“น้ำบาดาลพุ” มหัศจรรย์ธรรมชาติ แก้วิกฤติน้ำแล้งเพื่อการเกษตร

ศุกร์ ๑๐ พฤษภาคม ๒๐๑๓ ๐๙:๒๔
นายสุพจน์ เจิมสวัสดิพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเดินหน้าสำรวจ ศึกษา และพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลพุ ขึ้นมาใช้ประโยชน์ ด้วยความร่วมมือของเกษตรกรในหลาย ๆ พื้นที่ เพื่อศึกษาศักยภาพของแหล่งน้ำบาดาลพุในการเป็นแหล่งน้ำเสริมเพื่อทำการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งที่ผ่านมาได้มี การดำเนินโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลพุในพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนกลางอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ ปี 2553 โดยนำร่องการพัฒนาน้ำบาดาลพุเพื่อการเกษตร ณ บ้านอ้อคำ ตำบลกระนวน อำเภอซำสูง จังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้รับเกียรติจาก นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานส่งมอบระบบนำร่องการพัฒนาน้ำบาดาลพุเพื่อการเกษตรแก่ประชาชนผู้ใช้น้ำและเกษตรกร ในพื้นที่บ้านอ้อคำ ตำบลกระนวน อำเภอซำสูง จังหวัดขอนแก่น เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน 2556 ที่ผ่านมา

สำหรับการนำร่องพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลพุเพื่อการเกษตรที่บ้านอ้อคำ ตำบลกระนวน อำเภอซำสูง จังหวัดขอนแก่น ครอบคลุมเนื้อที่รวม 572 ไร่ 1 งาน 33 ตารางวา สามารถช่วยให้เกษตรกรกว่า 290 ครัวเรือน ไม่ขาดแคลนแหล่งน้ำและสามารถทำการเกษตรได้ตลอดปี โดยมีการจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำบาดาลพุบ้านอ้อคำ และคณะกรรมการกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำบาดาลพุ เพื่อบริหารจัดการแหล่งน้ำด้วยตนเอง รวมถึงมีการต่อยอดวางระบบกระจายน้ำเพื่อทำการเกษตร ซึ่งผลสำเร็จของโครงการฯ สามารถยืนยันถึงประโยชน์ในการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลพุ ทั้งในแง่ของการแก้ปัญหาภัยแล้ง และการประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวเพิ่มเติมว่า บ่อน้ำบาดาลพุ เป็นบ่อน้ำบาดาลที่น้ำไหลออกมาเอง โดยไม่ต้องใช้เครื่องสูบน้ำ ซึ่งแหล่งน้ำบาดาลพุเกิดจากสภาพอุทกธรณีวิทยาเฉพาะแห่งที่ทำให้ชั้นหินกักเก็บ น้ำบาดาลอยู่ภายใต้แรงดัน หรือเรียกว่าชั้นน้ำบาดาลภายใต้แรงดัน และสำรวจพบว่ามีกระจายอยู่ทั่วไป ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในลุ่มน้ำมูล ชี และโขง ประมาณ 1.7 ล้านไร่ ระดับความสูง ของน้ำที่พุขึ้นมา มีตั้งแต่ไหลล้นจากปากบ่อจนถึงระดับความสูงถึง 8 เมตร โดยทั่ว ๆ ไปมีปริมาณการไหลอยู่ระหว่าง 50 — 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่ในพื้นที่บางแห่งที่มีรอยแตกขนาดใหญ่จะมีปริมาณการไหลมากกว่า 4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ดังนั้น แหล่งน้ำบาดาลพุจึงเป็นแหล่งน้ำที่ควรจะพัฒนาขึ้นมาใช้ประโยชน์ในการเกษตรและแก้ปัญหาภัยแล้งในระยะเผชิญเหตุ เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำที่ให้ปริมาณน้ำมาก ไม่ต้องเสียพลังงานในการสูบน้ำ และสามารถต่อยอดในการวางระบบกระจายน้ำเพื่อทำการเกษตรได้

ทั้งนี้ นอกจากพื้นที่นำร่องบ้านอ้อคำแล้ว พบว่า ยังมีอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศที่มีศักยภาพน้ำบาดาลพุ และสามารถนำน้ำมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ เช่น บ้านสันเจริญ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน บ้านพุเตย อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี บ้านปากแพรก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และบ้านหนองแวงน้อย อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น เป็นต้น และล่าสุดยังพบที่อำเภอด่านซ้าย และอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ซึ่งในแต่ละพื้นที่ดังกล่าวจำเป็นต้องมีการศึกษาโดยละเอียดต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน