคุณภาพสูง หรือยางชนิดอื่นจากประเทศไทย รวมทั้งแรงงานฝีมือที่ต้องการจากฝั่งไทยด้วย ในขณะเดียวกันเขตอุตสาหกรรมนี้ก็จะได้รับประโยชน์จากมาเลเซียที่มีต้นทุนด้านพลังงานถูกกว่า และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการผลิตมากกว่า เชื่อว่า เมื่อโครงการนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว จะสามารถเพิ่มความต้องการใช้ยางอีกไม่น้อยกว่าปีละ 200,000 ตัน” นายยุทธพงศ์ กล่าว

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ในโอกาสนี้ยังได้มีการประกาศความร่วมมือระหว่าง กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดำเนินโครงการวิจัยการใช้ยางพาราผสมแอสฟัลต์คอนกรีตในงานถนนทางหลวงหมายเลข 44 สายกระบี่ - ขนอม กม.4 + 500 - กม. 21 + 400 (ด้านขวาทาง) ซึ่งเป็นทางเชื่อมฝั่งทะเลอันดามันกับฝั่งทะเลอ่าวไทย ระยะทาง 16.9 กิโลเมตร วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศ ด้วยการเพิ่มมูลค่าผลผลิตยางพาราในการเป็นส่วนผสมกับยางแอสฟัลต์ พัฒนาเทคโนโลยีการผสมแอสฟัลต์กับยางพาราเพื่อการใช้งานจริงในลักษณะเชิงพาณิชย์ และเพื่อศึกษาคุณสมบัติเชิงวิศวกรรมของพาราแอสฟัลต์ซีเมนต์ และของผิวทางพาราแอสฟัลต์คอนกรีตในงานก่อสร้างจริง ทั้งก่อนปูผิว ระหว่างปูผิว และหลังปูผิว

กองเกษตรสารนิเทศ

สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์

โทร 02-2810859 แฟกซ์ 02-2822871

[email protected]

www.moac.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน