“Mood & Tone ของภาพยนตร์จะอยู่ช่วงปลาย 80 จนถึงยุค 90 ต้นๆ เราจะเห็นการแต่งกายด้วยเสื้อตัวโคร่งๆใหญ่ๆ Make up สีตุ๋นๆ ลูกกรงเหล็กแบบสมัยก่อน รถฟอร์ดคอร์ติน่าแอล ปืนสมิท.357 ควันเยอะๆ ฝนตก มันคือโลกของภาพยนตร์ตำรวจในยุค 80’s มากๆครับ ผมกล้าพูดว่าโปรดักชั่นดีไซด์ของผมเหนือชั้น ถึงแม้จะไม่ได้หวือหวาอลังการงานสร้าง แต่มันเหนือชั้นในแง่ที่มันตกผลึกดีจริงๆสีของม่าน สีของโซฟาของทุกอย่าง ผ่านการคิดหมด การสร้างโรงพัก สำนักงานตำรวจ เราสามารถเนรมิตสิ่งต่างๆ ออกมาที่ไม่ให้ดูเป็นเซ็ท แต่เป็นจริงทั้งหมด ตั้งแต่ บ้าน สำนักงานตำรวจ ตึกร้างที่ซ่อนตัว บ้านของผู้ร้าย ทุกอย่างทำให้ดูเหมือนจริงและทุกอย่างมันย้อนยุคกลับไปอยู่ในช่วงนั้น”
ในด้านการออกแบบสื่อโปรโมทต่างๆ ทั้งโปสเตอร์ ตัวอย่างภาพยนตร์ หรือ มิวสิควิโอเพลงประกอบภาพยนตร์ คุณชายอดัมตั้งใจมุ่งเน้นให้เป็นในทิศทางเดียวกันหมด เพื่อคงความเป็นเอกลักษณ์ แต่สิ่งที่คำนึงถึงมาเป็นอันดับแรกคือ การสร้างภาพยนตร์ที่มีความสนุก ความบันเทิง ไม่ได้ต้องการสร้างความแตกต่าง ซึ่งในทุกภาพยนตร์นั้นๆจะมีเสน่ห์ที่ต่างกันไป สำหรับ สารวัตรหมาบ้า ก็มีเสน่ห์และสไตล์เฉพาะตัว โดยคุณชายอดัมเล่าว่า
“ส่วนตัวแล้วเสน่ห์ของภาพยนตร์ เปรียบเหมือน การขี่ช้างจับตั๊กแตน คือใน 1 วินาที เราต้องใช้เงินเป็นแสนๆบาทเพื่อที่จะให้เกิดความสมบูรณ์แบบในทุกมิติ ต้องสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ และหากถามถึงเสน่ห์ของภาพยนตร์ สารวัตรหมาบ้า คือ เราได้ย้อนกลับไปดูเมื่อประมาณ 10-15 ปีที่แล้ว เป็นการย้อนกลับไปดูหนังในยุคนึงครับ แต่เราไม่ได้ทำหนังโบราณ เพียงแค่ย้อนเข้าไปในความรู้สึกคุ้นเคย อย่างเพลงประกอบภาพยนตร์เราก็เลือกนำเพลงเข้าใจไปเอง ของซิสเต็มโฟร์ มาcoverใหม่ ซึ่งร้องโดย พี่ช้าง(Siam Secret Service) กฤช ทวีสิน ดนตรีโดย โมโนโทน มิวสิค ซาวด์เพลงจะแปลกหน่อยไม่ใช่เพลงสมัยใหม่ หรือเพลงป็อปยุคปัจจุบันครับซึ่งก็มีการทำมิวสิควิดีโอออกมาด้วยเช่นกันครับ หรือแม้แต่โปสเตอร์หนังจะเป็นแนวผสมผสานยุคกึ่งเก่าและใหม่ โทนสีที่เลือกใช้ก็เข้ากับอารมณ์ของคาแร็คเตอร์ ทีมออกแบบงานสร้างและทีมออกแบบกราฟฟิคผมคัดสรรมาเองกับมือเลยครับ”
ติดตามความเคลื่อนไหวของภาพยนตร์สุดคลาสสิคได้ทาง https://www.youtube.com/sahamongkiolfilmint และ https://www.facebook.com/sahamongkolfilmint เตรียมพิสูจน์ความมันส์เต็มลูกบ้า “สารวัตรหมาบ้า” 4 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์