“ยุทธพงศ์” งัดมาตรการเร่งด่วนดึงราคายางให้สูงขึ้น

จันทร์ ๑๗ มิถุนายน ๒๐๑๓ ๑๑:๐๕
“ยุทธพงศ์” งัดมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ดึงเอกชนร่วมลงทุนหน่วยงานละ 30 ล้านบาทรวม 210 ล้านบาท เพื่อนำมารับซื้อยางพารา 110 บาท/กก.ในตลาด AFET เชื่อมั่นจะกระตุ้นราคายางให้สูงขึ้น

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางว่า จากสถานการณ์ยางพาราที่ประสบปัญหาตกต่ำในขณะนี้ ที่ประชุมได้วิเคราะห์ปัญหาทราบว่าเกิดจากปัจจัยหลายประการ อาทิ พบว่ามีการใช้ยางในสัดส่วนการโตที่น้อยกว่าสต๊อกยางในโลกที่เกินอยู่ประมาณ 500,000 ตันและกระแสการแข็งค่าเงินบาท

ขณะเดียวราคายางมีการปรับตัวลดลงเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ได้ส่งผลให้ราคายางตกต่ำลง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้แก้ไขปัญหาในระยะยาวและนำมาตรการที่ช่วยยกระดับเสถียรภาพราคายางให้สูงขึ้นมาใช้อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของชาวสวนยางน้อยที่สุด

โดยหนึ่งในมาตรการเร่งด่วนที่ที่ประชุมเห็นชอบในขณะนี้คือ เร่งให้มีการซื้อขายยางพาราผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย(เอเอฟอีที)ร่วมกับบริษัทเอกชนในราคานำตลาดที่ 110 บาท/กก.ให้ดำเนินการในรูปธรรมให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคม2556 นี้

สำหรับ การซื้อขายยางผ่านเอเอฟอีทีจะร่วมมือกับ 7 บริษัทรวมมีเงินกองทุน 210 ล้านบาท ซื้อยางได้ประมาณ 5 หมื่นตัน โดยคาดว่าเมื่องบประมาณแต่หน่วยงานรวมกันแล้ว จะก่อให้เกิดปริมาณการซื้อขายโดยเฉลี่ย 300-400 สัญญาต่อวัน

นอกจากนี้ ทาง AFET ได้ยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวสามารถกระทำได้โดยไม่ผิดกฎหมายและไม่ถือเป็นการแทรกแซงราคายางแต่อย่างใด แต่เป็นการซื้อขายผ่านตลาดล่วงหน้า โดยหากมีผู้ขายจากต่างชาติเข้ามาขายยางพารา AFET ก็สามารถควบคุมการซื้อขายได้ และคาดว่าจะสามารถรับซื้อยางพาราได้ประมาณ 42,000 ตัน ซึ่งจะสามารถปรับราคายางพาราให้เข้าสู่เสถียรภาพที่กิโลกรัมละ 110 บาทได้

สำหรับ หน่วยงานเอกชนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ 1. องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) 2.บริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ (IRCo) 3.บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท ศรีตรัง แอโกร อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) 5.บริษัท ไทย รับเบอร์ลาเท็คซ์ คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 6.บริษัท เซาท์แลนด์ รับเบอร์ จำกัด 7.บริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด

“รัฐบาลมุ่งเน้นแก้ปัญหาเสถียรภาพราคายางในระยะยาว เพราะต้องการสร้างเสถียรภาพความมั่นคงให้อาชีพชาวสวนยาง โดยมุ่งที่จะรักษาเกษตรกรให้ทุกคนอยู่ได้อย่างมั่งคงและยั่งยืนภายใต้การกำหนดนโยบายตามความเป็นจริง” นายยุทธพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์ราคายาง ณ ตลาดกลางยางพาราสงขลาช่วงวันที่27-31 พฤษภาคม 2556ที่ผ่านมา ราคาทรงๆโดยรวมราคาเฉลี่ยทั้งสัปดาห์ปรับตัวลดลงจากราคาเฉลี่ยสัปดาห์ก่อนเพียงเล็กน้อย ทั้งยางแผ่นดิบและยางแผ่นรวมควัน เนื่องจากตลาดล่วงหน้าโตเกียวปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดหุ้นและราคาน้ำมัน ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่ารวมทั้งเงินบาทอ่อนค่าเหนือระดับ 30 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ แม้จะส่งผลดีต่อผู้ส่งออก แต่จากสภาพอากาศที่เริ่มดีขึ้นทำให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยลบต่อราคายางตามมา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน