MFEC ผ่าตัดการบริหารองค์กรครั้งใหญ่ มุ่งสร้างผลงานเติบโตยั่งยืนปีละ15%

อังคาร ๒๘ พฤษภาคม ๒๐๑๓ ๑๑:๓๓
ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร” เผย MFEC ผ่าตัดการบริหารองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อขึ้นสู่เป้าหมายเป็นบริษัทฯที่มีกำไรเติบโตต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 15% หรือโตเท่าตัวทุก 5 ปี เพื่อสร้างองค์กรให้แข็งแกร่งเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว มั่นใจผู้ถือหุ้น-แฟนคลับแฮปปี้เพราะ MFEC จะเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอทุกปี คุยผลงาน Q1/56 เป็นไตรมาสแรกที่พิสูจน์ความสำเร็จของความเปลี่ยนแปลงนี้

นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC ผู้ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษา พัฒนาและวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน เปิดเผยว่า MFEC ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการภายในองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อขึ้นสู่เป้าหมายเป็นบริษัทฯ ที่มีกำไรเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าปีละ 15% หรือเติบโตขึ้น 100% ในทุกๆ 5 ปี เพื่อสร้างองค์กรให้แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยเรื่องแรกที่ MFEC ได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือการวางแผนสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพรองรับการเติบโตในระยะยาว และการใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

"เราเห็นว่าการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพป้อนให้กับองค์กรอย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องจำเป็นที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมไอที เนื่องจากเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราจำเป็นต้องมีคนใหม่เข้ามารับงานที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างงานให้ทันกับความต้องการของลูกค้า ดังนั้น MFEC จึงเร่งพัฒนาบุคลากรอย่างเร่งด่วน โดยใช้วิธีที่แตกต่างที่สามารถคัดเลือกบุคลากรที่ตรงกับความต้องการได้โดยตรง แต่มีค่าใช้จ่ายลดลงหลายเท่าตัว ด้วยการร่างหลักสูตรการศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาค ทำให้สามารถสร้างบุคลากรที่ตรงกับความต้องการได้ทันที ซึ่งเราได้เริ่มทำอย่างจริงจังแล้วตั้งแต่ 1-2 ปีที่ผ่านมา”

นายศิริวัฒน์กล่าวต่อว่าการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพของ MFEC เริ่มที่เข้าไปร่วมมือกับสถานศึกษาในระดับอุดมศึกษาในส่วนภูมิภาค ในนามของ MFEC GROUP ภายใต้โครงการสหกิจศึกษา โดยทาง MFEC GROUP และสถาบันการศึกษาได้ร่างหลักสูตรร่วมกันและให้นักศึกษาในปีที่ 3 และ 4 ได้เข้ามาเรียนและฝึกงานกับ MFEC GROUP ถือเป็นการสร้างบุคลากรที่ตรงกับงาน และ สามารถคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณสมบัติที่ต้องการเข้าร่วมงานกับบริษัทฯ ได้ทันที การผลิตคนใหม่เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่จึงเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่การบริหารภายใน MFEC ได้จัดโครงสร้างใหม่รองรับบุคลากรใหม่ที่เพิ่มขึ้น และสนับสนุนผู้อาวุโสมากประสบการณ์ในองค์กรให้ไปบริหารบริษัทย่อยที่ MFEC จะเข้าไปร่วมถือหุ้นและสนับสนุนให้สร้างงานต่อยอดจากงานของ MFEC ต่อไป ซึ่งผลที่ได้รับคือ MFEC จะมีบุคลกรรุ่นใหม่ที่เข้ามาพัฒนาผลงานรองรับเทคโนโลยีใหม่ ในขณะที่คนเก่าจะได้เป็นผู้ถือหุ้น หรือผู้บริหารบริษัทใหม่ที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวของ MFEC ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเริ่มเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว จากผลประกอบการในไตรมาสที่ 1/2556 ที่ผ่านมา จะเห็นว่า MFEC มีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่น มีกำไรสุทธิเติบโตถึงร้อยละ 455 จากกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 1/2555 มาเป็น 72 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 1/2556 และมีงานในมือ (Backlog) สูงถึง 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากที่มีบุคลากรคุณภาพเพียงพอต่อการรับงานที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องได้

เขากล่าวอีกว่าการบริหารจัดการในรูปแบบใหม่จะทำให้ MFEC ปรับจากบริษัทฯ ที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงแต่ขาดการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว ทำให้ไม่สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ มาเป็นบริษัทที่มีกำไรเติบโตสม่ำเสมอ ปันผลอย่างต่อเนื่อง และมีทิศทางการเติบโตที่ชัดเจนถึง 100% ในทุกรอบ 5 ปี ซึ่งเชื่อว่าทั้งผู้ถือหุ้นและนักลงทุนระยะยาวที่เป็นแฟนคลับของ MFEC จะพอใจกับนโยบายดังกล่าว จะเห็นได้จากปัจจุบันราคาหุ้นของ MFEC ได้ปรับเพิ่มขึ้นสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงอย่างต่อเนื่องแล้ว

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคิน ได้แนะนำซื้อหุ้น MFEC โดยให้มูลค่าเหมาะสมใหม่ 11.70 บาท และเปลี่ยนจาก “หุ้นปันผลสูง” เป็น “หุ้นเติบโตยั่งยืน” โดยได้เพิ่มมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยพื้นฐาน MFEC โดยเห็นว่าบริษัทฯ มีโอกาสเติบโตตามภาคโทรคมนาคมและต่อยอดบริการที่มีมูลค่าเพิ่มประเภท ICT Solution ประกอบกับเริ่มเห็นผลบวกของการปรับปรุงและพัฒนาองค์กรต่อฐานค่าใช้จ่ายมีแนวโน้มชะลอลง จึงมองว่ากลยุทธ์เน้นสร้างรายได้ประจำและคุมค่าใช้อย่างมีประสิทธิภาพจะผลักดันกำไรเติบโตดีกว่ามุมมองเดิม จึงปรับเพิ่มประมาณการปี 2556-2557 จากเดิมเฉลี่ยต่อปี 33% และประเมินมูลค่าเหมาะสมใหม่ 11.70 บาท

ข้อมูลบริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน)

บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจบริการให้คำปรึกษา พัฒนา และวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายงานเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับบริษัทวิสาหกิจ (Enterprise) ทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วมากที่สุดในประเทศ บริษัทฯ มุ่งเน้นให้บริการลูกค้าในกลุ่มวิสาหกิจขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความต้องการงานบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสูง เช่น กลุ่มธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม, สถาบันการเงิน, อุตสาหกรรมการผลิต, รัฐวิสาหกิจและสาธารณูปโภค และบริการทางการแพทย์ ขอบเขตการบริการครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา การพัฒนา และวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสารสนเทศ แอพพลิเคชั่นทางธุรกิจและบริหารองค์กร โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนาที่เน้นการพัฒนาโซลูชั่นจากประสบการณ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย

เอ็ม เอฟ อี ซีฯ ได้สร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทและผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำระดับโลกมาโดยตลอด โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างมาตรฐานของสินค้า และบริการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของไทยให้เป็นที่ยอมรับทั่วโลก พร้อมทั้งพัฒนางานด้วยมาตรฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ CMMI, ITIL และอื่นๆ ด้วยวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่จุดมุ่งหมายในฐานะ ‘ที่ปรึกษาและเพื่อนคู่คิด’ โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ให้เหมาะสมและส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันขององค์กรลูกค้า ด้วยปณิธานบริษัทคือ “ลูกค้าเสมือนหุ้นส่วน” และก้าวสู่ผู้นำอุตสาหกรรมบริการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของไทย ด้วยมาตรฐานบริการที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

ปัจจุบันได้ควบรวมกิจการกับบริษัทผู้ประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศระดับแนวหน้าของประเทศไทย ได้แก่ บริษัท ซอฟต์สแควร์ กรุ๊ป, บริษัท บิสซิเนส แอพพลิเคชั่น จำกัด และบริษัท โมทีฟ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ในนาม MFEC GROUP อีกทั้งยังมีบริษัทพันธมิตรคุณภาพอย่าง บริษัท เอ-โอสต์ จำกัด ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง รองรับการแข่งขันในตลาดระดับภูมิภาคและระดับโลก และก้าวสู่การเป็นผู้นำในด้านอุตสาหกรรม Software และ IT Services ของประเทศไทย ทำให้ปัจจุบันมีพนักงานรวมบริษัทในเครือทั้งสิ้นกว่า 1,500 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 80 เป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างสูง และกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 700 บริษัท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๒ คณะ กิจกรรม วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ อัลเตอร์วิม ร่วมวิจัย-พัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงาน
๑๖:๐๖ กรุงศรีออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือนตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย
๑๖:๒๙ Lexar Professional CFexpress 4.0 Type B Card DIAMOND คว้ารางวัล BEST STORAGE MEDIA ในงาน TIPA WORLD AWARDS
๑๖:๔๔ ฟอร์ติเน็ต ร่วมมือ สกมช. คัดเลือก-ฝึกอบรมเสริมทักษะบุคลากรคลาวด์ เล็งเพิ่มทรัพยากรบุคคล เสริมความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์ทุกรูปแบบ
๑๖:๒๙ ไอ-เทล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก แข็งแกร่งด้วย รายได้กว่า 4 พันล้าน กำไรเพิ่ม 93 เปอร์เซ็นต์ มุ่งการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี
๑๖:๒๒ หมอแม็ค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของไทย
๑๖:๐๗ ทรูเวฟ (ประเทศไทย) เปิดตัว GreenFarm.AI ผู้ช่วยคนใหม่ที่จะทำให้สวนเติบโตสวยและยั่งยืนได้ดั่งใจ
๑๖:๕๐ ไบเทคบุรี เมกะโปรเจกต์ของภิรัชบุรี กรุ๊ป พลิกโฉม ไบเทค บางนา ก้าวข้ามอุตสาหกรรม MICE สู่สถานที่แห่งไลฟ์สไตล์ครบวงจร
๑๖:๕๒ ดีมันนี่ ตอกย้ำความสำเร็จในงาน Money 20/20 Asia ในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน โอนเงินไปต่างประเทศชั้นนำในวงการฟินเทคไทย
๑๖:๕๔ สบยช. ยืนยัน ชาเม่ คอลลาเจน ไม่มีสารเสพติด